รีวิว Don’t F**k With Cats สารคดีดังที่จุดจบไม่ใช่แค่เรื่องแมว

Don’t F**k With Cats เป็นสารคดีที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในขณะนี้ เป็นสารดคีที่มีการตัดต่อที่น่าสนใจ และเป็นการเล่าถึงประเด็นอ่อนไหวที่ใครๆกับรับไม่ได้หากคุณทำร้ายสัตว์อบ่างเลือดเย็น เป็นสารคดีอีกเรื่อง ที่ควรอยู่ในรายชื่อ สารคดีน่าดู Netflix ของคุณ ที่ความพีคของสารคดีเรื่องนี้จะไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ เป็น สารคดีที่ไม่ควรพลาด แห่งยุคนี้เลยทีเดียว

สารคดีที่ไล่ล่าคนฆ่าแมว ?

ต้องตอบว่าทั้งถูกและผิด เพราะสารคดีเรื่องนี้เป็นการบอกเล่าถึงพลังของโลกอินเทอร์เน็ตที่ผู้คนจะไม่ยอมอยู่เฉยต่อพฤติกรรมโหดร้ายโดยเฉพาะหากมันเกิดขึ้นกับสัตว์ที่ไร้เดียงสา ซึ่งในที่นี้คือ แมว แต่สารคดีเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีแค่ประเด็นแค่เรื่องราวของแมวอย่างทที่คุณคิด แต่สารคดีเรื่องนี้จะพาคุณไปค้นพบความพีคขึ้นเรื่อยๆ ของการเริ่มต้นจากเรื่องแมวๆนำไปสู่เรื่องราวที่น่าสยดสยองและมากกว่าเรื่องแมวเมื่อมีชีวิตของคนเขามาพัวพันอีกด้วย

สารคดีเรื่องนี้จะนำเสนอแง่คิดในหลายๆมุมมองพร้อมๆทั้งจะทำให้คุณตั้งคำถามกับตัวเองว่า การทำให้ฆาตกรผู้มีจิตใจไม่ปกติผู้นี้เป็นที่รู้จักและเรื่องราวของเขาถูกเผยแพร่และเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางนั้นถูกหรือผิด และสารคดีเรื่องนี้ก็จะพาคุณไปหาคำตอบเกี่ยวกับแรงจูงใจของพฤติกรรมสุดอำมหิต และการนำเสนอความคิดเห็นของความสุดโต่งจากหลายๆฝั่ง รวมถึงในสาคดีเรื่องนี้ก็มีการนำเสนอมุมมองของคนเป็นแม่ ที่จะทำให้คุณฉุกคิดในบางประเด็นที่อาจจะตรงใจของคุณบ้างในบางเรื่องเช่น การกระทำอันสุดโต่งของเหล่านักสืบโซเชี่ยล

และแน่นอนว่าอีกส่วนที่ทำให้สารคดีเรื่องนี้น่าสนใจก็คือการตัดต่อสารคดีที่ทำออกมาได้ไม่น่าเบื่อ มีการตัดสลับจังหวะของเรื่องได้อย่างลงตัว ซึ่งการตัดต่อดังกล่าวก็จะทำให้คุณซึมซับและเข้าใจถึงพลังอำนาจของโลกอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เป็นการดึงความสนใจของคนดูได้ดีมากๆ เพราะในสารคดีเรื่องนี้ไม่มีการจำลองสถานการณ์ให้ดูเหมือนสารคดีเรื่องอื่นๆด้วยซ้ำ แต่มันกลับทำให้คนดูเห็นภาพถึงความโหดร้ายของโลกปัจจุบันได้ดีเอามากๆ

#Don’t F**k With Cats #หนังสารคดี #สารคดี Netflix

The Influence กระชากเงาอดีต หนังสยองขวัญส่งตรงจากสเปน

รีวิวหนัง Netflix The Influence กระชากเงาอดีต

หากคุณกำลังมองหา หนังสยองขวัญ Netflix สักเรื่องที่จะสามารถกระตุกต่อมความกลัวของคุณได้อยู่หมัด ขอแนะนำ The Influence กระชากเงาอดีต เป็นหนังสยองขวัญส่งตรงจากสเปน ซึ่งพอเป็นตลาดหนังระทึกขวัญ สยองขวัญตลาดยุโรปแล้ว ก็เหมือนเป็นเครื่องหมายการันตีว่าความสยองที่จะมาเสิร์ฟคุณโดยที่คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน

เรื่องย่อ หนัง Netflix  The Influence กระชากเงาอดีต

เป็นเรื่องราวของ อลิเซีย เธอกำลังจะเดินทางกลับบ้านเกิด เนื่องจากพี่สาวของเธอได้โทรตามเธอเพื่อกลับมาดูใจของพวกเธอทราตอนนี้กำลังป่วยหนัก รวมไปถึงกำลังจะเตรียมเปิดพินัยกรรมต่างๆเพื่อยกทรัพย์สินในลูกหลาน เธอจำใจจะต้องไปเดินทางไปหาแม่ของเธอ เนื่องจากเธอจำเป็นจะต้องใช้เงินก้อนที่อาจจะได้จากพินัยกรรมเนื่องจากชีวิตของเธอต้องประสบปัญหา ทำให้เธอต้องกลับไปที่บ้านหลังที่เธอเคยเติบโตมาอย่างหวาดระแวง

ความสยองขวัญ ยุคใหม

หนังเรื่องนี้คุณไม่ต้องรอลุ้นว่าตัวหนังมีจุดประสงค์อะไร เพราะว่าตัวหนังจะเฉลยตั้งแต่กลางเรื่องกันเลยทีเดียว แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว เราก็แทบไม่ต้องเดาอะไรเกี่ยวกับตัวเส้นเรื่องหลักเลย เพราะถ้าพูดกันในเรื่องของพล็อตเรื่องที่หากคุณเป็นแฟนหนังแนวนี้อยู่แล้วก็ไม่น่าจะเกินความสามารถอะไรในการเดา เพราะฉะนั้นจะเป็นการโฟกัสไปเรื่องของวิธีที่ทำให้ไปถึงจุดนั้นมากกว่า ว่าหนังจะสรรหาวิธีอะไรมาขายเรา ซึ่งก็ต้องของบอกเลยว่าหนังแบบนี้มากเกลื่อนตลาดพอสมควร เพราะฉะนั้นก็ต้องเก๋ามากพอสมควรที่จะใช้พล็อตเรื่องแบบนี้ในการทำหนัง

แต่ผลก็คือหนังเรื่องนี้ออกมาสยองขวัญได้นัวมาก เพราะว่ามาครบทุกอรรถรสที่เราจะสามารถคาดหวังได้จากหนังสยองขวัญเรื่องหนึ่งได้เลย ไม่ว่าจะเป็นฉากชวนแหวะต่าง ๆ ซึ่งก็เรียกได้ว่าถึงใจพอสมควร รวมไปถึงการนำคาร์แรกเตอร์เด็กนรกเข้ามาใส่ด้วย ถึงจากในเรื่องนี้เราก็จะได้เห็นพัฒนาการของลูกอลิเซีย ซึ่งจะค่อยๆเปลี่ยนไปจากเด็กธรรมดากลายเป็นเด็กนรกมากยิ่งขึ้น ซึ่งประเด็นตรงนี้ก็ได้นำไปสู่จุดจบที่เรียกได้ว่าตามแบบฉบับหนังสยองขวัญยุโรป และสิ่งที่น่าสนใจมากๆคือว่าวิธีการเล่าเรื่องที่ตัวหนังจะพาเราไปดุทั้งเรื่องในปัจจุบันและเรื่องในอดีตที่ตัวนางเอกและพี่สาวได้เติบโตมาในบ้านหลังนี้กับความแปลกประหลาดของแม่เธอ รับรองว่าหากคุณเป็นคอ หนังสยองขวัญ หนังระทึกขวัญ สเปน จาก Netflix เรื่องนี้จะทำคุณผวาและขนหัวลุกไปอีกนานเลยทีเดียว

#หนังสยองขวัญ #หนังผี Netflix #หนังระทึกขวัญยุคใหม่

“The Polar express” คริสต์มาส จิตวิญญาณและความเชื่อมั่น

         สำหรับแอนิเมชั่นที่จะพูดถึงต่อไปนี้ เรียกว่าเป็นหนังเก่าเล่าใหม่ก็ว่าได้ แอนิเมชันที่เป็นกระแสช่วงคริสต์มาสปี 2004 The Polar express ซึ่งตัวชื่อไทยของหนังเขาก็เรียกทับศัพท์กันนี่แหละค่ะ

ว่า เดอะ โพลาร์ เอ็กซ์เพลส หนังที่เรายกนิ้วให้จากค่ายยักษ์ใหญ่ฝั่งตะวันตกอย่าง Warners Bros.

The Polar Express  ถูกกำกับโดย โรเบิร์ต เซเมคคิส ผู้กำกับรางวัลออสการ์อย่าง Forrest Gump นั่นเอง ทำให้ตอนออกฉายเรื่องนี้เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก แถมยังได้รับการวิจารณ์ไปในทางที่ดีอีกด้วย

ถ้าได้เปิดดูช่วงเทศกาวันหยุดแล้วละก็ รับรองว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้จะต้องสร้างสีสันให้กับวันของครอบครัวของเพื่อนๆแน่นอนค่ะ เพราะภาพสวยๆ จาก Sony Imageworks ทั้งดุ้นนี้ กลับมาดูในปี 2020 ยังรู้สึกถึงความอมตะของหนังอยู่เลย ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะผ่านมาเกิน 15  ปีแล้วล่ะค่ะ

เรื่องย่อThe Polar expressเดอะโพลาร์ เอ็กซ์เพลส คริสต์มาส จิตวิญญาณและความเชื่อมั่น

            เรื่องราวถูกดำเนินไปด้วยเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งเคยรอคอยเสียงกระดิ่งจากซานต้า แต่เขาไม่เคยได้ยินมัน ทำให้ศรัทธาของเขาเปลี่ยนไป เขากลายเป็นเด็กที่ไม่เชื่อเรื่องซานคลอสเลยแม้แต่น้อย เขาคิดว่าของขวัญคริสต์มาสที่ได้ในทุกๆปีนั้นมาจากพ่อแม่ของเขาอย่างแน่นอน แต่แล้วคืนวันก่อนคริสต์มาส เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น ที่หน้าบ้านของเขามีรถไฟสีดำคันใหญ่เบ่อเร่อมาจอดอยู่ พร้อมมีพนักงานต้อนรับใส่หมวก Conductor กวักมือเรียกให้เขาขึ้นไปยังรถไฟ เขาขึ้นไปด้วยความมึนงงและได้พบกับการเดินทางที่แสนรื่นเริง พร้อมๆกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน
 ซึ่งจุดหมายปลายทางจะต้องทำให้เขาแปลกใจและเปลี่ยนความเชื่อของตัวเองไปในที่สุด

สิ่งที่น่าสนใจในThe Polar expressเดอะโพลาร์ เอ็กซ์เพลส คริสต์มาส จิตวิญญาณและความเชื่อมั่น

            นับเป็นแอนิเมชั่นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้ผู้ใหญ่อย่างเราๆมากเลยล่ะค่ะ มีการดำเนินแก่นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธา และสิ่งที่มองไม่เห็น ว่าหากสิ่งนั้นเราไม่เคยเห็น เราจะเชื่อได้อย่างไรว่ามันมีอยู่หรือไม่มีอยู่จริงกันแน่ จากการดึงเอาเรื่องเสียงกระดิ่งที่ทำให้เด็กชายหมดหวัง สะท้อนอะไรหลายอย่างให้เรากลับมาขบคิด ที่จริงแล้วเราเคยมีความเชื่ออะไรบ้างตอนเด็กๆ แล้วพอเราเติบโตขึ้น หัวใจเราทุกคนกลับด้านชาและเปลี่ยนไป บางเรื่องก็คงลืมไปแล้วว่าเราตื่นเต้นกับมันขนาดไหน ทำไมทุกวันนี้มันถึงได้จางหายไป ผู้กำกับดึงเรื่องความเชื่ออกมาในภาพที่ชวนตื่นตาตื่นใจ และแฝงเหตุการณ์ตื่นเต้นให้เรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังการ์ตูนสำหรับเด็กดูเลยล่ะค่ะ ใครที่ยังไม่เคยดูเรียกได้ว่า 16 ปีก็ยังไม่สายไป ลองเติมเต็มหัวใจกับบทที่คุณจะต้องจดจำจาก The Polar express ว่า ” ไม่สำคัญหรอกว่ารถไฟกำลังจะไปที่ไหน สิ่งสำคัญคือเรากล้าที่จะขึ้นรถไฟไปหรือเปล่า “
#The Polar express #หนังคริสมาสต์ #หนังดีNetfilx

รีวิวหนัง Netflix : Mank เจ้าของบทภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Citizen Kane

สำหรับ หนังดี หนังแนะนำ ในช่วงนี้คงหนีไม่พ้น หนังชีวประวัติ คนเขียนบทภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Mank ที่เขาได้เขียนเรื่อง Citizen Kane ขึ้นมา ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ได้สร้างชื่อเสียง รวมไปถึงแฉวงการฮอลลีว็ดในยุคดังกล่าว สำหรับใครที่เป็นแฟนวงการฮอลลีวู้ด นี่จะเป็น หนังเน็ตฟลิกซ์ อีกเรื่องที่คุณพาดไม่ได้ เป็นหนึ่งใน หนังขาวดำ หนังย้อนยุค ที่ขนทัพนักแสดงเทพๆมาหลายคนเลยทีเดียว

เรื่องย่อ หนังชีวประวัติ Mank (Netflix)

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ เฮอร์มัน แมงคลีวิทซ์ แต่ผู้คนมักจะเรียกเขาว่า แมงค์ เขาคนนี้คือผู้ที่เขียนบทร่วมกับภาพยนตร์ดังอย่าง Citizen Kane ซึ่งก็เคยคว้ารางวัลออสก้ามาแล้ว โดยในหนังเรื่องนี้จะเป็นช่วงเวลาที่เขาเจียนบทหนังนี้ แรงบันดาลใจ

ปมความขัดแย้งต่างๆ รวมไปถึงเรื่องราวเบื้องหลังของวงการฮอลลีวู้ดอีกด้วย นอกจากบทภาพยนตร์สุดหินที่เขาจะต้องเขียนให้ได้ภายในเวลาที่กำจัด ประกอบกับปัญหาติดสุราของเขา ทำให้เรื่องราวต่างๆมันไม่ได้ดูง่ายอย่างที่ใครคิด

แกรี โอลด์แมน กับ บทบาทของแมงค์ที่น่าชื่นชม

ขอบอกเลยว่าสิ่งที่น่าประทับใจของเรื่องนี้คงหนีไม่พ้น นักแสดงนำอย่าง แกรี โอลด์แมน ที่สามารถถ่ายทอดความเป็นแมงค์ ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนหลายๆคนคิดว่าเขาน่าจะได้รางวัลจากการแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน รวมไปถึงนักแสดงสาวอย่าง อแมนด้า และ ลิลลี่

ที่ก็ขอบอกเลยว่าได้มาสร้างเสน่ห์ให้กับหนังเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้หนังเรื่องนี้ยังเป็นเหมือนการสร้างมาเพื่อทำการระลึกถึงหนังเรื่อง Citizen Kane ที่ทั้งทำออกมาในรูปแบบของหนังขาวดำ และการเล่าเรื่องแบบแฟลชแบ็ค ที่เป็นเทคนิคการเล่าเรื่องแบบเดียวกับ Citizen Kane อีกด้วย

หนังชีวประวัติ ที่เผยเรื่องราวของฮอลลีวู้ดในยุคทอง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หนังเรื่องนี้ทำให้เราได้รู้ถึงเบื้องหลังของอะไรหลายๆอย่าง จริงๆแล้วหนังดังอย่าง Citizen Kane ก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหนังที่บันทึกเรื่องราวของวงการนี้ไว้ แต่สำหรับเรื่องนี้ที่มาเผยให้เห็นเบื้องหลังการเขียนเรื่อง Citizen Kane อีก ก็ทำให้มันน่าสนใจไปกันใหญ่ เพราะในสมัยนั้น ภาพยนตร์ ก็ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง มีการพัวพันไปถึงการรักษาอำนาจต่างๆ มีเรื่องชู้สาว เรื่องฉาวๆอีกมากมาย ซึ่งขอบอกเลยว่าค่อนข้างเปิดโลกมากๆ หลังจากที่ได้ดู หนังแนะนำ เรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องที่หลายคนไม่ควรพลาด หากคุณหลงใหลในเรื่องราวของวงการฮอลลีวู้ด

#หนังย้อนยุค #หนังชีวประวัติ แนะนำ #หนังวงการฮอลลีวู้ด Mank (Netflix)

Break หนังเต้นเน็ตฟลิกซ์ หนังแนว Hip-hop กับฉากเต้นสุดว้าว

สำหรับใครที่เป็นแฟน หนังเน็ตฟลิกซ์ ก็น่าจะรู้กันดีว่าสำหรับ หนังเต้น ทาง Netflix เขาก็ขยันปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง แทบจะไม่ปล่อยให้จังหวะขาดหายไปเลย แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือ แนวและสไตล์ของการเต้น ซึ่งในเรื่องนี้จะมาในแนว หนังเต้น Hip-hop ที่ฉากการเต้นขอบอกเลยว่าเทพมาก สำหรับใครที่ชอบดู หนังต่างประเทศ แนวๆนี้ ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด

เรื่องย่อ หนังเต้น แนะนำ Break

เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้ประสบอุบัติเหตุจากการเต้นบนตึกสูง ซึ่งทำให้เธอต้องเข้าโรงพยาบาลและค้นพบความจริงเกี่ยวกับพ่อของเธอ เธอจึงออกตามหาพ่อจนได้มาพบกับ นักโทษหนุ่มที่ได้ถูกปล่อยตัวมาให้ทำงานกับพ่อของเธอ แต่เขาคนนี้เป็นอดีตนักเต้นฝีมือร้ายกาจ ประกอบกับเธอเองที่มีความฝันในการอยากเป็นนักเต้นที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังไม่มีทักษะมากพอ เขาเลยกลายมาเป็นโค้ชการเต้นให้กับเธอ

หนังเต้น กับฉากเต้นที่น่าประทับใจของพระเอก

แน่นนอว่าตามเรื่องแล้ว พระเอกของเรานั้นเคยเป็นนักเต้นที่มีทักษะร้ายกาจ แต่เขาไม่กลับมาเต้นด้วยปมปัญหาบางอย่าง แต่ถึงอย่างไรก็ตามฉากที่น่าติดตามที่สุดของเรื่องก็ต้องยกให้กับเวลาที่พระเอกเต้น เพราะมันจะเป็นการเต้นในแนวแปลกใหม่ ที่จะสามารถทำให้คุณประทับใจได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว ขอบอกเลยว่าสกิลการเต้นของพระเอกนั้นเทพมากๆ แต่กลับกันพอมาในด้านของนางเอก สกิลการเต้นของเธอกลับออกมางั้นๆ ถึงแม้จะมาในช่วงท้ายเรื่องที่สกิลการเต้นของเธอควรจะดีมากกว่าตอนแรกแล้วก็ตาม เราก็กลับยังรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรให้น่าจดจำเท่าไร เพราะฉะนั้นในเรื่องของฉากการเต้น ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับพระเอกล้วนๆเลยทีเดียว

ปมปัญหาเรื่องครอบครัว หนังดราม่า ที่มากับการเต้น

โดยปกติแล้ว หนังเต้น ก็มักจะเปิดมาด้วยปมปัญหาของตัวละครอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่พล็อตหนังที่ยากเกินกว่าการคาดเดาแต่อย่างไร อย่างพระเอกก็เป็นไปตามสูตรสำเร็จมากๆ แต่ที่น่าแปลกใจและถือว่าไม่น่าเอามาใส่เลยก็คือปมปัญหาครอบครัวของนางเอก ที่ดูๆแล้วนางเอกก็ออกแนวงี่เง่าไปหน่อย แถมยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านางเอกนั้นดูไม่เหมาะกับบทนี้เท่าไรเสียด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากมองข้ามในเรื่องความสามารถทางการเต้นของนางเอกที่ไม่ได้ถึงกับว้าว แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีฝีมือเลย ก็ต้องบอกว่า หนังเต้น Netflix เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่สามารถดูกันได้แบบเพลินๆ

#Break #หนังเต้น Netflix #หนังต่างประเทศแนะนำ

รีวิวหนัง เน็ตฟลิกซ์ Bloodshot งานขายความมันของวิน ดีเซล

            หนัง Bloodshot เข้าฉายในบ้านเราก่อนจะมีการล็อคดาวน์เพราะโควิด-19นิดเดียว หลายๆ คนเลยพลาดชมหนังเรื่องนี้กัน แต่ตอนนี้ หนังที่วิน ดีเซลจาก Fast & Furious แสดงนำมีให้ชมกันเรียบร้อยแล้วทางเน็ตฟลิกซ์ และใครที่อยากรู้ว่าหนังเป็นยังไงก่อนชม ก็อ่านรีวิวหนังกันก่อนได้

เรื่องย่อ Bloodshot

            สำหรับ Bloodshot วิน ดีเซลรับบทเป็นเรย์ แกร์ริสัน นาวิกโยธินหน่วยพิเศษ ที่ถูกจับตัวไปพร้อมภรรยาขณะที่ทั้งคู่ไปพักผ่อนกัน หลังแกร์ริสันได้พักร้อน แล้วก็ถูกสังหารโหดทั้งสองคน แต่ร่างกายของแกร์ริสันถูกส่งไปที่บริษัทไรซิง สปิริทเทค

เพื่อทำเป็นมนุษย์สังเคราะห์ แกร์ริสันตื่นขึ้นมาโดยมีความทรงจำที่ไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อนึกได้ว่าเขากับภรรยาถูกใครฆ่า เขาก็หนีออกจากบริษัทเพื่อไปล้างแค้น ทำให้ทางบริษัทต้องส่งทีมนักล่าออกไปตามเขากลับมา แม้จะล้างแค้นให้ภรรยาและตัวเองได้

แต่แกร์ริสันก็ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ เพราะนาไนท์ในเลือดหมดพลังงาน ทำให้ถูกนำตัวกลับมาที่บริษัทเพื่อชาร์จพลัง แล้วก็ป้อนความจำใหม่ให้ โดยเป็นเรื่องราวเดิมๆ ที่เขากับภรรยาถูกจับตัวแล้วฆ่าทิ้ง เพียงแค่เปลี่ยนใบหน้าของตัวการ ที่ทั้งหมดล้วนเป็นคนที่มีปัญหากับไรซิง สปิริทเทค

และทำให้แกร์ริสันกลายเป็นมือสังหารของบริษัทที่ใช้จัดการฝ่ายตรงข้าม ด้วยการป้อนข้อมูลความจำแบบนี้ แต่เมื่อฝ่ายตรงข้ามที่แกร์ริสันไปจัดการสามารถแก้ไขความทรงจำของเขาได้

และตัดการติดต่อระหว่างแกร์ริสันกับบริษัทสำเร็จ เขาก็กลายเป็นอิสระ และเมื่อถูกบริษัทตามล่า แกร์ริสันก็ตัดสินใจตอบโต้เพื่อให้ตัวเองไม่ตกเป็นเครื่องมือของบริษัทอีกต่อไป ส่วนต่อจากนี้จะเป็นยังไง ก็ดูกันได้ที่เน็ตฟลิกซ์

รีวิว Bloodshot

            จากเรื่องราว Bloodshot ถือเป็นงานเอามันส์ได้แน่ๆ และหนังก็มีฉากแอ็คชั่นให้ได้ชมกันหลายฉาก ไม่ว่าจะเป็นฉากเปิดเรื่องที่ว่าด้วยความเป็นมาในอดีตของแกร์ริสัน การตามล่าเป้าหมายของเขา และการต่อสู้ระหว่างแกร์ริสันกับนักล่าของบริษัท

ที่แม้จะปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่กับความน่าตื่นเต้น ก็ต้องบอกว่า ไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะฉากเหล่านี้ไม่ได้มีความแปลก หรือแตกต่างไปจากที่เห็นๆ กันในหนังแอ็คชั่นเรื่องอื่นๆ สักเท่าไหร่ แถมตัววิน ดีเซลเองก็ไม่ใช่พระเอกในแบบยอมแพ้ หรือได้รับบาดเจ็บเอาง่ายๆ

แล้วร่างกายก็ได้เปรียบคู่ต่อสู้เหลือเกิน เลยทำให้หนังไม่ต้องลุ้นอะไร รอเพียงแค่ว่าจะชนะแบบไหน ยังไงเท่านั้นเอง และทำให้รีวิวหนัง จากเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้ต้องจบลงด้วยบทสรุปที่ว่า ดูเอาเพลินกันไป ไม่ต้องคิดมาก

                                                =======================

ภาพ 

Bloodshot 01 https://theplaylist.net/bloodshot-review-20200311/

Bloodshot 02 https://www.indiewire.com/2020/03/bloodshot-review-vin-diesel-comic-book-1202216688/

Bloodshot 03 https://www.empireonline.com/movies/reviews/bloodshot/

#หนังเน็ตฟลิกซ์ #รีวิว Bloodshot #รีวิวหนัง Netfilx

The Beast (La Belva) แค้นอสูร เปิดฉากการไล่ล่าสุดมันส์

รีวิวหนัง Netflix หนัง Netflix มันส์ๆ หนังแนะนำ หนังแอ็คชั่น 2020

สำหรับคนที่ชอบหนังแนว Taken ขอบอกเลยว่าคุณจะต้องรักหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน หนังเรื่องนี้เป็น หนังแอ็คชั่น หนังไล่ล่า หนังสู้ มันส์ๆ ที่ เน็ตฟลิกซ์ ได้ซื้อมาเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นแล้วหากคุณกำลังคิดถึงหนังที่มีกลิ่นอายการไล่ล่า การแก้แค้นแบบมันส์ๆ ถึงขนาดปิดเมือง ขอบอกเลยว่า หนังเน็ตฟลิกซ์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด

เรื่องย่อ The Beast (La Belva) หนังแอ็คชั่น เน็ตฟลิกซ์ 2020

สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ รีว่า ชายผู้ที่ประสบกับปัญหาทางจิตเวชจากสงคราม ความสัมพันธ์เขากับครอบครัวนั้นไม่ได้เป็นไปได้ด้วยดีนัก มีเพียงแต่ลูกสาวของเขาเท่านั้นที่ยังอยากจะติดต่อกับเขา เป็นเหตุให้รีว่านั้นอยากจะกลับเป็นปกติ วันหนึ่งเขาและลูกสาวได้นัดกันไปทานข้าว แต่กลับกลายเป็นว่าพี่ชายผู้ที่ต้องทำหน้าที่มาส่ง กลับไม่มาส่ง แถมยังทำให้น้องสาวของตัวเองต้องถูกลักพาตัว งานนี้ รีว่า จึงต้องทำการออกตามหาลูกสาวของเขา ในขณะที่ตำรวจเองก็คิดว่าเขาเป็นคนที่ลักพาตัว

The Beast (La Belva) หนังไล่ล่าที่มีเรื่องของผมครอบครัวมาเอี่ยว

สำหรับเรื่องนี้ที่ทำให้พิเศษมากกว่าเรื่องอื่นๆเลยก็คือ นอกจากที่จะเป็นหนังเกี่ยวกับการไล่ล่า การตามหาตัวลูกสาวที่ถูกลักพาตัวไปแล้ว ยังมีอีกปมที่น่าสนใจจนทำให้คนดูอย่างเราๆ นั้นจะต้องลุ้นไปด้วย นั่นก็คือ ปมปัญหาครอบครัวของตัวเอง ซึ่งดูเหมือนว่าเขานั้นจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับลูกชายของเขา เพราะนั้นปลายทางของเรื่องนี้ นอกจากที่เราจะต้องมาคอยลุ้นว่าจะตามหาลูกสาวได้สำเร็จหรือไม่ ก็ต้องคอยมาลุ้นด้วยว่าความสัมพันธ์ของตัวเองและครอบครัวของเขานั้นจะไปในทิศทางไหน

หนังบู๊ ที่ฉากมันส์ๆ ต้องลุ้นกันหน่อย The Beast (La Belva)

หนังเรื่องนี้เป็นหนังบู๊ที่ฉากบู๊เราต้องคอยลุ้นกันเอาหน่อย เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าฉากนั้นจะเป็นฉากบู๊สุดมันส์ หรือว่าจะเป็นฉากบู๊ที่ทำให้เราตลก เพราะมันไม่แน่นอนเอามากๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ เพราะตัวเอกของเรื่องของบอกเลยว่าพี่เขาเข้าถึงบทบาทมากๆ พร้อมทั้งหน้าตาอันดุดันที่ทำให้บทนี้ออกมาเท่แบบสุดๆ จะมีเสียดายก็แต่ปมที่คลี่คลายง่ายไปเล็กน้อย บวกกับตัวร้ายที่แทบไม่ได้มีบทบาทมากมายอะไร ทำให้เรื่องนี้อาจจะดูน่าเบื่อไปในบางช่วง แต่ก็เป็น หนังแอ็คชั่น จาก เน็ตฟลิกซ์ อีกเรื่องที่คุณชอบบรรยากาศหนังการไล่ล่า ขอบอกว่าห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด

#รีวิวหนัง Netflix #หนังแอ็คชั่น 2020 #The Beast (La Belva)

The Paramedic หนังทริลเลอร์ ลุ้นระทึก พล็อตเรื่องนี้ แต่ยังไม่สุด

หนังทริลเลอร์ Netflix หนังลักพาตัว หนังแนะนำ 2020 รีวิว หนัง Netflix

หนังเรื่องนี้มาในแนว หนังทริลเลอร์ หนังระทึกขวัญ หนังลักพาตัว ซึ่งจริงๆแล้ว หนังแนวนี้ก็ไม่ใช่แนวที่ใหม่อะไร แต่ในครั้งนี้กับเรื่อง The Paramedic มีจุดขายตรงที่ ตัวเองนั้นเป็นคนพิการนั่งรถเข็น ทำให้หนังน่าจะเพิ่มความตื่นเต้น เป็นอีกเรื่องของ หนัง Netflix ที่พล็อตส่งมาดีมาก แต่ยังไปได้ไม่สุดเท่าไร จะเป็นเพราะอะไรมาดูกัน

เรื่องย่อ หนัง Netflix The Paramedic

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ชายหญิงคู่หนึ่งที่เป็นแฟนกัน แต่ด้วยพฤติกรรมต่างๆ ที่เหมือนจะล้ำเส้นกันจนเกินไป เป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่ค่อยดีนัก ซ้ำร้ายฝ่ายชายประสบอุบัติเหตุจนขาพิการ ซึ่งนำไปสู่การเลิกราของความสัมพันธ์ แต่เมื่อมีอีกฝ่ายไม่ยอมจบ จึงทำให้เกิดการลักพาตัวกันเกิดขึ้น จับตัวขังไว้ภายในห้องแล้วทรมานเธอด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อล้างแค้นที่เธอหนีไปมีแฟนใหม่

The Paramedic พล็อตเรื่องดี แต่เนื้อเรื่องยังกลวง

สำหรับจุดที่ทำให้เรื่องนี้ถึงแม้จะไม่ใช่แนวหนังใหม่อะไรก็ได้รับความสนใจนั่นก็คือ การที่ตัวเอกนั้นกลายเป็นคนพิการ ตรงจุดนี้ทำให้คนดูคาดหวังพอสมควรว่า เขาจะจัดการกับแฟนสาวที่ยังคงสามารถใช้แขนขาของเธอได้อย่างปกติอย่างไร จุดนี้เลยทำให้ตัวพล็อตเรื่องดูน่าสนใจขึ้นมามากเลยทีเดียว แต่ที่น่าเสียดายที่เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างไม่มีอะไรเลย แถมยังเสียเวลากับการปูเรื่องที่ไม่ได้สำคัญอะไรมาก กว่าจะมาถึงจุดที่เป็นจุดขายของหนังก็เล่นเอามาช่วงท้าย เพราะฉะนั้นช่วงแรกของหนังก็จะน่าเบื่อมากพอสมควรเลยทีเดียว

หนังทริลเลอร์ ที่ไม่มีจุดพีค แต่ก็พอรับได้ ถือว่าเป็นมาตรฐานของ หนัง Netflix

หนังเรื่องนี้ถึงแม้ว่าจะดูขาดสีสันในการเล่นกับความคาดหวังไปเสียหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะถึงขนาดทนดูไม่ได้ ก็มีจุดที่สามารถทำเราลุ้นไปด้วยมากอยู่พอสมควร แต่ถ้าหากพูดถึงความเป็นเหตุเป็นผล แรงจูงใจของตัวละครอื่นในตอนจบ ก็ยังมีไม่มากพอ เลยทำให้ออกมาดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไร มาถึงจุดตอนที่ลักพาตัวมา คนดูก็จะคาดหวังการโต้กลับไปมา อย่างสูสี แต่ก็ต้องแอบผิดหวังเพราะมันก็ดูง่ายๆแปลกๆ ไม่ค่อยมีชั้นเชิงเท่าไรนัก ถ้าหากจะต้องบอกว่า หนังทริลเลอร์ Netflix เรื่องนี้เป็นไปอย่างที่หวังไหม ก็คงตอบว่าไม่ แต่ก็ไม่ได้เป็นหนังที่แย่อะไร พอให้เราได้ตื่นเต้นไปกับตัวเอกที่พิการแต่ก็สามารถจัดการกับนางเอกได้อยู่ในระดับหนึ่ง

#รีวิวหนัง Netflix #The Paramedic #หนังลักพาตัว

Don’t Listen หนังผี หนังลึกลับ ที่จะทำให้คุณหวาดหวั่นกับเสียงปริศนาภายในบ้าน

รีวิวหนัง Netflix

ห่างหายกันไปนานกับ หนังผีเน็ตฟลิกซ์ ในช่วงนี้ เนื่องจากว่าเข้าใกล้บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองเข้ามาทุกที เพราะฉะนั้นบรรดา หนัง Netflix ในช่วงปลายปีแบบนี้ก็จะเป็น หนังครอบครัว หนังคริสมาสต์เสียส่วนใหญ่ แต่สำหรับ หนังผี แนะนำ ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในขณะนี้เลยก็คือ Don’t Listen หนังผีสัญชาติสเปน ที่งานนี้ขอบอกเลยว่าขนความน่ากลัวกันมาแบบไม่มียั้ง

เรื่องย่อ หนังผีเน็ตฟลิกซ์ Don’t Listen

เป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่มีพ่อแม่ลูก พวกเขาได้ย้ายบ้านเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ ซึ่งบ้านหลังนี้ก็เป็นที่กล่าวขานกันถึงความน่ากลัวและสิ่งลี้ลับ แต่มันก็ได้ถูกรีโนเวทใหม่จนมีครอบครัวนี้ได้มาอาศัยอยู่ แต่หลังจากที่ได้มีการย้ายเข้ามา ลูกชายของพวกเขาก็ได้มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ โดยที่พ่อและแม่ของเอริคจะต้องพึ่งจิตแพทย์ ซึ่งแท้จริงแล้วนั้นสิ่งที่ลูกชายเจอกับเป็นจุดเริ่มต้นของความสะพรึงกลัวภายในบ้านหลังนี้ ที่มาในรูปแบบของเสียงและมันก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นทุกที

หนังผีสเปน Don’t Listen หนังผีที่เล่นกับความดิบโหดได้อย่างสะใจ

หลายๆคนที่ได้ดูตัวอย่างและอ่านเนื้อเรื่องย่อของหนังเรื่องนี้ อ่านจะตัดสินใจมองข้ามและไม่ดูเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าพล็อตเรื่องเป็นอะไรที่เดิมๆมาก หนังผีกับการบ้ายเข้าไปในบ้านใหม่ แต่ขอบอกเลยว่าอย่าเพิ่งตัดสินหนังเรื่องนี้ เพราะขอบอกเลยว่าดีดรีความดิบของหนังเรื่องนี้ไม่เหมือนหนังพล็อตเรื่องเดิมๆที่คุณเคยดูมาอย่างแน่นอน รับรองว่าคุณจะได้ประสบการณ์การดูหนังผีสเปนแบบถึงใจเลยทีเดียว พล็อตอาจจะไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย แต่ขอบอกเลยว่าระดับความบันเทิงค่อยๆไต่ขึ้นสูงมากๆ เพราะฉะนั้นถ้าคุณชอบหนังที่เล่นกับความดิบได้อย่างมีอรรถรสขอแนะนำว่าห้ามมองข้ามเรื่องนี้

Don’t Listen หนังผีที่จิกกัดความเลวร้ายของสังคม

หนังเรื่องนี้ไม่ได้มาแค่เรื่องราวความน่ากลัวของผีอย่างเดียวเพียงเท่านั้น แต่ตัวหนังเอาก็ยังเล่าเรื่องพร้อมกับจิกกัดสังคมได้อย่างถึงใจ จนทำให้เราตั้งคำถามว่าจริงๆแล้วอะไรที่น่ากลัวกว่ากันแน่ เป็นหนังอีกเรื่องที่สอดแทรกอะไรที่น่าสนใจเอาไว้มากมาย ถึงแม้ว่าอาจจะมีข้อผิดหวังเล็กๆในช่วงท้ายเกี่ยวกับทางออกของหนังก็ตาม แต่ในจุดนั้นก็ไม่ได้ยากเกินความคาดเดาคนดูอย่างเราๆเลยแม้แต่น้อย เพราะอย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่า หนังผี Netflix เรื่องนี้พล็อตเรื่องไม่ได้ใหม่มาก แต่อรรถรสที่สอดแทรกมาในระหว่างทางต่างหากเป็นสิ่งที่ควรโฟกัส

#หนังผีเน็ตฟลิกซ์ #หนังผีสเปน #หนังหลอนๆ แนะนำ

“ Arthur Christmas” ของขวัญจานด่วน ป่วนคริสต์มาส

          Arthur Christmas หรือชื่อไทยว่า ของขวัญจานด่วน ป่วนคริสต์มาสนั่นเอง อีกการย้อนรอยแอนิเมชั่นเก่าจากปี 2011 แอนิเมชันเรื่องนี้เป็นแอนิเมชันสัญชาติอังกฤษ บริทิชโดยแท้ เป็นผลงานของบริษัทผู้สร้างการ์ตูนชื่อดังอย่าง ชิคเก้น รัน หรือ วอลเลซและกอมมิท นั่นเอง บริษัทนี้มีชื่อว่า Aardman animations สำหรับคอการ์ตูนจะยกย่องให้บริษัทนี้เรื่องความสดใสและมีชีวิตชีวาของตัวการ์ตูน และความโดดเด่นคือพวกเค้าใช้ดินน้ำมันปั้นและใช้กระบวนการแบบ stop motion ผสมกับกราฟิก ทำให้สไตล์ของค่ายนี้ค่อนข้างโดดเด่นพอสมควร

เรื่องย่อ  “ Arthur Christmasของขวัญจานด่วน ป่วนคริสต์มาส

            Arthur Christmas บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามว่า “อาเธอร์” เจ้าลูกชายคนสุดท้องของคุณซานต้า เขาเป็นเด็กหนุ่มขี้สงสัย เขามักจะมีคำถามเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสอยู่เสมอๆ ตั้งแต่กระบวนการผลิตลามไปถึงเรื่องใหญ่ที่สุดนั่นก็คือ การส่งของขวัญ ซึ่งเป็นคำถามในหัวเขาตลอดว่าจะส่งของขวัญทันให้เด็กเป็นล้านๆชิ้นได้ยังไง ไหนจะอยู่คนละประเทศ คนละมุมโลกด้วยซ้ำ แต่แล้วก็เกิดความโกลาหลขึ้นในวันคริสต์มาสปีนี้ของเขา เมื่อมีเด็กคนหนึ่งยังไม่ได้รับของขวัญจากทั้งหมดสองร้อยล้านชิ้น กับขาดตกบกพร่องไปหนึ่งชิ้น และผู้ที่จะต้องออกปฎิบัติการไปส่งของขวัญให้ทันก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นนั่นก็คือเขา อาเธอร์ ผู้ที่มีประสบการณ์อ่อนด้อยในการเป็นคลอสมากที่สุดในตระกูล ต้องรอดูว่าเขาจะสามารถเอาชนะการแข่งกับเวลาและอุปสรรคต่างๆให้ภารกิจนี้สำเร็จได้หรือไม่

สิ่งที่น่าสนใจใน Arthur Christmasของขวัญจานด่วน ป่วนคริสต์มาส

            นับว่าเป็นหนังที่เข้าทางของเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดีจริงๆค่ะ แน่นอนว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้ยึดธีมหลักของเรื่องไว้คือเทสกาลคริสต์มาส ทำให้มั่นใจได้ว่าการ์ตูนจะออกมาในรูปแบบความอบอุ่นใจ ครอบครัว และความรักแน่นอน ถ้าลงลึกและมองดูดีๆการแอบแฝงความนัยของเรื่องนี้ก็ยังมีอยู่แบบที่ผู้ใหญ่จะต้องได้คิดไปตามๆกัน

ถึงความร่วมสมัยในหนัง ผ่านปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ความแตกต่างระหว่างวัยที่ทำให้สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจกันและสุดท้ายจึงเกิดผลที่ตามมาถึงการขาดความเชื่อมั่นและความศรัทธาในบางสิ่ง และนัยยะหนึ่งก็พูดถึงเทคโนโลยีของแต่ละยุคสมัย วิธีการอาจจะแตกต่างกัน ตอนนี้อาจจะเหมาะสมกับระบบล้ำสมัย แต่เรื่องทางใจหรือความละเอียดอ่านบางอย่างก็ยังต้องพึ่งอนาล็อคอยู่เช่นกัน

การเรียนรู้ซึ่งวิวัฒนาการของแต่ละช่วงยุคอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่ในที่สุดแล้วย่อมหาตรงกลางที่อยู่ร่วมกันได้เสมอ อีกทั้งสะท้อนปัญหาในครอบครัวอย่างเช่นซานต้า พ่อของอาเธอร์ เขารับหน้าที่การส่งของขวัญต่อจากคุณปู่มาอีกที เขาได้ทำการส่งของขวัญมาแล้วกว่า 70 ครั้ง หรือเรียกว่าผ่านเทศกาลคริสมาสต์มากว่า 70 หน งานยุ่งล้นมือจนหลงลืมไปว่าลกชายตัวเองเคยอยากได้ของขวัญอะไรนั้นก็สะท้อนวิถีชีวิตคนเมืองที่เริ่มบ้างาน จนหลงลืมครอบครัวไปข้างหลัง บางครั้งการนึกถึงได้อาจะสายไปเสียแล้ว ถือว่ามีข้อคิดในการสอนให้คนมองคุณค่าสิ่งใกล้ตัวได้ดีเลยทีเดียวค่ะ หากใครยังไม่เคยดูต้องลองหาเวลาเปิดดูกับครอบครัวนะคะกับ  Arthur Christmas ของขวัญจานด่วน ป่วนคริสต์มาส

#Arthur Christmas #รีวิวหนัง Netflix #หนังครอบครัว