รีวิวหนัง The Nun (2005) ผีแม่ชี…แค้นนี้ต้องชำระ

            เวลานี้หากพูดถึง “ผีแม่ชี” ทุกคนก็คงจะนึกถึงหนังเรื่อง The Nun ปี 2018 ซึ่งอยู่ในจักรวาลเดียวกับ Conjuring แน่นอน แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึงหนัง The Nun ปี 2005 ที่เคยสร้างกระแสโด่งดังมาแล้วแต่ก็ถูกหนังผีอื่นเข้ามากลบจนห่างหายจากความทรงจำของคอหนังสยองขวัญไปตามกาลเวลา และเราก็ได้นำมาปัดฝุ่นรีวิวให้ทุกคนรู้เผื่อมีใครสนใจจะอยากไปหามาดู เพราะเรื่องราวก็มีความน่ากลัวไม่แพ้ The Nun 2018 เหมือนกัน ยิ่งเป็นเด็กคอนแวนต์ปิดเทอมยิ่งต้องหามาดูจะทำให้คุณอยากนอนเร็วเมื่อเปิดเทอมแน่นอน

เรื่องย่อหนัง The Nun (2005) ผีแม่ชี…แค้นนี้ต้องชำระ

            หนัง The Nun (2005) ผีแม่ชี…แค้นนี้ต้องชำระ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนหญิงวัยสิบห้าปีต้องทนทุกข์อยู่ในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง แต่ละวันพวกเธอต้องเผชิญกับแม่ชีที่ทั้งคุกคามและปฏิบัติต่อพวกเธออย่างทารุณ จนกระทั่งมีนักเรียนคนหนึ่งในกลุ่มตั้งท้อง จนแม่ชีที่มีนิสัยดุคนหนึ่งได้มารู้เรื่องจึงรู้สึกอับอายและพยายามที่จะชำระความบริสุทธิ์ให้ นักเรียนคนนั้นด้วยการทรมานเพื่อให้เด็กในครรภ์ออก ด้วยความกลัวและความเก็บกดที่อดทนมานานทำให้นักเรียนหญิงที่เหลือในกลุ่มตัดสินใจเข้ามาช่วยเพื่อนและทำร้ายแม่ชีจนเสียชีวิตก่อนจะทิ้งศพลงสระน้ำทำให้ไม่มีใครเห็นแม่ชีคนนั้นอีก หลังจากนั้นพวกเธอจึงแยกย้ายกันไปมีชีวิตใหม่ของตนโดยที่ไม่รู้ว่าในอีกหลายสิบปีต่อมาทุกคนจะต้องเผชิญหน้ากับผีแม่ชีที่จะออกมาล้างแค้นในสิ่งที่ถูกนักเรียนเหล่านี้กระทำ

ความน่าสนใจของหนัง The Nun (2005) ผีแม่ชี…แค้นนี้ต้องชำระ

            หนัง The Nun (2005) ผีแม่ชี…แค้นนี้ต้องชำระ มีความน่าสนใจตั้งแต่คาแร็กเตอร์ผีแม่ชีในโรงเรียนประจำประเทศสเปนซึ่งตอนมีชีวิตอยู่ตนเป็นคนที่เคร่งครัดในศาสนา เจ้าระเบียบ และมักลงโทษเด็กด้วยวิธีรุนแรงซึ่งพอเสียชีวิตไป วิญญาณของเธอก็ได้ถูกขังไว้ใต้สระน้ำเพราะน้ำในสระมีพลังศักดิ์สิทธิ์ จนกระทั่งสิบกว่าปีต่อมา ดูจะเป็นโชคดีของผีแม่ชีและเป็นโชคร้ายของนักเรียนกลุ่มที่ฆ่าเธอที่ตอนนี้ต่างก็เป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่การงานของตัวเอง สระน้ำที่เคยกักขังวิญญาณถูกขุดลอกเอาน้ำออกหมดเพื่อจะก่อสร้างใหม่ทำให้วิญญาณผีแม่ชีได้รับการปลดปล่อยและออกมาล้างแค้นโดยการฆ่าคนในกลุ่มทีละคน รวมถึงแม่นางเอกซึ่งก็คือ เด็กที่เคยตั้งครรภ์ในระหว่างเรียนนั่นล่ะ เวลานี้เด็กคนนั้นเติบโตเป็นนางเอกซึ่งเธอก็เป็นสาวสวย มีชีวิตเฮฮากับเพื่อนฝูงปกติ จวบจนพบว่าแม่ตัวเองถูกผีแม่ชีฆ่า นางเอกกับเพื่อนสนิทจึงพยายามจะไปหาเพื่อนในกลุ่มของแม่ตัวเองที่เหลือซึ่งอยู่คนละเมืองคนละประเทศกันเพื่อช่วยเหลือก่อนที่ผีแม่ชีจะไปฆ่าทัน จุดนี้เราก็จะเริ่มมีลุ้นระทึกมาก เพราะไม่ว่าจะไปเร็วแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องเจอผีแม่ชีทุกที ตัวหนังมีฉากสแกรี่จั๊มป์เยอะตามสไตล์และมีความเรียลของการแต่งหน้าผีแม่ชีซึ่งไม่เชิงเละแต่ออกแนวหลอนตามแบบวิญญาณอาฆาตที่ทำให้เกิดรูปลักษณ์ปีศาจจริง ๆ ส่วนปมพีคเกี่ยวกับตัวนางเอกที่มีความสัมพันธ์กับผีแม่ชีก็คลายได้ดี เข้าใจง่าย

ข้อคิดดี ๆ จากหนัง The Nun (2005) ผีแม่ชี…แค้นนี้ต้องชำระ

            หนัง The Nun (2005) ผีแม่ชี…แค้นนี้ต้องชำระ ได้สอนให้เรารู้ว่าการชิงสุกก่อนห่ามเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำในวัยเรียน เพราะจะสร้างแต่เรื่องวุ่นวายตามมาหลังจากนั้นไม่หยุดหย่อนไม่ว่าจะเป็นทางตรงและทางอ้อม และในมุมมองของผู้อบรมเลี้ยงดูก็ควรสอนอย่างมีเหตุผล ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา เพราะยิ่งทำโทษเด็กด้วยวิธีรุนแรงจนเป็นนิจ นอกจากจะไม่ทำให้เด็กสำนึกหรือขอบคุณเมื่อโตขึ้นแล้ว ยังจะกลายเป็นปมในใจมาหลอกหลอนเด็กตอนโต เขาจะกลายเป็นคนที่ไม่ดีในด้านที่เขาฝังใจ และทำให้เจ้าตัวไม่ชอบคุณด้วย

ตัวอย่างหนัง The Nun (2005) https://www.youtube.com/watch?v=C7N_jgZ4LyU

รูปภาพประกอบ : https://www.imdb.com/

#The Nun (2005) #รีวิวหนัง #หนังระทึกขวัญ

ซีรีย์ ฉางอัน สิบสองชั่วยาม คอซีรีย์ไม่ควรพลาดใน Mono Max

เรื่องราวของ ซีรีส์ยอดนิยมจาก Mono Max ซีรีย์ ฉางอัน สิบสองชั่วยาม เทศกาลโคมซั่งหยวนของฉางอันปีนี้ มันไม่ใช่เพียงแค่งานรื่นเริงที่คนทั้งนครต่างรอคอยเท่านั้น หากแต่ในเทศกาลนี้ ได้มีการวางแผนที่จะทำให้ฟ้าสะท้านดินสะเทือน

(ขอบคุณภาพปก :  https://www.gamehub.in.th/monomax )

จิ้งอันซือซึ่งเป็นหน่วยงานที่ถูกตั้งเพื่อดูแลนครฉางอันถึงกับต้องเรียกตัวจางเสี่ยวจิ้ง นักโทษประหารและอดีตทหาร เพื่อมาช่วยเหลือในการสืบหาคนร้ายและระงับยับยั้งไม่ให้เหตุร้ายดังกล่าวเกิดขึ้น จางเสี่ยวจิ้งจะทำได้สำเร็จหรือไม่ และฉางอันต้องสูญเสียสิ่งใดกันบ้างในเหตุการณ์นี้ สุดยอดซีรีส์จีนเรื่องดังที่เต็มไปด้วยความสนุก ความเข้มข้น ความมันส์ที่อัดแน่นอยู่ตลอดความยาว 48 EP. นอกเหลือจากนั้นซีรีส์เรื่องนี้ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ บางอย่างที่ซ่อนอยู่

(ขอบคุณภาพประกอบ : https://www.gamehub.in.th/monomax  )

ซีรีย์ ฉางอัน สิบสองชั่วยาม การเนรมิตครั้งใหญ่ของผู้สร้าง

ความทุ่มเทของผู้สร้าง ซีรีย์ ฉางอัน สิบสองชั่วยาม ทีมงานใช้เวลาถึง 7 เดือนในการสร้างทิวทัศน์ท้องถนนของเมืองฉางอัน เพราะมีฉากแอคชั่นต่อสู้เยอะมาก เหลยเจียอินจึงต้องฝึกซ้อมร่างกายอย่างหนักหลังการถ่ายทำเสมอ The Longest Day in Chang’an ได้รับการยอมรับว่าถ่ายทอดรายละเอียดของผังเมืองบ้านเรือน รวมไปถึงเสื้อผ้าหน้าผม เครื่องแต่งกายของผู้คนในยุคราชวงศ์ถังออกมาได้ตรงตามประวัติศาสตร์ การเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของเรื่องนี้ ต้องยอมรับเลยว่าทำออกมาได้ดีมาก ๆ ทั้งในเรื่องของเครื่องแต่งกายของผู้บัญชาการหลี่ปี้มีต้นแบบมาจากนักบวชลัทธิเต๋า ทีมงานจึงต้องออกแบบโดยอ้างอิงมาจากสมาคมลัทธิเต๋าของจีน

(ขอบคุณภาพประกอบ : https://www.gamehub.in.th/monomax  )

หลังจากที่ได้ดู ซีรีย์ ฉางอัน สิบสองชั่วยาม บอกเลยว่าภาพสวยมาก ความประทับใจเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ดู ตอนแรก ทำให้ต้องติดตามต่อเรื่อย ๆ การดำเนินของ ซีรีย์ ฉางอัน สิบสองชั่วยาม กระชับ ไม่น่าเบื่อ ความท้าทายในการเล่าเรื่องตลอดทั้งซีรี่ย์ภายในห้วงเวลาแค่หนึ่งวันเท่านั้นซึ่งนับว่าแปลกใหม่มาก การวางสคริป เขียนบท เรียบเรียงบท ตัดต่อ ของเหล่าทีมผู้สร้างต้องใช้ความละเอียดรอบคอบมาก ซีรีย์เรื่องนี้จึงได้รับการยกย่องว่าถ่ายทอดประวัติศาสตร์ได้ดีที่สุด ภาพสวยสมจริงเหมือนชมภาพยนตร์ในโรง ทั้งฉาก เครื่องแต่งกาย อลังการตามมาตรฐานซีรีย์จีน เป็นซีรีย์จีนอีกเรื่องที่อยากให้แฟนโมโนแม็กซ์ได้ดู ที่สำคัญในส่วนของนักแสดงเรื่องนี้ น่าติดตามมาก ๆ ทุกตัวละคร เล่นได้อินถึงบทบาท เคมีทั้งพระเอก พระรอง นางเอก นางรอง ฟินมาก หยุดดูไม่ได้เลย เรื่องนี้คะแนน 10/10 สามารถตามไปดูได้ที่แอพพลิเคชั่น Mono Max สมัครรายเดือน แล้วฟินกันยาว ๆ ได้เลย

ตัวอย่าง ซีรีย์ ฉางอัน สิบสองชั่วยาม https://www.youtube.com/watch?v=ueTZSoORdxU

#ซีรีย์ ฉางอัน สิบสองชั่วยาม #Mono Max #รีวิวซีรีย์ Mono Max

ตำนานภาพยนตร์มาเฟีย

ตั้งแต่ปลายคริสศตวรรษที่ 19 มีชาวอิตาเลียนอพยพมาจากเกาะซิซิลีและมาสร้างครอบครัวมาเฟียในประเทศสหรัฐอเมริกาหลายครอบครัว เด็กชายวีโต้ คอลิโอเน่เป็นหนึ่งในผู้อพยพที่หนีการตามฆ่าจากมาเฟียท้องถิ่นมา และเขาก็ได้สร้างตระกูลคอลิโอเน่หนึ่งในตำนานตระกูลมาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ปี 1945 ดอนวีโต้ คอลิโอเน่ หัวหน้าครอบครัวมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลได้จัดงานแต่งงานให้คอนนี่ลูกสาวคนเล็กของเขา ในงานนี้มีซอนนี่บุตรชายคนโตและเฟรดดี้บุตรชายคนที่สองดูแลความเรียบร้อยอยู่ในงาน ไมเคิล คอลิโอเน่ บุตรชายคนที่สามซึ่งเพิ่งกลับจากการรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 พาเคย์ อดัม แฟนของเขามาร่วมในงานนี้ด้วย ต่อมาโซลอสโซ่เจ้าพ่อยาเสพติดซึ่งร่วมมือกับบรูโน่ ตาตาเลียลูกชายของมาเฟียใหญ่หนึ่งในห้าตระกูลที่ทรงอิทธิพลมาขอเจรจากับดอนวีโต้เพื่อขอการสนับสนุนจากนักการเมืองของดอนวีโต้ เขาเสนอตัวดูแลธุรกิจยาเสพติดในนิวยอร์คให้ แต่ดอนวีโต้ปฏิเสธ วันหนึ่งขณะกำลังเดินกลับมาที่รถเขาก็ถูกยิงห้านัดโดยคนของโซลอสโช่และตาตาเลีย แต่ดอนวีโต้ยังไม่ตายและถูกส่งไปโรงพยาบาล 

ระหว่างที่พ่อรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลซอนนี่จึงขึ้นมานำครอบครัวแทน ซอนนี่ส่งคนไปฆ่าบรูโนลูกชายของตาตาเลียและเตรียมเปิดศึกมาเฟียครั้งใหญ่ ไมเคิลรับอาสาที่จะจัดการกับโซลอสโซ่ เขาเอาปืนไปซ่อนในห้องน้ำในภัตตาคารที่โซรอสโช่และแม็คคัสกี้ตำรวจคนสนิทนัดเจรจากับ  ไมเคิล ในระหว่างการเจรจาไมเคิลขอตัวไปเข้าห้องน้ำเขาออกมาพร้อมกับปืนที่ซ่อนไว้ เขานั่งลงฟังโซลอสโซพูดสักพักหนึ่ง แล้วไมเคิลก็ตัดสินใจลุกขึ้นมายิงโซรอสโซ่และแม็คคัสกี้ที่หัวคนละสองนัด พอยิงเสร็จไมเคิลก็รีบเดินออกมาจากร้านและทิ้งปืน

หลังเกิดเหตุไมเคิลหนีไปอยู่ทีซิซิลี มาเฟียทั้งห้าตระกูลเปิดศึกกันมีสมาชิกในแก๊งเสียชีวิตมากมายตำรวจเข้ามาปราบปราม ดอนวีโต้เริ่มมีอาการดีขึ้นและพร้อมที่จะกลับบ้านได้ เขาถามหา  ไมเคิลทันทีทีฟื้น ขณะที่ไมเคิลไปอยู่ที่ซิซิลีก็ได้พบกับหญิงสาวชาวซิซิลีชื่ออพอลโลเนีย ไมเคิลขอเธอแต่งงาน แต่ศัตรูก็รู้จนได้ว่าไมเคิลอยู่ที่นี่จึงส่งคนไปฆ่าไมเคิลโดยวางระเบิดที่หลังรถแต่อพอลโลเนียต้องมารับเคราะห์แทน

วันหนึ่งคาร์โลสามีของคอนนี่ซึ่งทรยศต่อครอบครัวคอลิโอเน่ทำร้ายคอนนี่ภรรยา เพื่อล่อซอนนี่ออกมาจากบ้าน ซอนนี่โมโหมากและออกจากบ้านมาเพื่อจะเล่นงานคาร์โล ขณะที่ขับรถมาที่ด่านเก็บเงินซอนนี่ก็ถูกสล่มด้วยปืนกลจนเสียชีวิต เมื่อดอนวีโต้ออกจากโรงพยาบาลเขาจึงขอนัดประชุมกับมาเฟียทั้งห้าตระกูลซึ่งขณะนี้มีดอนบาสซินี่ขึ้นมาเป็นผู้นำโดยดอนวีโต้ขอสงบศึกเพราะไม่อยากให้มีการเสียเลือดเนื้ออีกต่อไป และขอให้ลูกชายได้กลับมาบ้านโดยปลอดภัย โดยยอมให้มีการค้ายาเสพติดและจะให้ผู้พิพากษาและนักการเมืองคุ้มครองธุรกิจให้ ไมเคิลจึงได้กลับมาบ้านและพบกับเคย์ ไมเคิลขอเธอแต่งงานโดยสัญญาว่าภายใน 5 ปีธุรกิจของตระกูล    คอลิโอเน่จะสะอาดทั้งหมด

ดอนวีโต้วางมือจากธุรกิจและให้ไมเคิลขึ้นมาเป็นหัวหน้าครอบครัวมาเฟียคอลิโอเน่ เฟรดดี้ถูกส่งไปทำงานที่ลาสเวกัสกับโม กรีน ไมเคิลวางแผนที่จะย้ายครอบครัวจากนิวยอร์คไปที่เนวาด้าและเดินทางไปเจรจากับโม กรีนที่ลาสเวกัสเพื่อขอซื้อสถานคาสิโน แต่โม กรีนซึ่งหันไปอยู่ข้างเดียวกับบาสซินี่ปฏิเสธ เฟรดดี้เองก็เอนเอียงไปเข้ากับโม กรีน ทำให้ไมเคิลคาใจกับพฤติกรรมของพี่ชาย เมื่อกลับมาที่บ้านไมเคิลมาปรึกษากับพ่อ ดอนวีโต้บอกกับไมเคิลว่าอยากเห็นอนาคตของเขาเป็นวุฒิสมาชิกจะได้เป็นคนชักใยอยู่บื้องหลัง และเตือนไมเคิลว่าบาสซินีจะนัดประชุมอีกครั้งและจะสั่งฆ่าไมเคิลในที่ประชุม ในที่สุดดอนวีโต้ก็เสียชีวิตจากหัวใจวายขณะเล่นกับหลานชาย

เมื่อถึงพิธีรับศีลของหลานชาย ไมเคิลสั่งคนของเขาฆ่า เบสซินี่ ตาตาเนีย โม กรีน รวมทั้งหัวหน้าครอบครัวมาเฟียทุกตระกูล  เมื่อล้างบางศัตรูทั้งหมดแล้ว ดอนไมเคิล คอลิโอเน่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าครอบครัวมาเฟียคอลิโอเน่อย่างเต็มตัว และเริ่มต้นสร้างตำนานบทต่อไปหลังจากหมดสมัยของดอนวีโต คอลิโอเน่พ่อของเขา

เดอะก็อดฟาเธอร์เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นในปี 1972 จากบทประพันธ์ของมาริโอ ปูโซ่ กำกับการแสดงโดยฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า นำแสดงโดย มาลอน แบรนโด เป็นดอนวีโต้ คอลิโอเน่, อัล ปาชิโน เป็นไมเคิล คอลิโอเน่, เจมส์ คานน์เป็นซอนนี่ คอลิโอเน่, ไดแอน คีตันเป็นเคย์ อดัม ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอะคาเดมี่ ปี 1972   มาลอน แบรนโด ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเสมือนตำนานของภาพยนตร์มาเฟียและเป็นต้นแบบของภาพยนตร์แนวนี้ที่มีการสร้างออกมาอย่างต่อเนื่อง

เครดิตภาพ Lovedesigner, Mendetails

#ภาพยนตร์มาเฟีย #หนังมาเฟียในตำนาน #ก่อนตายต้องดู

รีวิวหนัง Netflix : เศษเสี้ยวหัวใจหญิง Pieces of a Woman หนังดราม่า สายรางวัล

สำหรับช่วงนี้หลายๆคนอาจจะมองว่าไม่ค่อยมี หนังดราม่า บน Netflix ให้ดูเท่าไร บทความนี้จึงขอแนะนำ หนังดราม่าสายรางวัล อย่าง เศษเสี้ยวหัวใจหญิง Pieces of a Woman ซึ่งเป็นหนังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ของความเป็นผู้หญิง เป็นอีก หนังแนะนำบนเน็ตฟลิกซ์ ที่อยากให้ดูกัน เพราะว่าเรื่องนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ในแง่ของการแสดง เป็นอะไรที่คุณควรต้องดูมากๆ

เรื่องย่อ หนัง Netflix เศษเสี้ยวหัวใจหญิง (Pieces of a Woman)

เป็นเรื่องราวของมาร์ธาที่ต้องการมีลูก และครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่แล้วในวันที่เธอคลอดลูก เธอกับเสียลูกของเธอไป ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการแตกร้าวของครอบครัว ปัญหาต่างๆที่เธอต้องแบกรับไว้ ครอบครัวเริ่มไม่ใช่พื้นที่ๆเธอรู้สึกว่าปลอดภัยทางจิตใจอีกต่อไป เธอจะต้องเดินหน้าต่อไป รวมไปถึงการต่อสู้ในชั้นศาลที่ทำให้เธอต้องเผชิญกับเรื่องราวที่ยากเกินจะรับมือไหว

ตัวอย่างหนัง

https://www.youtube.com/watch?v=2eWAu30CE9U&feature=emb_title

เศษเสี้ยวหัวใจหญิง (Pieces of a Woman) หนังดราม่า คุณภาพดี

สำหรับเรื่องนี้พล็อตเรื่องอาจจะไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก แต่ที่ต้องขอชื่นชมเลยก็คือวิธีการเล่าเรื่องของเรื่องนี้ ที่คุมโทนสีออกมาได้อย่างน่าประทับใจ บีบเค้นอารมณ์ของเราไปกับความดราม่า จากตัวอย่างหลายๆคนอาจจะตัดสินว่าหนังเรื่องนี้จะน่าเบื่อหรือเปล่า อาจจะใช่ในแง่ของความที่ไม่ได้มีอะไรใหม่ในเรื่องนี้ แต่ต้องของบอกเลยว่าในแง่ของการแสดง นักแสดงแต่ละคนปล่อยของออกมาแบบเต็มที่ โดยเฉพาะนางเอกของเราที่เล่นได้เข้าถึงบทบาท โดยเฉพาะตอนคลอดลูก ที่ตัวหนังไม่ข้ามขั้นเลย เราจะได้เห็นสภาวะอารมณ์ของตัวละครได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

ซีนอารมณ์ของนักแสดง เศษเสี้ยวหัวใจหญิง (Pieces of a Woman)

ที่ต้องขอชมเชย ไม่ใช่แค่นางเอกของเรื่อง พระเอกของเราที่เป็นสามีเองก็ทำได้ดีมากเช่นกัน เป็นการแสดงอารมณ์สีหน้าได้อย่างทรงพลัง ทั้งๆที่บทของเขาก็ไม่ได้มีมากไปกว่านางเอก แต่กลับแสดงออกมาได้ดีอย่างเหลือเชื่อ และสำหรับคนที่ได้ดูก็จะต้องประทับใจในการแสดงของแม่นางเอกที่พยายามจะปลอบลูกของตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน สรุปรวมก็คือ หนังดราม่า เรื่องนี้ควรค่าแก่การไปดูนักแสดงแต่ละคนว่าปล่อยของออกมาได้น่ากลัวแค่ไหน เพราะว่าพล็อตเรื่องดูไม่มีอะไรเลย แต่หนังเรื่องนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางห้วงอารมณ์ที่พิเศษกว่าเรื่องไหนๆ ถ้าเป็นไปได้ หนังเรื่องนี้เป็น หนัง Netflix ที่คุณไม่ควรจะมองข้ามอีกเรื่อง สำหรับคอหนังสายรางวัล คุณจะต้องประทับใจทุกวินาทีเลยทีเดียว

#Pieces of a Woman #หนังดราม่า #หนังรางวัล #รีวิวหนัง Netflix

รีวิวหนัง Wonder Woman 1984 วันเดอร์ วูแมน กับบทวิจารณ์ที่แบ่งออกเป็นสองฝั่ง

ถ้าเป็นในช่วงนี้ คงไม่มีอะไรจะน่าตื่นตาตื่นใจไปมากกว่า หนังโรง เรื่อง Wonder Woman 1984 หรือ วันเดอร์ วูแมน 1984 อย่างแน่นอน เพราะว่าเป็นหนึ่งใน หนังดีซี ที่ประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นการกลับมาในภาคนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในความคาดหวัง ซึ่งเมื่อหลายๆคนได้ไปดูก็ต้องพบว่า หนังเรื่องนี้อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าที่หวังหรือเปล่า จึงเกิดเป็นคำวิจารณ์สองฝั่งที่มีทั้งชอบและไม่ชอบหนังเรื่องนี้

เรื่องย่อ หนังฮีโร่ Wonder Woman 1984

เป็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในช่วง 1984 ซึ่งเมื่อไดอาน่าได้เรียนรู้ที่จะอยู่ในโลกมนุษย์แบบปกติ เธอยังคงทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนต่างๆ ในนามของฮีโร่ วันเดอร์ วูแมน แต่อยู่มาวันหนึ่ง เธอได้ไปสัมผัสกับก้อนหินวิเศษ แล้วขอพร ซึ่งพรของเธอก็คือขอให้คนรักเก่ากลับคืนมา ซึ่งเขาก็กลับคืนมาจริงๆ แต่ว่ากลับมาอยู่ในร่างกายของคนอื่น เธอจึงพยายามตามไขปริศนาของปัญหานี้ไปพร้อมๆกับการต่อสู้กับวายร้ายตัวใหม่

Wonder Woman กับเรื่องราวของความรัก

เป็นที่รู้กันดีว่าในภาคก่อนๆ ไดอาน่าของเรานั้นมักจะต้องเสียใจและเสียชายคนรักไปตลอด แต่ในภาคนี้เลยได้เน้นไปในเรื่องของชายคนรักที่ได้กลับมา เราจะได้เห็นเธอใช้ชีวิตแบบที่เธอวาดฝันเอาไว้ ส่วนตัวของคนดูก็เหมือนได้ปลดล็อก และเติมเต็มบางอย่างในหัวใจ หลังจากที่เห็นเธอต้องเสียใจเรื่องชายคนรักในภาคก่อนๆ โดยในภาคนี้ก็จะเป็นการเล่นกับการเล่าเรื่องในการใช้ชีวิตเสียมากกว่า เพราะฉะนั้นก็จะมีทั้งคนดูที่ไม่ชอบ และชอบ เพราะในเรื่องก็ค่อนข้างใช้เวลานานในการปูเรื่องราวเหล่านี้อยู่พอสมควรเลยทีเดียว

ฉากแอ็คชั่นที่ด้อยลงกว่าภาคอื่นๆ ของ Wonder Woman

ถึงแม้จะอวยเรื่องนี้แค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าในเรื่องของฉากแอ็คชั่นต่างๆ ในภาคนี้นั้นทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือจะให้พูดง่ายๆก็คือไม่ดีเท่ามาตรฐานของตัวเองที่ได้ทำไว้ในภาคก่อนๆ โดยจะเน้นไปที่การเล่าเรื่องเสียส่วนใหญ่ แต่ในจุดนี้ก็เข้าใจได้ เช่นในเรื่องปมของตัวร้าย ถึงสาเหตุที่ค่อยๆเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นแบบนั้น แต่พอมาพูดถึงในเรื่องของความสามารถในการต่อสู้เอง ปูมาดี แต่กลับใช้ของไม่คุ้มเสียอย่างนั้น เพราะฉากแอ็คชั่นของตัวร้ายเอง ก็ค่อนข้างน่าผิดหวังทีเดียว เพราะฉะนั้นบอกเลยว่า Wonder Woman ในภาคนี้อาจจะไม่ได้หวือหวาเท่าภาคก่อนๆ แต่ก็มีมิติบางอย่างที่แปลกใหม่ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร

https://www.youtube.com/watch?v=NVOzk3ZhsRg Wonder Woman 1984 trailer ซับไทย

#รีวิวหนังใหม่ชนโรง #หนังโรง #Wonder Woman 1984

รีวิวหนังไทย อ้าย..คนหล่อลวง หนังไทยกระแสดัง เพลงประกอบเริ่ด

สำหรับหนังไทยที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในขณะนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น อ้าย..คนหล่อลวง หนังไทยที่จับคู่พระนางชื่อดังแห่งยุคอย่าง ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก และ ณเดชน์ คูกิมิยะ มาแสดงคู่กัน ขอบอกเลยว่าปังตั้งแต่เนื้อเรื่องยันเพลงประกอบ ซึ่งเพลงประกอบของ หนังใหม่ อ้าย..คนหล่อลวง ก็ได้ฮิตติดชาร์ตอยู่ลำดับต้นๆ ของชาร์ตเพลงไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย

เรื่องย่อ หนังไทย อ้าย..คนหล่อลวง

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ทาวเวอร์ นักต้มตุ๋นมืออาชีพ ที่ได้พลาดท่าให้กับ อินา ที่สามารถจับไต๋เขาได้ เธอได้ทำการยื่นข้อเสนอให้กับทาวเวอร์เพื่อแลกกับการที่เธอจะไม่แจ้งตำรวจ โดยการที่จะไปแก้แค้นแฟนเด็กที่เคยหลอกให้เธอเปย์เงินค่าเทอมให้แล้วชิ่งหนี จนเธอมีหนี้ท่วมหัว งานนี้เธอเลยจับมือกับทาวเวอร์ แล้วพยายามหลอกเอาเงินคืน แต่แผนการกับใหญ่กว่าที่คิด เลยทำให้คนที่จะมาร่วมแผนการก็เพิ่มขึ้นไปด้วยนั่นเอง แต่การร่วมมือระหว่างเขาและเธอ ก็ต้องพยายามห้ามใจไม่ให้ตกหลุมรักกันเองด้วยนี่สิ

ตัวอย่างหนัง https://www.youtube.com/watch?v=lRifyR1jrHw

เคมีสุดลงตัว ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก และ ณเดชน์ คูกิมิยะ

สำหรับฝีมือการแสดงของสองคนนี้แทบบอกเลยว่าไม่เป็นที่กังขาใดๆ อยู่แล้ว เพราะต่างก็เป็นนักแสดงมากฝีมือด้วยกันทั้งคู่ และก็ต้องยอมรับว่าทั้งสองเล่นเข้าคู่กันได้อย่างลงตัวสุดๆ รวมถึงนักแสดงสมทบที่งานนี้มาเพื่อปล่อยของกันอย่างไม่มีกั๊ก หากคุณตัดสินใจอยากจะดูเรื่องนี้ เรื่องคุณภาพของนักแสดงไม่ใช่สิ่งที่คุณจะต้องกังวลเลย เพราะว่าเอาอยู่แทบทุกฉาก ฉากฮา ฉากเท่ รับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่สำหรับเรื่องนี้

แผนการอันแยบยลตามสไตล์ GDH

พอเป็นหนัง GDH เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะแอบคาดหวังเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ซึ่งก็ขอบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ขายการต้มตุ๋ม วิธีการโจรกรรมต่างๆ ซึ่งทางทีมงานและคนคิดบทเองก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว สำหรับเส้นเรื่องของหนังโจรกรรมแบบไทยๆที่ผสมผสานความฮา ขอบอกเลยว่าสอบผ่านฉลุย ถึงแม้อาจจะมีบางตอนที่แอบไม่สมเหตุสมผลไปบ้าง แต่ก็ถือว่าไม่น่าเกลียดอะไรสำหรับเรื่องนี้ แต่สำหรับสาย หนังโรแมนติก อาจจะต้องพักก่อน เพราะอย่างที่ได้บอกไปว่า หนังเรื่องนี้ขายความฮา ความบันเทิง มุมมองใหม่ๆของหนัง เพราะฉะนั้นเรื่องความโรแมนติกอาจจะไม่ได้มีให้เห็นมากนักในเรื่องนี้เพราะฉะนั้น แฟนๆ หนังไทย ไม่ต้องผิดหวังไป เพราะความฮามันทดแทนกันได้

#หนังไทย #หนังเข้าใหม่ #หนังโรง #อ้าย..คนหล่อลวง

รีวิวหนังข้างหลังภาพ (2001)

            หากพูดถึงภาพยนตร์พีเรียดอมตะในอดีตที่โด่งดังกันในประเทศไทยจนถูกนำมารีเมคหลายรอบ นอกจากคู่กรรมแล้วก็ยังมีหนังข้างหลังภาพนี่ล่ะค่ะที่ยังคงตราตรึงใจคนไทยมาจนถึงตอนนี้ เพราะเป็นภาพยนตร์รักของไทยที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมต่างแดน โลเกชั่นสวยงาม และจบลงด้วยพลัดพรากที่ทำให้น้ำตาไหลกันตาม ๆ ไปไม่ว่าจะถูกทำมาสักกี่เวอร์ชั่น โดยเฉพาะหนังข้างหลังภาพเวอร์ชั่น 2001 ที่ได้นักแสดงนำอย่างเคน ธีรเดช มารับบทเป็น “นพพร” และได้คาร่า พลสิทธิ์ มารับบทเป็น “คุณหญิงกีรติ” ที่ได้รับการขนานนามมาแล้วว่าคาร่าแสดงเป็นคุณหญิงกีรติได้สมบทบาทที่สุดและเวอร์ชั่นนี้ก็ดำเนินเรื่องตรงตามบทประพันธ์ของ “กุหลาบ สายประดิษฐ์” มากที่สุด จะน่าติดตามแค่ไหนเราไปดูกันดีกว่า

เรื่องย่อหนังข้างหลังภาพ (2001)

            หนังข้างหลังภาพ (2001) ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “นพพร”นักศึกษามหาวิทยาลัยริคเคียว ประเทศญี่ปุ่นอายุ 22 ปีที่ได้ถูกขอร้องจากพระยาอธิการบดีซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อตัวเองให้พา “คุณหญิงกีรติ”ซึ่งเป็นภรรยาอายุคราวลูกที่ตัวเองพามาฮันนีมูนด้วยไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในญี่ปุ่นเพื่อให้คุณหญิงมีความสุขกับการมาเยือนต่างแดนที่สุด ด้วยตัวเองนั้นแก่มากแล้วจึงมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงพอ ทำให้นพพรกับคุณหญิงกีรติได้ใกล้ชิดกันจนก่อเกิดเป็นความรักท่ามกลางบรรยากาศต่างวัฒนธรรมที่งดงามแห่งแดนอาทิตย์อุทัยในที่สุด

ความน่าสนใจของหนังข้างหลังภาพ (2001)

            หนังข้างหลังภาพ (2001) มีความน่าสนใจตรงที่ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศธรรมชาติและสภาพบ้านเมืองวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นสมัยก่อนที่รายล้อมรอบความรักของคู่พระนางที่เกิดขึ้นจากการที่ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันและกันผ่านการไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ คุณหญิงกีรติชอบนพพรที่เป็นคนอัธยาศัยดี อ่อนน้อม บริสุทธิ์ตามประสาเด็กหนุ่มผู้เพิ่งได้รู้จักกับความรักเป็นครั้งแรก ส่วนนพพรก็ชอบคุณหญิงกีรติที่ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี น่าเคารพ แต่ก็มีความเป็นตัวของตัวเอง แม้บุคลิกจะเป็นคนค่อนข้างเงียบ แต่ก็มีสดใสและอ่อนหวานภายในแบบที่เขาไม่เคยไม่เห็นในแบบของผู้หญิงคนไหนเช่นกัน ยิ่งฉากที่ทั้งคู่ไปเที่ยวมิตาเกะซึ่งเป็นที่มาของภาพวาดที่คุณหญิงมอบให้ก็ยิ่งน่าประทับใจ ทำให้รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณหญิงไม่เคยได้มีอิสระและทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริง ๆ แต่นพพรคือผู้ที่เปิดโลกให้เธอได้เห็นมัน แต่สุดท้ายความรักของทั้งคู่ก็ไม่อาจสมหวังเมื่อเธอมีสามีอยู่แล้ว และวันเวลาหลายปีก็ได้เปลี่ยนแปลงให้นพพรเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจนมองคุณหญิงเป็นเพียงผู้ใหญ่ที่ตัวเองให้ความนับถือและเคารพรักก็เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรคุณหญิงก็จะยังคงรักนพพรคนเดียวตลอดไปตราบสิ้นลมหายใจซึ่งจุดจบของข้างหลังภาพ ความจริงแล้วทั้งคู่นั้นรักกันด้วยหัวใจจริงอย่างที่ชายหญิงพึงมี แต่ตัวพระเอกตอนนั้นที่ยังอายุเพียง 22 ปีทำให้คิดว่าเมื่อรักแล้วก็ต้องเปิดเผยออกมาอย่างไร้เดียงสา แต่คุณหญิงนั้นเป็นผู้ใหญ่กว่าจึงรู้ว่าหากรักกับเขานั้นจะเป็นการผิดศีลธรรม เพราะเธอก็มีสามีอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อพระเอกโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจในจุดนี้ประจวบกับความห่างไกลทำให้ลืมความรักกันตามเวลา มีเพียงความผูกพันและฝังใจก็เท่านั้น

ข้อคิดดี ๆ จากหนังข้างหลังภาพ (2001)

            หนังข้างหลังภาพ (2001) ได้สอนให้เรารู้ว่า ความทรงจำเป็นสิ่งที่มีค่าเสียยิ่งกว่าภาพใด ๆ ที่แม้เราจะเห็นภาพได้อย่างชัดเจนด้วยเพราะเป็นรูปธรรมมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ชัดเจนและทรงคุณค่าต่อความรู้สึกมากที่สุดก็คือ “ความทรงจำในหัวใจ” แม้จะต้องพลัดพรากจากกันแต่ก็ยังรู้สึกมีความสุขโชติช่วงทุกครั้งที่ได้หวนนึกถึงครั้งหนึ่งที่เคยได้อยู่ด้วยกันและได้พบเจอกับใครสักคนที่ทำให้ยิ้มได้แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม

รูปภาพประกอบ : https://www.imdb.com/

https://www.youtube.com/watch?v=dufGhTPIHjA เพลง กีรติ ประกอบหนัง ข้างหลังภาพ (2001)

#ข้างหลังภาพ (2001) #หนังรักในตำนาน #รีบดูก่อนตาย

รีวิวหนัง The Letter จดหมายรัก (2547)

            หากใครที่ชอบหนังรักโรแมนติกที่มีความดราม่าเคล้าน้ำตาแต่มีกลิ่นอายที่สามารถตรึงใจคนดูได้แบบลืมไม่ลง เราขอแนะนำหนัง The Letter จดหมายรัก (2547) เลยค่ะ คนไทยที่เป็นสายหนังรักคงรู้จักกันดี เพราะเป็นหนังที่โด่งดังมากจนมาถึงปัจจุบันและทำให้อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเงียบเหงาห่างไกลความเจริญในหุบเขากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังซึ่งมีคนนิยมเดินทางมากันมากมายไม่ขาดสายเลย ต้องบอกก่อนว่าหนัง The Letter นี้ซื้อลิขสิทธิ์ต้นฉบับจากหนัง The Letter ของเกาหลีมารีเมคนะคะ จึงไม่แปลกใจเลยที่คนสมัยก่อนจะรู้สึกอิ่มเอมใจไปกับความรักรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนหนังรักของไทยเรื่องอื่น ๆ หากอยากรู้ว่าหนังรักเรื่องนี้จะประทับใจแค่ไหนก็มาดูรีวิวไปพร้อม ๆ กันเลย

เรื่องย่อของหนัง The Letter จดหมายรัก (2547)

            หนัง The Letter จดหมายรัก (2547) ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ดิว” โปรแกรมเมอร์สาวที่ทำงานอยู่กรุงเทพซึ่งได้มีโอกาสเดินทางขึ้นมาเชียงใหม่เพื่อร่วมงานศพของยายซึ่งเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่จนได้พบกับ “ต้น” ที่ทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ในอำเภอเล็ก ๆ แห่งนี้ พวกเขาได้ทำความรู้จักจนสนิทกันในระยะเวลาอันสั้น แม้ดิวจะกลับไปกรุงเทพแล้ว ต้นก็ยังคงแวะมาหา จนสุดท้ายโชคชะตาเล่นตลกให้ดิวได้กลับไปพักใจที่เชียงใหม่อีกครั้งจนได้มีเวลากับดิวและก่อเกิดเป็นรักแท้ของกัน ระหว่างนั้นต้นได้ไปเจอจดหมายเก่าของยายดิวซึ่งคนรักของยายได้เขียนให้ท่าน เขาจึงตั้งมั่นว่าสักวันตัวเองจะได้มีโอกาสเขียนให้ดิวบ้าง แต่จะทำอย่างไรเมื่อเขากำลังจะตายด้วยเนื้องอกในสมอง เช่นนี้แล้วจดหมายที่ต้นคิดจะเขียนให้ดิว…ดิวจะได้รับมันหรือไม่

ความน่าสนใจของหนัง The Letter จดหมายรัก (2547)

            หนัง The Letter จดหมายรัก (2547) มีความน่าสนใจตรงที่ตัวหนังได้บอกเล่าถึงชีวิตของนางเอกที่ต้องสูญเสียทั้งยายเล็กซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียวและสูญเสียเพื่อนสนิทที่สุดอย่าง “เกด” ไปเพราะผู้ชายที่คบด้วยทางอินเตอร์เน็ตฆ่า แต่ก็ยังดีที่นางเอกมีพระเอกคอยอยู่เคียงข้าง ได้พาเธอไปเห็นโลกใหม่แห่งธรรมชาติและขุนเขาในอำเภอเล็ก ๆ อันเงียบสงบของจังหวัดเชียงใหม่และสานความสัมพันธ์กันจนเป็นคนรัก พระเอกเป็นคนอ่อนโยนและแสดงความรักที่ทำเอาคนโสดอย่างเราอิจฉาหลายต่อหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นการบอกรัก การดูแลกันยามเจ็บป่วย และคอยเคียงข้างเมื่อมีปัญหากัน แม้สุดท้ายตัวเองจะเสียชีวิตด้วยเนื้องอกในสมองก็ยังมีจดหมายมากมายส่งมาให้นางเอกตลอดเวลาเพื่อเป็นตัวแทนให้นางเอกรู้สึกไม่เหงาและยังมีเขาคอยอยู่เคียงข้างตลอดเวลา ในจดหมายก็มีการบอกรัก มีวิธีดูแลตัวเอง ดูแลบ้าน การทำเมนูอาหารซึ่งปกติพระเอกจะเป็นคนทำให้นางเอก แต่เมื่อเขาไม่สามารถอยู่ทำหน้าที่นั้นได้แล้วก็ยังอยากให้นางเอกได้รับประทานอาหารอร่อยฝีมือตัวเองอยู่จึงบอกสูตรมาในจดหมาย รวมถึงบอกในสิ่งที่เขาอยากรักษาไว้นั่นก็คือ ธรรมชาติและต้นไม้บนดอย สุดท้ายนางเอกก็สามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่กลัวความสูญเสียใด ๆ อีก เพราะมีจดหมายของพระเอกที่ทำให้เธอเข้มแข็งได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง และยังมีลูกที่พระเอกได้มอบเป็นของขวัญซึ่งเธอให้ชื่อว่า “ตั้ม” ด้วย ฉากสุดท้ายที่นางเอกบอกให้ลูกวิ่งไปกอดพ่อซึ่งก็คือต้นบ๊วยที่นางเอกเคยนำเถ้ากระดูกพระเอกไปฝังดินนั่นทำเอาเราน้ำตาไหลและขนลุกจนอดปรบมือไม่ได้เลย เป็นหนังรักที่ควรค่าแก่การดูจริง ๆ

ข้อคิดดี ๆ จากหนัง The Letter จดหมายรัก (2547)

            หนัง The Letter จดหมายรัก (2547) ได้สอนให้เรารู้ว่าถึงแม้คนที่เรารักจะไม่อยู่ด้วยกัน แต่เราก็ยังสามารถสัมผัสถึงความรักอันสูงส่งที่เขามีต่อเราได้ตลอดเวลา ในความรักนั้นเต็มไปด้วยความหวังดี ความห่วงใย และหัวใจของเขาที่ยังคงเต้นอยู่ในตัวคุณเมื่อคุณนึกถึงเขา จดหมายทุกฉบับคือสิ่งที่ยืนยันว่าความรักที่เขามอบให้คุณมีเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่มีใครแทนใครได้และจะอยู่ในความทรงจำจนชั่วชีวิต

รูปภาพประกอบ : https://www.imdb.com/

#รีบดูก่อนตาย #หนังรักไทยในตำนาน #หนังดราม่าต้องดู

The Lovebirds เมื่อโรแมนติคคอมเมดี้มารวมกับสืบสวนสอบสวนมันจะป่วงแค่ไหน

เมื่อเกิดสถานการณ์ Covid-19 ก็ทำให้มีหนังหลายๆเรื่องต้องเลื่อนฉายออกไป และก็มีอีกหลายๆเรื่องเช่นกันที่ต้องถอดออกจากการไปฉายในโรง และเรื่อง The Lovebirds ก็เป็น หนังตลก 2020 อีกเรื่องที่กำหนดการเดิมนั้นจะถูกนำมาฉายในโรงภาพยนตร์แต่ว่าเนื่องด้วยโรคระบาดทาง Netflix เลยซื้อมาลงในสตรีมมิ่งของตัวเองเสียเลย ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่รับรองว่าคุณจะได้สนุกสนานแบบครบรสบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น โรแมนติค ฆาตรกรรม คอมเมดี้

เรื่องย่อ หนัง The Lovebirds

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ คู่รักคู่หนึ่งที่ตอนนี้ความสัมพันธ์พวกเขาก็ไม่ได้ราบรื่นและเป็นไปได้ด้วยดีนัก พวกเขาทั้งสองดันจะต้องมาพัวพันกับคดีฆาตรกรรมโดยที่พวกเขาไม่ได้ตั้งใจ ทำให้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจตามหาตัว พวกเขาทั้งสองได้ตัดสินใจที่จะสืบหาความจริงและลากตัวฆาตรกรตัวจริงไปส่งตำรวจ แต่จากการตามล่านี้ก็ทำให้เขาได้เขาไปพัวพันกับผู้มีอิทธิพล จนพวกเขาทั้งคู่นั้นต้องหาทางรอดออกไปให้ได้

หนังตลก เน็ตฟลิกซ์ ที่ทั้งครบรส โหด มันส์ ฮา แถม โรแมนติค

ในช่วงแรกๆของหนังเรื่องนี้ ตัวหนังจะโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของคู่รักคู่นี้ ซึ่งก็จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาทั้งสองนั้นไม่ได้มีชีวิตคู่ที่เป็นไปได้สวยงามสักเท่าไรในตอนนั้น มีปัญหากันตลอดเนื่องจากความต่าง และสามารถหยิบประเด็นเล็กๆน้อยๆมาทะเลาะกันได้ไปหมด ซึ่งในตอนแรกนี้จะค่อนข้างชัดเจนและตรงไปตรงมาว่าเขาทั้งคู่นั้นแทบจะหมดหวังในความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว ซึ่งในส่วนนี้ก็กินเวลาพอสมควรกว่าจะเข้าไปสู่ช่วงที่น่าตื่นเต้นอย่างคดีฆาตกรรม ที่ทั้งคู่บังเอิญเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเฉยๆ แน่นอนว่าครั้งแรกที่คุณได้ดูคุณก็อาจจะรู้สึกขัดใจกับทางเลือกที่จะหนีของตัวเอกไปไม่น้อย แต่ส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ทำให้หนังเรื่องนี้ได้ไปต่อ เพราะว่าพวกเขาได้ตัดสินใจสืบหาความจริง ซึ่งน่าสนใจมาก

พวกเขาค่อยๆสืบจนมารู้ว่าได้เข้าไปยุ่งเรื่องของผู้มีอิทธิพลเสียแล้ว ซึ่งการสืบหาความจริงของทั้งคู่ก็จะเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดป่วน ที่รับรองว่าเรียกเสียงฮา และยังมีปมปริศนาเกี่ยวกับการฆษตรกรรมซึ่งถือว่าเป็นจุดขายอีกจุดของเรื่องนี้เลยก็ได้ เพราะเฉลยได้ค่อนข้างสมเหตุสมผลในเรื่องความโหดของฆาตรกร แต่สำหรับตอนจบของเรื่องแน่นอนว่าหากหนังปูเรื่องมาแบบนี้ทั้งคู่พระนางก็ต้องกลับมารักกัน เพราะผ่านเรื่องราวต่างๆในระหว่างการสืบหาความจริงมาอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ทำให้ หนังเน็ตฟลิกซ์ แนะนำ 2020 เรื่อง The Lovebirds เรื่องนี้ได้กลายมาเป้นที่น่าสนใจก็คือ เป็นหนังที่ดูง่ายแต่คุณจะได้ความบันเทิงแบบครบรสเลยทีเดียว

https://www.youtube.com/watch?v=YzPq8uVgLe8

#รีวิวหนังเน็ตฟลิกซ์ #หนังแนะนำ 2020 #The Lovebirds

รีวิวภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง Peninsula ฝ่านรกซอมบี้คลั่ง

Peninsula ฝ่านรกซอมบี้คลั่ง ติด Top10 อันดับที่หนึ่งของไทย ภาคต่อของ Train to Busan ยังครองใจใครหลายๆคนกับภาพยนตร์ซอมบี้สุดฮิตของเกาหลี ได้นักแสดงนำอย่าง คังดงวอน พระเอกหนุ่มสุดหล่อจะนำพาทุกคนไปลงสนามกับซอมบี้ที่วิ่งเร็วเอามากๆ ซึ่งทำให้รอบเปิดตัวและการซื้อตั๋วล่วงหน้ายอดถล่มทลายกันเลยทีเดียว

เรื่องดำเนินต่อจาก Trian to Busan เชื้อได้เกิดจากโรงงานชีวภาพและได้เริ่มแพร่ระบาดไปทั่วประเทศเกาหลีใต้ ทุกคนต่างหนีเพื่อเอาตัวรอด ซึ่งรัฐและกองทัพได้เข้ามาช่วยและทำการอพยพประชาชนออกจากประเทศ “ผู้กองจองซอก” ทหารหนุ่มได้นำครอบครัวของตัวเองขึ้นไปยังเรือรบใหญ่ ที่กำลังจะเคลื่อนย้ายออกจากน่านน้ำคาบมหาสมุทรเกาหลี เป้าหมายที่จะไปคือประเทศญี่ปุ่น แต่ระหว่างทาง ผู้บังคับบัญชาได้เปลี่ยนเส้นทางไปฮ่องกงแทนซึ่งพวกเขาไม่ได้บอกเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน ระหว่างเกิดการแพร่ระบาดกับผู้คนชั้นล่างของใต้ท้องเรือ พรากชีวิตหลานชายและพี่สาวของเขาไป เหลือเพียงพี่เขยและเขาที่ยังรอดชีวิตและได้ใช่ชีวิตต่อที่ประเทศฮ่องกง

ผ่านเวลามา 4 ปี เขาได้ถูกว่าจ้างให้กลับไปยังบ้านเกิดเพื่อตามหากระเป๋าเงินที่ซุกซ่อนอยู่ในรถ เขาและพี่เคยของเขาจึงตัดสินใจที่จะไปทำงานให้ ซึ่งมีคนติดตามไปด้วยอีก2คน พวกเขาทั้งสี่คนก็ขึ้นฝั่ง ประเทศที่เคยงดงามกลับกลายประเทศร้าง ไร้วี่แววของผู้รอดชีวิต พวกเขาก็เดินทางตามหารถคันดังกล่าวไปเรื่อยๆ สิ่งที่ควรระวังไว้ก็คือ “ช่วงกลางคืนพวกซอมบี้จะมองไม่เห็น แต่การได้ยินจะไวมาก” เมื่อพวกเขาได้เจอกับรถที่ขนเงินแล้ว ก็ได้เจอกับซากศพคนขับรถที่นอนแน่นิ่งอยู่ ชายอีกคนได้เข้าไปสัมผัสใกล้ๆทำให้มันตื่นขึ้น จากนั้นพวกเขาก็กราดยิงไม่หยุด ทำให้พวกซอมบี้อื่นๆตื่นมาตามเสียงนั้น พวกเขารีบหนีออกจากที่นี่ แต่ก็ไม่เป็นผล จนทำให้อีกสองคนตาย ส่วนจองซอกได้มีผู้รอดชีวิตช่วยเหลือตนไว้ ส่วนพี่เขยนั้นถูกขังอยู่ท้ายรถขนเงิน ซึ่งทางกลุ่มทหารเก่าได้เอาไป จองซอกได้เจอเด็กสาวสองคน พี่สาวชื่อว่า “จุนอี” เป็นคนขับรถ เธอขับรถได้ซิ่งมาก ฝ่าฝูงซอมบี้ไปได้อย่างน่าหวาดเสียว ส่วนน้องสาวชื่อ “ยูจิน” เด็กแสบที่ชอบรถบังคับมาก

และเขาก็ยังได้พบกับ “มินยอง” คุณแม่ของเด็กสาวทั้งสองคน ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เคาะกระจกรถของจองซอกเมื่อสี่ปีที่แล้ว เพื่อขอความช่วยเหลือพาลูกของเธอขึ้นเรือไปด้วย แต่เมื่อมาพบเจอกันแล้วจองซอกก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังและขอโทษมินยองไป พวกเขาทั้งหมดก็ตัดสินใจที่จะออกจากประเทศแห่งนี้และไปเริ่มชีวิตใหม่ ซึ่งต้องไปเอาโทรศัพท์สื่อสารดาวเทียวที่เขาทำตกไว้ในรถขนเงิน มินยองและจองซอกได้ร่วมมือกันเข้าไปยังที่พักของเหล่าทหาร และเขายังได้เข้าไปช่วยพี่เขยของเขาอีกด้วยแต่ไม่เป็นผล เมื่อโดนฝั่งเหล่าทหารกราดยิงใส่ จนเขาควบคุมสติของตัวเองไม่อยู่ เหม่อลอยไปสักพัก ได้มินยองที่ดึงสติออกมาได้ พวกเขาก็ไล่ล่ากันทั้งคนเป็นและหนีจากฝูงซอมบี้อีกด้วย

Netflix: ซับไทยและพากย์ไทย

ความยาว: 1 ชั่วโมง 55 นาที

คะแนนจากผู้เขียน: 7.5/10

ความคิดเห็นของผู้เขียน: เมื่อเทียบกับเนื้อเรื่องระหว่าง Train to Busa และ Pannisulaแล้ว ผู้เขียนคิดว่าภาคแรกสนุกกว่า และมีครบรสมากกว่าภาคที่สอง ภาคที่สองจะเน้นความตื่นเต้นของการวิ่งหนีระหว่างซอมบี้และคนเป็นไปซะมากกว่า ความสัมพันธ์ของครอบครัวยังไม่ค่อยลึกซึ้งมากสักเท่าไหร่ ส่วนเรื่อง CG บางฉากหรือบางตอนยังไม่เนียนมาก แต่โดยรวมของเรื่องแล้วถือว่าพอใช้ค่ะ

#รีวิวPannisula #รีวิวหนัง #หนังซอมบี้เกาหลี