13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi การกลับมาอีกครั้งของ ไมเคิล เบย์

            หากพูดถึงผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในด้านการทำภาพยนตร์แนวสงคราม ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ชื่อที่เราจะต้องนึกถึงกันเป็นชื่อแรกๆ น่าจะเป็นชื่อของผู้กำกับอย่างไมเคิล เบย์ เพราะเขามีความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องราวสงครามออกมาได้อย่างเมามันส์ ไปด้วยฉากระเบิดสุดตระการตา หลังจากที่ไปทำภาพยนตร์เรื่อง Transformers อยู่นาน ครั้งนี้เขาได้กลับมาอีกครั้งในภาพยนตร์แนวถนัดในเรื่อง 13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi เป็นการนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เคยได้รับการเปิดเผยมาก่อนมานำเสนอในรูปแบบภาพยนตร์ ดังนั้นรับประกันได้เลยว่ามันจะต้องเต็มไปด้วยความสนุกและลุ้นระทึกอย่างแน่นอน

http://ciaranknight.blogspot.com/2016/02/13-hours-secret-soldiers-of-benghazi.html

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง 13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi

www.youtube.com/watch?v=4CJBuUwd0Os

            13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi จะเล่าถึงเรื่องราวการทำภารกิจที่เต็มไปด้วยความอันตรายของนายทหารชาวอเมริกันทั้งหมด 6 นายซึ่งมีความสามารถในระดับหาตัวจับยาก พวกเขานั้นได้รับมอบหมายให้เข้าไปยังเมืองแบงกาซี ประเทศลิเบียเพื่อช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมด 36 คน ซึ่งทุกคนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์นั้นเกิดจากการที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้บุกเข้าไปโจมตีภายในสถานทูตด้วยอาวุธครบมือ ทำให้ชีวิตของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่ในสถานทูตนั้นไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ไม่เว้นแม้แต่นายทหารที่ถูกส่งเข้าไปทำภารกิจซึ่งต้องแบกรับความเสี่ยงและความยากในการต่อสู้ ยังไม่รวมถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดซึ่งอาจจะต้องแลกมาด้วยชีวิตของพวกเขา และยังมีข้อจำกัดเป็นเวลาที่ได้รับมาเป็นจำนวนทั้งสิ้น 13 ชั่วโมงเท่านั้น พวกเขาจึงจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้สามารถช่วยชีวิตตัวประกันได้มากที่สุด 

13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi ภาพยนตร์ที่นำเรื่องจริงมาเล่าให้มีความสนุกมากยิ่งขึ้น

www.nytimes.com/2016/01/15/movies/review-in-michael-bays-13-hours

ตัวอย่างหนัง :

13 Hours The Secret Soldiers of Benghazi Official Trailer #1 (2016) Michael Bay Movie HD

ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่อง 13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นแน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ทางผู้สร้างจะต้องคำนึงถึงนั่นก็คือความสมจริงทั้งเนื้อเรื่องและงานภาพ แต่ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์มันจึงต้องสอดแทรกความสนุกเข้าไปทำให้เรื่องราวอาจมีการผิดเพี้ยนจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ มันจึงกลายเป็นข้อถกเถียงว่าสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เอามานำเสนอนั้นมีความจริงมากน้อยเพียงใด ซึ่งก็ไม่ได้มีแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เท่านั้นที่ถูกหยิบยกนำมาถกเถียงเรื่องความจริงกับสิ่งที่ภาพยนตร์นำเสนอ ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่ยกนำเอาเรื่องจริงมาสร้างก็มักจะถูกหยิบยกนำมาถกเถียงเช่นเดียวกัน สุดท้ายแล้วภาพยนตร์ก็คือสื่อที่มอบความบันเทิงให้กับผู้รับชม แม้ว่าจะมีการสอดแทรกความรู้เข้าไปบ้างแต่ก็เน้นเรื่องความบันเทิงเป็นหลัก ดังนั้นทางผู้สร้างจึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้ภาพยนตร์ของตนออกมาทั้งสนุกและสมจริงได้มากที่สุด มันจึงอาจจะมีในบางส่วนของภาพยนตร์ที่มีการดัดแปลงเนื้อหาเพื่อให้มันสนุกมากยิ่งขึ้น

#13 Hours #หนังสงครามน่าดู #หนัง ไมเคิล เบย์

SOUL อัศจรรย์วิญญาณอลเวง ภาพยนตร์อนิเมชั่นน้ำดีที่มาตอนปลายปี 2020

             ปี 2020 นั้นเป็นปีที่ทั่วทั้งโลกต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ส่งผลกระทบให้ผู้คนนั้นต้องกักตัวและทำงานอยู่แต่ในบ้านอุตสาหกรรมบันเทิงโดยเฉพาะภาพยนตร์อนิเมชั่นนั้นได้รับผลกระทบเต็มๆ เพราะหากทีมงานไม่สามารถมาทำงานได้การผลิตก็จะล่าช้าลงและไม่สามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตอบสุดท้ายทางค่ายพิกซาร์ก็สามารถเข็นภาพยนตร์เรื่อง SOUL อัศจรรย์วิญญาณอลเวง ออกมาฉายได้ทันก่อนสิ้นปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้นเงียบเหงา แม้ว่าจะไม่ได้มีการโปรโมทอะไรมากนักแต่ด้วยความที่มีชื่อค่ายการันตีทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงได้รับความสนใจและเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์หน้ารับชมในปี 2020

ขอบคุณภาพปกจาก : flowthefilm.com/soul

 เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง SOUL อัศจรรย์วิญญาณอลเวง 

https://newsakmi.com/news/entertainment/movie-reviews/pixars-soul-puts-a-fresh-spin-on-following-dreams-and-what-that-really-means/

            SOUL อัศจรรย์วิญญาณอลเวง จะเล่าถึงเรื่องราวชีวิตของครูสอนดนตรีวัยกลางคนที่มีชื่อว่าโจ แม้ว่าเขานั้นจะสามารถทำงานได้ดีจนได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำที่มีความมั่นคงและแม่เขาก็ยินดีกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ แต่เขากลับยังคงรู้สึกต้องการที่จะทำตามความฝันด้วยการเข้าไปเล่นในวงดนตรีแจ๊สชื่อดังเพราะเขามีความหลงใหลในการเล่นดนตรีแจ๊สเป็นอย่างมาก ในวันหนึ่งเขาได้รับการติดต่อจากลูกศิษย์เก่าให้ไปเล่นกับวงดนตรีแจ๊สชื่อดังของโดโรธีและเขาก็สามารถผ่านการออดิชั่น ด้วยความดีใจทำให้เขานั้นกระโดดโลดเต้นจนตกท่อและวิญญาณหลุดออกจากร่าง ความดีใจได้แปรเปลี่ยนเป็นความกังวลเพราะเขายังคงต้องการทำตามความฝันและอยากกลับไปมีชีวิตอีกครั้ง เขาจึงจับพลัดจับผลูไปโผล่ในโลกก่อนเกิดและถูกเข้าใจผิดว่าเขาเป็นพี่เลี้ยงที่จะมาจุดประกายให้กับดวงวิญญาณที่กำลังจะไปเกิดบนโลก ดวงวิญญาณที่เขาได้จับคู่ด้วยนั้นเป็นดวงวิญญาณที่อยู่ในโลกแห่งนี้มานับพันปีและไม่ยอมไปเกิดสักทีไม่ว่าจะได้พี่เลี้ยงที่ดีแค่ไหนก็ตาม เขามีชื่อว่า 22  คนนึงไม่อยากไปเกิดอีกคนนึงอยากจะกลับไปใช้ชีวิตทำให้พวกเขานั้นตกลงที่จะทำบางสิ่งบางอย่างร่วมกันแต่มันก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเพราะ 22 ดันเข้าไปอยู่ในร่างของโจ โจนั้นก็ดันเข้าไปอยู่ในร่างของแมว 

ตัวอย่างหนัง :

Disney & Pixar’s Soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง | ตัวอย่างสุดท้าย (Official ซับไทย)

SOUL อัศจรรย์วิญญาณอลเวง ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่จะทำให้คุณได้เข้าใจความหมายของการมีชีวิต

https://www.cinemablend.com/news/2494389/souls-new-release-date-has-special-meaning-for-pixar

            SOUL อัศจรรย์วิญญาณอลเวง ภาพยนตร์ที่จะทำให้เราตั้งคำถามกับตนเองตลอดเวลาที่รับชมว่าความจริงแล้วเป้าหมายในชีวิตของเราคืออะไรกันแน่และความจริงแล้วความหมายของการมีชีวิตอยู่คืออะไร โจเข้าใจมาตลอดว่าการได้เล่นในวงดนตรีแจ๊สจะสามารถเติมเต็มเขาได้แต่พอเขาได้ทำจริงๆ เขากลับพบว่ามันช่างว่างเปล่า เช่นเดียวกับ 22 ที่พอได้มาใช้ชีวิตเป็นโจเขาก็ได้พบเป้าหมายที่จุดประกายเขาแต่ในภาพยนตร์ก็ไม่ได้เฉลยว่าสุดท้ายแล้วอะไรที่จุดประกายให้เขานั้นได้ตั๋วไปเกิดทำให้ผู้รับชมได้ทำการคิดวิเคราะห์และตีความถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ รวมไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของตนเองอีกด้วย

#SOUL อัศจรรย์วิญญาณอลเวง #ภาพยนตร์ดิสนีย์ #ภาพยนตร์อนิเมชั่น

รีวิว Raya And The Last Dragon เจ้าหญิงดิสนีย์คนใหม่สายเลือดเอเชีย

ถ้าพูดถึงกระแสหนังที่มาแรงสุดๆตอนนี้คงมองข้าม หนังใหม่ อย่าง Raya And The Last Dragon ไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะ หนังเจ้าหญิงดิสนีย์ เรื่องใหม่เรื่องนี้ดูท่าแล้วน่าจะถูกอกถูกใจคนไทยไม่ใช่น้อย เพราะว่ากลิ่นอายในหนังเรื่องนี้ล้วนมาแต่วัฒนธรรมที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี แถมตัวเนื้อเรื่องก็ทำเอาหลายคนถึงกับซึ้งไปตามๆกันเลยทีเดียว

เรื่องย่อ หนังใหม่ Raya And The Last Dragon

รายา ได้เจอกับเหตุที่ทำให้เธอต้องพลัดพรากออกจากครอบครัวของเธอ ซึ่งจากเหตุการณ์นั้นทำให้เธอไม่เชื่อใจใคร เธอเดินทางไปกับเพื่อนที่เป็นสัตว์พาหนะของเธออย่าง ตุ๊ก ตุ๊ก เธอได้ออกเดินผ่านอาณมจักรต่างๆเพื่อนำผลึกมังกรและมังกรตัวสุดท้ายที่จะสามารถกอบกู้อาณาจักรในอดีตคืนมา และกลายเป็นความสันติสุขอีกครั้ง แต่เรื่องราวกับไม่ง่ายดั่งนั้น เพราะแต่ละเผ่าต่างก็ต่อสู้กัน เธอจึงต้องหาทางทำให้อาณาจักรกลับมาหลอมรวมกันเป็นหนึ่งให้ได้

ตัวอย่างภาพยนตร์

รายา กับวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้ดูเรื่องนี้เราก็จะรู้สึกคุ้นตาเป็นพิเศษกับสิ่งที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ บางอย่างก็ดูเป็นไทยแน่ๆ แต่บางอย่างก็ไม่ใช่ ต้องบอกก่อนเลยว่าในหนังเรื่องนี้เป็นการเอาแรงบันดาลใจจากหลายๆวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาออกแบบนั้นเอง เพราะฉะนั้นแล้วหากบางอย่างจะคุ้นบางอย่างอาจจะดูขัดตา ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามองว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใกล้กับตัวละครต่างๆได้มากกว่าเดิมก็จะสามารถเพิ่มอรรถรสในการดูของเราได้ แต่รับรองว่าคนไทยที่ไปดูจะต้องยิ้มกริ่มอย่างแน่นอน

Raya กับประเด็นความเชื่อใจ

สำหรับรายาคนนี้ในเรื่องไม่มีการแตะเรื่องรักๆใคร่ๆตามแบบฉบับของเจ้าหญิงดิสนีย์ที่เราเห็นก่อนหน้า แต่เป็นประเด็นในเรื่องของความไว้ใจ ซึ่งเราสามารถเข้าใจตัวละครตัวนี้ได้ว่าทำไมถึงมีเป็นแบบนั้น แต่พอดำเนินเรื่องไปเราก็สามารถเดาได้ตามภาษาหนังดิสนีย์ว่ามันจะไปในทิศทางไหน แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับการที่เราตกผลึกเอาประเด็นตรงนั้นมามองย้อนดูตัวเราเองหรือสังคมรอบข้าง หรือว่าตัวเรานั้นอาจจะต้องหัดค่อยๆเปิดใจรับคนรอบข้างด้วยหรือเปล่า ตัวเราในตอนนี้อาจจะเป็นช่วงใดช่วงหนึ่งของรายาก็ได้ บอกเลยว่า หนังดิสนีย์ เรื่อง Raya And The Last Dragon เป็นหนังที่คุณควรไปดูสักครั้ง แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงพากย์รายาในเวอร์ชั่นไทย เพราะว่า ญาญ่า ทำได้ดีสมมาตรฐานเลยทีเดียว

#รายา #หนังดิสนีย์ #หนังใหม่ #Raya And The Last Dragon

รู้จักกับความโดดเด่นของบ้านทั้ง 4 ในฮอกวอตส์จากภาพยนตร์ Harry Potter

            สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับภาพยนตร์ Harry Potter ก็คงจะยังประทับใจเรื่องราวของโลกเวทมนต์และการเรียนคาถาที่น่าสนใจไม่หาย มาวันนี้เราก็จะพาทุกคนมารู้จักกับบ้านทั้ง 4 ในโรงเรียนฮอกวอตส์ที่หลายคนคงจะคุ้นชินหูเฉพาะกริฟฟินดอร์กับสลิธิรินที่เปรียบเสมือนบ้านของพ่อมดพวกที่มีอำนาจมืดและอำนาจสว่างที่สุดของฮอกวอตส์ แต่บ้านอีก 2 หลังก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน มาดูกันดีกว่าว่าหากคุณได้รับเชิญให้เข้าเรียนในฮอกวอตส์แล้วหมวกคัดสรรจะให้คุณอยู่บ้านหลังไหนเอ่ย

บ้านกริฟฟินดอร์

            บ้านกริฟฟินดอร์ ถูกก่อตั้งโดย ก็อดดริก กริฟฟินดอร์ หนึ่งในสมาชิกทั้งสี่คนที่ร่วมกันก่อตั้งโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ผู้ที่มีคุณสมบัติสามารถเข้ามาอยู่ในบ้านกริฟฟินดอร์ของฮอกวอตส์ได้ต้องมีความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ มีไหวพริบ มีคุณธรรมรักความถูกต้อง มีจิตใจหนักแน่นบริสุทธิ์ สัญลักษณ์ประจำบ้านคือ สิงโต มีสีประจำบ้านคือ สีแดง และสีทอง คุณสมบัติของพ่อมดแม่มดรุ่นเยาว์ที่จะอยู่บ้านหลังนี้ได้ ซึ่งจะตรงข้ามกันกับ บ้านสลิธีริน อาจารย์ประจำบ้านคนปัจจุบันคือศาสตร์ตราจารย์มินอร์ว่า มักกอลนากัล ผีประจำบ้านคือ นิกหัวเกือบขาด ทางเข้าบ้านอยู่หลังรูปภาพสุภาพสตรีคนอ้วนชั้น 7 ของฮอกวอตส์

บ้านสลิธิริน

            บ้านสลิธิรินก่อตั้งขึ้นโดย ซัลลาซาร์ สลิธีริน ซึ่งต้องการเพียงผู้วิเศษเท่านั้นที่จะมาเรียนโรงเรียนฮอกวอตส์ได้และเกลียดมักเกิ้ลเป็นที่สุด เป็นบ้านสำหรับคนที่ทำทุกอย่างเพื่อเป้าหมายแบบฉลาดแกมโกงกลาย ๆ เจ้าวางแผน และรับแต่พวกเลือดบริสุทธิ์เท่านั้น สีประจำบ้านหลังนี้ คือ สีเขียวและสีเงิน ผีประจำบ้านคือ บารอนเลือด อาจารย์ประจำบ้านคือ ศาสตราจารย์ สเนป ทางเข้าบ้านอยู่บริเวณคุกใต้ดินของฮอกวอตส์

บ้านฮัฟเฟิลพัฟ

            บ้านฮัฟเฟิลพัฟ เป็นบ้านที่รับนักเรียนที่ความมุ่งมั่น อดทน รักความสงบ และมีความยุติธรรม สีประจำบ้าน คือ สีเหลืองและดำ สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ คือ ตัวแบดเจอร์ ผู้ก่อตั้งบ้านหลังนี้ คือ เฮลกา ฮัฟเฟิลพัฟ อาจารย์ประจำบ้านฮัฟเฟิลพัฟ คือ ศาสตราจารย์ โพโมนา สเปราท์ ผีประจำบ้านคือ บาทหลวงอ้วน ทางเข้าบ้านอยู่ทางห้องครัวชั้นใต้ดินของฮอกวอตส์ เรียกได้ว่าอยู่กันแบบโพรงกระต่ายเลยทีเดียว

บ้านเลเวนคลอ

            บ้านเลเวนคลอเป็นบ้านที่รับนักเรียนฮอกวอตส์ผู้มีฉลาด รักที่จะเรียนรู้ และมีปฏิภาณในการเป็นผู้ริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ บ้านหลังนี้ถูกตั้งขึ้นโดย “โรเวนนา เรเวนคลอ” ซึ่งตั้งขึ้นพร้อมๆ กับ บ้านกริฟฟินดอร์ , บ้านฮัฟเฟิลพัฟ และ บ้านสลิธีริน สีประจำบ้านนี้คือ สีน้ำเงินและสีบรอนซ์ สัญลักษณ์ประจำบ้าน คือ นกอินทรี ศาสตราจารย์ประจำบ้านหลังนี้ในปัจจุบัน คือ ศาสตราจารย์ฟลิตวิก ผู้สอนศาสตราจารย์สอนวิชาเวทมนตร์คาถา ผีประจำบ้านคือ สุภาพสตรีสีเทา ทางเข้าบ้านอยู่ชั้น 5 ปีกตะวันตกของฮอกวอตส์

รูปภาพประกอบ

https://medium.com/
https://www.zazzle.com/
https://www.yourwdwstore.net/
https://www.quiz-bliss.com/

#บ้านทั้ง 4 ในฮอกวอตส์ #เกร็ดภาพยนตร์น่ารู้ #เกร็ดหนังดัง Harry Potter

รีวิวหนัง Tonight , at Romance Theater (2018) รักเรา…จะพบกัน

            หากใครที่ชอบหนังแนวที่ตัวละครออกมาจากโลกแห่งจินตนาการสู่โลกแห่งความจริงเหมือน Enchanted วันนี้เราจะขอมาแนะนำหนัง Tonight , at Romance Theater (2018) รักเรา…จะพบกัน ซึ่งคุณจะได้กลิ่นอายความคลาสสิกสไตล์ญี่ปุ่นและภาพที่งดงามของความรักอย่างไม่มีวันลืมเลย

เรื่องย่อหนัง Tonight , at Romance Theater รักเรา…จะพบกัน

            หนัง Tonight , at Romance Theater รักเรา…จะพบกัน ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “เคนจิ” หนุ่มนักฉายหนังที่มีความฝันจะเป็นผู้กำกับ เขาตกหลุมรักนางเอกในภาพยนตร์ขาวดำเรื่องโปรดอย่าง “เจ้าหญิงมิยูกิ” หลังโรงภาพยนตร์เลิกทำการ เขามักจะมานั่งฉายฟิล์มหนังเรื่องนี้ซ้ำไปมาทุกคืน ได้แต่เฝ้าฝันว่าเขาจะได้เป็นพระเอกของเธอในหนังเรื่องนั้นบ้าง จนกระทั่งในคืนหนึ่งที่มีพายุ ฟ้าก็เกิดผ่าลงมาในโรงภาพยนตร์จนทำให้เครื่องฉายได้รับความเสียหาย เจ้าหญิงมิยูกิที่อยู่ในจอภาพยนตร์จึงได้หลุดออกมาสู่โลกความเป็นจริง แต่ร่างกายของเธอเป็นสีขาวดำจากผลแห่งยุคอดีต เคนจิจึงต้องช่วยดูแลเธอท่ามกลางความหวั่นไหวของหัวใจที่เริ่มจะห้ามไม่อยู่ทุกที

ความน่าสนใจของหนัง Tonight , at Romance Theater รักเรา…จะพบกัน

            หนัง Tonight , at Romance Theater รักเรา…จะพบกัน เป็นหนังที่มีความหวานสดใสปนแฟนตาซีอ่อน ๆ จากการที่นางเอกหรือเจ้าหญิงมิยูกิได้ออกจากโลกของภาพยนตร์และอยู่ในความดูแลลับ ๆ ของเคนจิที่ไม่สามารถบอกใครได้ แต่เพราะความซุกซนสไตล์เจ้าหญิงเด็กแรกรุ่นเอาแต่ใจที่เพิ่งได้มีอิสระครั้งแรกและมาเจอโลกใหม่ที่แปลกจากโลกที่เคยอยู่ทำให้เจ้าตัวมักจะแอบสร้างความอลหม่านโดยการหนีไปทำโน่นนี่ด้วยความไร้เดียงสาจนสร้างความวุ่นวายให้เคนจิแอบรำคาญและโมโหเธอในบางครั้ง เพราะไม่ใช่แค่ทำให้ชีวิตเขาวุ่นวาย แต่ยังไปป่วนกองถ่ายของเขาด้วย แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยังคงช่วยเหลือเธอ เพราะเขาชอบมิยูกิมาก ซึ่งทุกครั้งที่ได้มีความสุข ร่างกายของเธอจะเริ่มมีสีสันมากขึ้นจนเหมือนมนุษย์ปกติ สิ่งที่ทำให้เจ็บปวดทีแรกคือเราไม่เข้าใจว่านางจะใจแข็งใส่พระเอกไปทำไมทั้งที่พระเอกก็แสดงออกว่าชอบนางขนาดนั้น แถมยังชอบตีตัวห่างจากพระเอกราวกับไว้ตัว จนได้มารู้ว่าความจริงนางเอกก็ชอบพระเอกมาตั้งแต่แรกที่อยู่ในหนังที่ถูกลืมแล้ว แต่เมื่อออกมาในโลกแห่งความจริงหากสัมผัสถูกมนุษย์เมื่อไหร่นางก็จะหายไปในทันที แต่สุดท้ายความรักก็เอาชนะทุกอย่าง สัมผัสกันไม่ได้แต่ขอแค่ได้อยู่ใกล้คนที่รักและได้ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกันทุกวันก็เพียงพอแล้ว เล่นเอาเราน้ำตาไหลกับความรักนิรันดร์ของพวกเขาจริง ๆ แถมฉากต่าง ๆ ในหนังก็มีกลิ่นอายความคลาสสิกเพราะเป็นแนวย้อนยุคไปประมาณหลายสิบปีก่อน ทำให้การแต่งตัว บรรยากาศสถานที่สวย ๆ และวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นตอนนี้มีความน่าค้นหาเหมือนดูหนังญี่ปุ่นอมตะรุ่นพ่อแม่แบบนั้นเลย อีกทั้งหากเปิดเพลง Kiseki ที่ประกอบภาพยนตร์ก็จะยิ่งฟินมากขึ้นด้วย

ข้อคิดดี ๆ จากหนัง Tonight , at Romance Theater รักเรา…จะพบกัน

            หนัง Tonight , at Romance Theater รักเรา…จะพบกัน ได้สอนให้เรารู้ว่า ความรักไม่มีวันหมดอายุ หากใจของเราทั้งคู่ยังเป็นของกันและกัน ต่างฝ่ายต่างรับรู้ได้ถึงความรักหนึ่งเดียวที่มีต่อคนที่ตัวเองรัก แม้จะไม่สามารถสัมผัสกันได้แต่คุณก็สามารถมีความสุขที่ความรักของเขาจะยังอยู่ใกล้คุณเสมอตราบสิ้นลมหายใจ

ถ้าสัมผัสตัวคนที่รักไม่ได้คุณจะยังรักเขามั้ย ? – Tonight , At Romance Theater

รูปภาพประกอบ : https://www.imdb.com/

#Tonight at Romance Theater #รีวิวหนังดี #หนังรักโรแมนติก

Terminator ภาพยนตร์ไซไฟที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย

            Terminator เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมและโด่งดังไปทั่วทั้งโลก เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ในใจของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว สำหรับคนไทยแล้วเราจะคุ้นหูภาพยนตร์เรื่องนี้ในชื่อคนเหล็ก

ที่มันเป็นที่เลื่องลือขึ้นมาตั้งแต่ภาคแรกนั่นก็เป็นเพราะว่ามันเป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับมากฝีมืออย่างเจมส์ คาเมรอน เจ้าของผลงานไททานิค ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จถล่มทลายจนกลายเป็นประวัติศาสตร์ในวงการภาพยนตร์ไปแล้ว โดยเรื่องนี้จะเล่าเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ไซไฟ และการต่อสู้ บนโลกที่ต้องอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรกลปัญญาประดิษฐ์ เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1984 จนถึงภาคปัจจุบันก็คือปี 2019  ออกมาแล้วทั้งหมดจำนวน 7 ภาคด้วยกัน โดยนักแสดงนำอย่าง Arnold Schwarzenegger ที่สามารถแสดงได้เป็นอย่างดีจนคนติดภาพจำไปแล้วว่าเขานั้นเป็นคนเหล็ก

ภาพปกจาก : www.denofgeek.com/movies/Terminator

เรื่องราวที่มาความเป็นไปในภาพยนตร์เรื่อง Terminator 

https://www.slashfilm.com/Terminator-6-direction/

Terminator จะเล่าถึงเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างกลุ่มมนุษย์กลุ่มสุดท้ายที่เป็นผู้รอดชีวิตอย่างหวุดหวิดจากเหตุการณ์สูญพันธุ์ พวกเขานั้นต้องพยายามเอาชีวิตรอดอย่างเต็มที่ และอีกฝั่งหนึ่งนั่นก็คือสกายเน็ตซึ่งเป็นเครื่องจักรปัญญาประดิษฐ์ที่มีรูปร่างคล้ายคนอยู่ไปทั่วทั้งโลกเป็นจำนวนมาก จะบอกว่ามันนั้นกลายเป็นสิ่งที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารบนโลกใบนี้แทนมนุษย์ก็ว่าได้ มันเป็นระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายป้องกันดิจิตอลที่เชื่อมต่อกันไปทั่วทั้งโลก เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้สร้างมันขึ้นมาและก่อให้เกิดหายยานะครั้งใหญ่หลวง เพราะจากเครื่องจักรกลธรรมดามันกลับมีการรับรู้ถึงการมีตัวตนของตนเองหรือจะบอกว่ามันสามารถคิดได้เองก็ได้ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหุ่นยนต์มีความคิดเป็นของตัวเอง สิ่งที่มันรับรู้นั้นก็คือมนุษย์กลายเป็นศัตรูที่เป็นภัยคุกคามต่อการอยู่ของพวกมัน ดังนั้นสิ่งที่พวกมันทำก็คือการวางแผนอย่างลับๆ ในการจัดการมนุษย์ให้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ โดยพวกนั้นนั้นมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ เริ่มจากการโจมตีรัสเซียด้วยนิวเคลียร์ ทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ผู้คนหันมาฆ่าฟัน รวมไปถึงสกายเน็ตที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง จนเหลือกลุ่มผู้รอดชีวิตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และพวกมันยังสร้างทหารขึ้นมาโดยมีชื่อว่า Terminator เอาไว้สังหารมนุษย์โดยเฉพาะ พวกมันนั้นพัฒนาเทคโนโลยีจนมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่สามารถเดินทางข้ามเวลาได้เลยทีเดียว

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Terminator ประสบความสำเร็จและมีผู้คนชื่นชอบมากมาย

https://www.polygon.com/2015/7/2/8883287/original-Terminator-2-ending

            Terminator เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีแฟนคลับเป็นจำนวนมาก แต่หากจะพูดถึงภาคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแล้วล่ะก็คงจะหนีไม่พ้นภาค 2 ออกฉายเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 1991 ผลงานการกำกับของเจมส์ คาเมรอนและได้วิลเลี่ยม วิชเชอร์ จูเนียร์มาร่วมในการเขียนบท ย้อนกลับไปเกือบ 30 ปีที่แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่ามีเทคนิคการถ่ายทำที่ล้ำสมัยเป็นอย่างมาก มี CG และเทคนิคการถ่ายทำที่ตระการตา สามารถตัดต่อและดำเนินเรื่องราวออกมาได้อย่างสนุกสนาน ตัวละครแต่ละตัวนั้นกำลังอยู่ในช่วงที่พอเหมาะพอสมรวมไปถึงนักแสดงเช่นเดียวกัน มันจึงกลายเป็นส่วนผสมที่เข้ากันได้อย่างพอดี จึงไม่น่าแปลกใจนะที่มันจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะหลังจากนั้นก็ได้ออกภาคต่อมาเรื่อยๆ จนถึง 7 ภาค

The Terminator (1984) Official Trailer – Arnold Schwarzenegge Movie

#Terminator #เจมส์ คาเมรอน #Arnold Schwarzenegger

Joker ภาพยนตร์ที่จะทำให้จิตของคุณดำดิ่งจนถึงขีดสุด

            Joker เป็นตัวร้ายในการ์ตูนเรื่อง Batman หลังจากที่ Batman ได้รับการดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์ตัวโจ๊กเกอร์เองก็ได้มาปรากฏในฉากภาพยนตร์เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นตัวร้ายที่ได้รับความนิยมและมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากอีก 1 ตัว ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเรื่องราวที่บอกเล่าต่อๆ กันมาถึงชะตากรรมของนักแสดงที่มารับบทเป็นโจ๊กเกอร์ซึ่งมักจะพบกับจุดจบที่ไม่ค่อยดีนัก  แต่ล่าสุดในปี 2019 ก็ได้มีการปล่อยภาพยนตร์ชีวประวัติของโจ๊กเกอร์ที่แยกออกมาจากโจ๊กเกอร์ที่เราเห็นกันในภาพยนตร์หรือการ์ตูนเรื่องแบทแมน และได้นักแสดงชายมากฝีมืออย่างวาคีน ฟีนิกซ์มารับบท ซึ่งเขานั้นสามารถลบภาพของโจ๊กเกอร์ในเวอร์ชั่นของฮีท เลดเจอร์ออกจากบทบาทใหม่ได้อย่างเด็ดขาด ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้เน้นหนักไปในเรื่องของการก่อการร้ายหรือวีรกรรมที่เขาทำ แต่จะเป็นการบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาที่ทำให้เขานั้นกลายมาเป็นวายร้ายที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงจะเน้นหนักไปในเรื่องของ Drama จิตวิทยา และชีวิต

ภาพปกจาก : pantip.com/topic/39291286 

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง Joker

https://www.moviesrain.com/Joker-venice-film-festival-awards/

            Joker จะเล่าถึงประวัติความเป็นมาของตัวละครอย่างโจ๊กเกอร์ เขานั้นอาศัยอยู่ในเมืองก๊อตแทมในช่วงยุคปี 80  แม้ว่าเขานั้นจะต้องต่อสู้กับอาการทางจิตที่ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมการหัวเราะหรือร้องไห้ของตนเองได้ แต่เขานั้นก็มีความฝันที่จะได้เป็นนักพูด และเขาก็รักอาชีพการเป็นตัวตลกเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน แต่ในขณะที่กำลังทำงานอยู่เขากลับถูกกลุ่มวัยรุ่นรังแกและทำให้อุปกรณ์นั่นก็คือป้ายของเขาพัง จากเหตุการณ์นี้ทำให้เขานั้นได้รับการตำหนิจากหัวหน้าเป็นอย่างมาก ทำให้เขาขอให้เพื่อนซื้อปืนมาให้เพื่อป้องกันตนเองจากการถูกรังแก ไม่เพียงเท่านั้นเขายังต้องดูแลแม่ที่มีอาการเจ็บป่วย แม้จะยากลำบากแต่เขานั้นก็เต็มใจที่จะดูแลแม่เป็นอย่างดี และทั้งสองนั้นชอบที่ดูรายการทอล์คโชว์ซึ่งเป็นเหมือนความฝันของเขาที่จะได้ไปออกรายการนั้น วันหนึ่งเขาต้องไปทำงานเล่นตลกในโรงพยาบาลเด็กแต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุทำให้ปืนของเขาหลุดออกมาเป็นเหตุทำให้เขาถูกไล่ออก ระหว่างทางกลับบ้านนั้นเขายังพบอีกว่ามีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งกำลังทำร้ายผู้หญิง และอาการหัวเราะแบบควบคุมไม่ได้ของเขานั้นก็กำเริบ ทำให้เขานั้นกลายเป็นเป้าที่ถูกรังแกแทนสุดท้ายเขาก็เลือกที่จะฆ่าทั้งสามคนทิ้งด้วยปืนกระบอกนั้น การก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนั้นเปรียบเสมือนการปลุกระดมคนชั้นล่างให้ออกมาต่อต้านคนรวยเนื่องจากความไม่เท่าเทียมของทั้งสองชนชั้น และยังมีเรื่องความเข้าใจผิดในครอบครัวที่ทำให้เขานั้นกลายเป็นวัยร้ายอย่างสมบูรณ์แบบ

เจาะลึกอาการป่วยที่นำเสนอในภาพยนตร์เรื่อง Joker

www.playinone.com/tofuchan/the-Joker

            ในภาพยนตร์เรื่อง Joker นั้น มีการนำเสนอถึงอาการทางจิตที่ตัวละครเอกอย่างโจ๊กเกอร์ป่วยอยู่นั่นก็คือการที่ไม่สามารถควบคุมอาการหัวเราะหรือร้องไห้ได้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาโดยที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกหรือสถานการณ์และไม่สามารถควบคุมได้อย่างสิ้นเชิง มีการสันนิษฐานว่าโรคนี้เกิดจากการที่สมองนั้นถูกกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุหรือความรุนแรง และความผิดปกติของประสาทซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากโรคทางสมอง ซึ่งในยุค 80 นั้น มีความเข้าใจในเรื่องของการเจ็บป่วยและมีอาการทางจิตค่อนข้างน้อย ดังนั้นผู้ที่มีอาการหรือเจ็บป่วยเกี่ยวกับทางจิตจึงมักจะไม่ได้รับการยอมรับและมักจะกลายเป็นเป้าที่ถูกรังแกอยู่เสมอ

JOKER – Final Trailer – Now Playing In Theaters

#Joker #หนังดีต้องดู #หนังรางวัลห้ามพลาด

The Boy in the Striped Pyjamas ภาพยนตร์สุดสะเทือนใจของเด็กชายในสงคราม

            The Boy in the Striped Pyjamas เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2  เป็นการดัดแปลงเนื้อหามาจากวรรณกรรมเยาวชน ดังนั้นการเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้จึงจะไม่ได้เน้นไปที่การต่อสู้อะไรมากมายนัก แต่จะเล่าถึงค่ายกักกันชาวยิวของนาซีมากกว่า ถึงแม้ว่าภายในภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้มีภาพเหตุการณ์ความรุนแรงอะไรมากมาย แต่ก็ทำให้ผู้รับชมรู้สึกสะเทือนใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเล่าสงครามผ่านมุมมองของเด็กทั้งสองคนที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่พวกเขานั้นกลับมีมิตรภาพอันดีต่อกันต่างจากผู้ใหญ่ที่ในขณะนั้นยังคงรบราฆ่าฟันกันเรากับอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ เป็นภาพยนตร์ที่มีฉากสะเทือนใจค่อนข้างมาก มันจึงได้รับการพูดถึงอยู่เป็นประจำ เนื่องจากมักมีคนเข้าใจผิดจากการดูหน้าปกหรือชื่อเรื่องแล้วทำให้ไม่คิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะสามารถเล่นกับอารมณ์ของคนดูได้ถึงขนาดที่ดูจบแล้วต้องนั่งหดหู่ไปอีก 2-3 ชั่วโมง

ภาพปกจาก : multimediaenglishzine.wordpress.com/international-book-club

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง The Boy in the Striped Pyjamas 

https://www.screendaily.com/features/the-boy-in-the-striped-pyjamas/4040447.article

            The Boy in the Striped Pyjamas จะเล่าถึงครอบครัวของนายทหารนาซีนายหนึ่งที่ได้รับการเลือกขั้นและถูกย้ายให้มาดูแลค่ายกักกันชาวยิวค่ายหนึ่ง  ทำให้เขานั้นได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านที่ใกล้กับค่ายกักกันเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวก ค่ายกักกันชาวยิวนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยลวดเหล็กดัดไฟฟ้า ภายในค่ายผู้ชายทุกคนไม่เว้นแม้แต่เด็กจะถูกโกนหัวและถูกจับใส่ในชุดยูนิฟอร์มที่ดูคล้ายกับชุดนอนลายทาง บรูโนผู้เป็นลูกชายของนายทหารนาซีก็ได้ย้ายตามพ่อของเขามาเช่นกัน ท่ามกลางความไม่เข้าใจและเป็นไปด้วยความสงสัยว่าเหตุใดจึงต้องย้ายบ้านจากในกรุงเบอร์ลินที่มีความสะดวกสบายมาอยู่ยังเมืองที่มีความเงียบเหงา การย้ายบ้านทำให้เขาไม่มีเพื่อน เขาจึงมักที่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง โดยที่ไม่รู้เลยว่าภาพที่เขาเห็นนั้นคือกลุ่มคนที่อยู่ในค่ายกักกัน เขาตัดสินใจที่จะเดินไปยังไข้แห่งนั้นก่อนจะพบกับเด็กชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าซามูเอล พวกเขานั้นได้พูดคุยและกลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าในค่ายกักกันชาวยิวนั้นเต็มไปด้วยความโหดร้ายมากแค่ไหน มิตรภาพของทั้งสองคนจะเป็นอย่างไรขอให้ไปรับชมในภาพยนตร์ด้วยตนเอง 

The Boy in the Striped Pyjamas เหตุใดจึงทำให้คนดูรู้สึกหดหู่ไม่หาย 

            The Boy in the Striped Pyjamas ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดความไร้เดียงสาของเด็กๆท่ามกลางสถานการณ์ที่โหดร้ายอย่างสงครามออกมาได้อย่างน่าเศร้าและยังสะท้อนถึงจิตใจของผู้ใหญ่ที่บางครั้งก็เต็มไปด้วยความโหดร้ายและทารุณ เมื่อเทียบกับเด็กๆที่เลือกที่จะยื่นมิตรภาพให้แก่กันมากกว่าจะหันมาทำร้ายกันเอง bruno นั้นแม้ว่าจะเป็นถึงลูกชายของนายทหารใหญ่แต่เขาก็ได้ให้ความช่วยเหลือซามูเอลซึ่งเป็นเด็กชายในค่ายกักกันเป็นอย่างดีมาโดยตลอดและยังยอมเสียสละหลายๆสิ่งเพื่อเพื่อนของเขาอีกด้วยทั้งที่หากเด็กทั้ง 2 คนเป็นผู้ใหญ่อาจจะกำลังทำร้ายอีกสายนึงอยู่ก็ได้ด้วยเหตุผลทางเชื้อชาติเพียงเท่านั้นความไร้เดียงสาของเด็กทั้งสองจึงทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราเมื่อได้รับชมแล้วจะรู้สึกหดหู่เป็นพิเศษ

The Boy In the Striped Pajamas trailer

#The Boy in the Striped Pyjamas #หนังสงครามดราม่า #หนังดีที่ห้ามพลาด

Hotel Rawanda ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นจริง

            Hotel Rawanda เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นในประเทศรวันดา ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา ภายในประเทศนั้นมี 2 ชนเผ่าที่อยู่ร่วมกันประกอบไปด้วยชาวฮูตูและชาวทุตซี่ ครั้งหนึ่งเคยมีเหตุการณ์สุดสะเทือนใจที่ทำให้ทั้งสองชนเผ่าเกิดความขัดแย้งและลุกขึ้นมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพื่อนร่วมชาติด้วยกันเอง กินเวลากว่า 100 วันตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนกรกฎาคมปี 1994 หรือเมื่อประมาณ 26 ปีที่แล้ว หลังจากเหตุการณ์นั้นจบลงเป็นเวลา 10 ปี ในปี 2004 ก็ได้มีการออกฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว เป็นผลงานการกำกับโดยเทอร์รี่ จอร์ช และทำรายได้ไปอย่างถล่มทลายจากงบประมาณเพียง 17.5 ล้านดอลลาร์ ได้รายได้ไป 33.9 ล้านดอลลาร์ ส่วนหนึ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จนั่นก็เป็นเพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุการณ์ใหญ่ระดับโลกที่มีผู้คนสนใจมากมาย และภาพยนตร์ไม่ได้เลือกที่จะนำเสนอในเรื่องของความรุนแรง แต่เป็นการนำเสนอความหวังและการช่วยเหลือกันมากกว่า

ภาพปกจาก : www.imdb.com/title/tt0395169/mediaviewer

เรื่องราวที่สุดสะเทือนใจภายในภาพยนตร์เรื่อง Hotel Rawanda

            Hotel Rawanda จะเล่าถึงเรื่องราวภายในปี 1994 ภาพตัวละครเอกที่มีชื่อว่าพอล เขานั้นทำงานในโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศรวันดาในตำแหน่งผู้จัดการ ดังนั้นครอบครัวเขาจึงอยู่ในฐานะของชนชั้นกลางที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ครอบครัวของเขานั้นประกอบไปด้วยภรรยาที่ชื่อทาเทียน่าพร้อมกับลูกอีก 4 คน โดยตัวเขานั้นเป็นชาวฮูตู ส่วนภรรยาเป็นชาวทุตซี่ ในขณะที่กำลังใช้ชีวิตตามปกตินั้นวันหนึ่งประธานาธิบดีก็ได้ถูกลอบสังหารซึ่งเขานั้นเป็นชาวฮูตู การลอบสังหารในครั้งนั้นเปรียบเสมือนกับฟางเส้นสุดท้ายของความขัดแย้งระหว่างสองชนเผ่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จนได้เริ่มขึ้นโดยชาวฮูตูหัวรุนแรงที่ต้องการจะกำจัดชาวทุตซี่โดยใช้การลอบสังหารประธานาธิบดีเป็นข้ออ้าง ในระยะเวลาเพียง 100 วันเท่านั้น มีประชาชนถูกฆ่าตายด้วยความแตกต่างทางชนเผ่าไปมากถึง 8 แสนคนด้วยน้ำมือของคนในชาติเดียวกัน แม้จะเป็นเหตุการณ์ใหญ่แต่โลกภายนอกยังไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ไม่กี่วัน พอลก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนโรงแรมของเขาให้กลายเป็นที่หลบภัยทั้งสำหรับชาวฮูตูและชาวทุตซี่เป็นจำนวนมากกว่า 1,200 คน และยังนำเอาสินบนไม่ว่าจะเป็นเงินหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปให้กับมือสังหารเพื่อขอไม่ให้พวกเขานั้นเข้ามายังโรงแรม ทำให้ทุกคนในโรงแรมปลอดภัยแม้ว่าข้างนอกนั้นจะเต็มไปด้วยศพ

เรื่องราวจริงในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ถ่ายทอดออกมาในภาพยนตร์เรื่อง Hotel Rawanda

https://www.kpbs.org/news/2010/apr/01/hotel-rwanda/

            ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่อง Hotel Rawanda ความจริงแล้วในประเทศรวันดาได้มีการขัดแย้งระหว่างชนเผ่ามาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพียงแต่การลอบสังหารประธานาธิบดีนั้นเปรียบเสมือนฉนวนที่จุดระเบิดให้การสังหารหมู่เริ่มต้นขึ้น เกิดจากการที่ทั้งสองเผ่าพันธุ์ปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมจนเกิดความเกลียดชังและความคิดสุดโต่งจนกลายเป็นบาดแผลครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ ประชาชนล้มตายเกือบ 1 ล้านคน พอลที่เห็นในภาพยนตร์นั้น เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงและผู้กำกับเคยได้เดินทางไปพูดคุยกับเขาในระหว่างที่ลี้ภัยอยู่ต่างแดน เหตุการณ์นี้คลี่คลายลงได้หลังจากแนวร่วมรักชาติมาเข้าควบคุมสถานการณ์ ลงโทษผู้กระทำความผิด และเพิ่มนโยบายที่ช่วยลดความขัดแย้ง

#Hotel Rawanda #หนังตำนานห้ามพลาด #หนังดีรีบดูก่อนตาย

รีวิว “Ayat Ayat Cinta” ภาพยนตร์รักสอนใจอินโดนีเซียที่น่าตราตรึง

            ประเทศไทยของเรามีภาพยนตร์จากต่างชาติมากมายเข้ามามีบทบาทและเกิดความนิยมจนค่ายละครประเทศนั้นมีคนติดตามจำนวนมาก ที่เราจะเห็นกันส่วนมากก็จะเป็นภาพยนตร์จีน ภาพยนตร์เกาหลี ภาพยนตร์ญี่ปุ่น และภาพยนตร์ลาว แต่ใครจะไปรู้ว่าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีประเทศหนึ่งที่สร้างภาพยนตร์คุณภาพมากมายจนโด่งดังมากในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา นั่นก็คือประเทศอินโดนีเซียนั่นเอง อินโดนีเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียที่ผลิตภาพยนตร์และเพลงคุณภาพที่แสดงถึงความรักได้อย่างตราตรึงใจมากมายหากคุณลองเปิดดูบ้างก็จะติดใจเหมือนเรา  และวันนี้เราก็จะมารีวิวภาพยนตร์เรื่อง “Ayat Ayat Cinta” ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพยนตร์สร้างชื่อเสียงของอินโดนีเซีย จะน่าติดตามแค่ไหนไปดูกัน

เรื่องย่อภาพยนตร์ Ayat Ayat Cinta”

            ภาพยนตร์ “Ayat Ayat Cinta” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ฟารีล บิน อับดุลเลาะ ชิดิล” นักศึกษาชาวอินโดนีเซียที่กำลังจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ของโลกอย่าง Al-Azhar กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เขาต้องเข้าพิธีแต่งงานกับ “อาอิชา เกรสมาส” สาวลูกครึ่งเยอรมัน- ตุรกีนัยน์ตาสวยผู้ซ่อนใบหน้าจริงไว้ภายใต้ผ้าฮิญาบ เพราะตามหลักของศาสนาอิสลามแล้ว มีเพียงชายคนรักเท่านั้นที่จะสามารถเห็นใบหน้าจริงผู้หญิงได้ ทว่าฟารีลก็หลงรักหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่แรกเห็นเพราะความงดงามล้ำลึกของดวงตาเธอ แต่ขณะเดียวกัน “มาเรีย กีกีส” หญิงสาวผู้นับถือศาสนาคริสต์แต่กำเนิดหากแต่หลงใหลในศาสนาอิสลามก็แอบรักฟารีลมากเช่นกัน…แต่เธอก็รู้ว่ามันไม่มีวันจะเป็นไปได้

ความน่าสนใจของภาพยนตร์ “Ayat Ayat Cinta”

            ภาพยนตร์ “Ayat Ayat Cinta” มีการบอกเล่าถึงเรื่องราวความรักของผู้หญิง 2 คนที่มีต่อชายคนเดียวกัน ซึ่งจะเรียกทั้งคู่ว่าเป็นนางเอกเลยก็คงจะไม่ผิด เพราะต่างคนต่างก็มีมุมมองความรักบริสุทธิ์ที่มอบให้กับชายที่รักแตกต่างกัน สำหรับอาอิชานั้นเป็นสาวที่อ่อนโยน ทว่าภายในกลับเข้มแข็ง เธอต้องอยู่แต่ในกฎเกณฑ์ของสังคมอินโดนีเซียมาโดยตลอดเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นภรรยาที่ดี คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสามี ส่วนตัวของมาเรียแม้จะรักพระเอกมากแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปเป็นบุคคลที่สามเลย ได้แต่แสดงความยินดีให้กับทั้งคู่ อีกทั้งเธอก็ป่วยเป็นโรคลูคีเมียรอวันตาย ชีวิตเธอนั้นมีความใฝ่ฝันอยู่แค่ 2 อย่าง คือ อยากได้รับความรักจากฟารีลตอบกลับมาสักเล็กน้อยและอยากจะอยู่ภายใต้หลักคำสอนตามการนับถือของศาสนาอิสลาม จวบจนเธอได้ไปเห็นเหตุการณ์ที่ฟารีลโดนใส่ร้ายว่าข่มขืนโน่รา บาฮาดูลเข้าและถูกรถชน ส่วนฟารีลก็ถูกจับไปขังคุก อาอิชาจึงต้องเผยความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวของตัวเองออกมาเพื่อช่วยเหลือสามีให้ทันโดยออกตามหามาเรียที่นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่ได้สติ พร้อมกับเดินเรื่องประกันตัวฟารีลด้วยแม้จะหนักสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งแต่เธอก็พร้อมจะต่อสู้เพื่อเขา เธอได้ค้นพบสมุดบันทึกของมาเรียนจนอดที่จะนับถือใจของมาเรียที่มีต่อสามีเธอไม่ได้งก่อนจะหมดหวังมาเรียก็ได้ฟื้นขึ้นมาด้วยแรงแห่งความปรารถนาที่ต้องการช่วยคนที่เธอรักเช่นกัน หลังจากที่ได้ไปเป็นพยานและทำให้ฟารีลรอดพ้นจากคดี อาอิชาก็ได้ทำให้ความปารถนาของมาเรียเป็นจริงในระยะเวลาอันสั้นก่อนที่เธอจะเสียชีวิตโดยให้มาเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอีกคนของฟารีล เธอจึงได้มีความสุขและซาบซึ้งในความรักเมตตาที่ฟารีลและอาอิชามอบให้ก่อนจะเข้ารับการนับถือศาสนาอิสลามและจากไปในท่าละหมาดด้วยความสงบ หนังเรื่องนี้จึงไม่ใช่หนังรักสามเส้าทั่วไปอย่างที่คุณเคยสัมผัสมา แต่เต็มไปด้วยมิตรภาพ การเสียสละ และความหวังที่ทุกคนพึงมีเพื่อให้คนที่รักมีความสุข

ข้อคิดดี ๆ จากภาพยนตร์ “Ayat Ayat Cinta”

            ภาพยนตร์ “Ayat Ayat Cinta” ได้สอนให้เราเข้าใจถึงมุมมองความรักตามหลักของศาสนาที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป โดยเฉพาะศาสนาอิสลามที่เน้นให้รักเพื่อนมนุษย์และมีจิตที่เอื้ออาทรต่อกัน ไม่มีความรักใดที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักในคำสอนการใช้ชีวิตของศาสนาแล้ว

ลิงก์เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ “Ayat Ayat Cinta”

ตัวอย่างภาพยนตร์ Ayat Ayat Cinta”

Rossa – Ayat Ayat Cinta OST. Ayat Ayat Cinta

รูปภาพประกอบ : https://www.imdb.com/

#Ayat Ayat Cinta #ภาพยนตร์อินโดนีเซีย #รีวิวหนังน่าดู