Murder on the Orient Express หนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายดังของ อากาธา คริสตี้

            ในช่วงยุคก่อนนั้นนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนมีนักเขียนมากมายที่สามารถสร้างชื่อได้ด้วยการเขียนนวนิยายแนวนี้ มันเต็มไปด้วยปริศนาลึกลับและความเข้มข้น น่าติดตามและลุ้นระทึก จนทำให้ผู้อ่านนั้นแทบจะวางหนังสือไม่ลง หนึ่งในนักเขียนนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนชื่อดังนั้นก็คืออากาธา คริสตี้ พี่สร้างผลงานเอาไว้มากมายและผลงานของเธอนั้นก็ได้แปลหลายภาษาไปทั่วทั้งโลกด้วยความนิยมแบบฉุดไม่อยู่ทำให้นิยายของเธอหลายเรื่องนั้นได้รับการหยิบยกมาสร้างเป็นภาพยนตร์อยู่เสมอ หนึ่งในนั้นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Murder on the Orient Express พี่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ด้วยทุนสร้างเพียง 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐแต่มันสามารถทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 352.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

ภาพปกจาก : www.flickreel.com/murder-on-the-orient-express-already-has-a-sequel-in-the-works

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง Murder on the Orient Express

https://reeldialogue.com/murder-on-the-orient-express/

            Murder on the Orient Express จะพาเราย้อนไปในช่วงปี 1934 ในฤดูหนาวที่ทั่วทุกแห่งปกคลุมไปด้วยหิมะ นักสืบแอร์กูล ปัวโรชาวเบลเยี่ยมที่ตั้งใจจะเดินทางไปพักผ่อนยังอิสตัลบลูหลังจากที่เขานั้นเพิ่งทำการไขคดีโจรกรรมในเยรูซาเล็มสำเร็จ แต่แล้วเขากลับได้รับข่าวเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นในลอนดอนทำให้เขานั้นต้องเปลี่ยนแผนและเดินทางกลับอย่างรวดเร็วที่สุดโดยการโดยสารรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส ทำให้เขานั้นได้ทำความรู้จักกับชายหนุ่มนักธุรกิจชาวอเมริกันคนหนึ่งที่เข้าใจว่าตนเองนั้นกำลังจะถูกลอบสังหาร เขาขอให้ปัวโรทำหน้าที่ปกป้องเป็นบอดี้การ์ดเขาแต่โปรก็ได้ปฏิเสธ ในคืนนั้นตัวเราได้ยินเสียงแปลกๆและมีเหตุการณ์อุบัติเหตุหิมะถล่มจนเป็นเหตุให้ให้รถไฟตกราง ทำให้ทุกคนบนรถไฟนั้นเหมือนถูกขังอยู่ในรถไฟ และเช้าวันต่อมาเขาก็พบว่านักธุรกิจหนุ่มคนนั้นถูกสังหารโดยวิธีการใช้มีดแทงจนมีบาดแผลถึง 12 จุด ทำให้ปัวโรนั้นต้องพยายามแก้คดีปริศนาในสถานที่ปิดตายนี้ให้สำเร็จก่อนที่จะมีคนเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะฆาตกรสามารถทำได้อย่างแนบเนียนจนทำให้การสืบสวนเป็นไปอย่างยากลำบาก และในที่สุดก็เริ่มมีคนตายเพิ่มมากขึ้นจนทุกคนบนรถไฟฟ้าหวาดกลัวและแทบจะเสียสติ

โอกาสการกลับมาของภาพยนตร์ภาคต่อของ Murder on the Orient Express

www.youtube.com/watch?v=TFEgG2j00kE

วิดีโอตัวอย่างหนัง :

            ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่อง Murder on the Orient Express ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งด้านคำวิจารณ์และรายได้ ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับทางทีมผู้สร้างที่ต้องการจะทำภาพยนตร์ภาคต่อออกมา หลังจากเวลาผ่านไปยาวนานถึง 3 ปี เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2020 ที่ผ่านมาก็ได้มีการประกาศจากผู้สร้างอย่าง Twenty century Fox ว่าจะเปิดฉายภาพยนตร์เรื่อง Death on the Nile ซึ่งเป็นภาคต่อในเดือนตุลาคมปี 2020 แต่ก็เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่โดนพิษการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 เล่นงานเพราะสุดท้ายแล้วในเดือนพฤศจิกายนทางค่ายก็ได้ออกมาประกาศเลื่อนกำหนดฉายออกไปอย่างไม่มีกำหนด

#Murder on the Orient Express #หนังสืบสวนสอบสวน #หนังเก่าห้ามพลาด

The Call จะเป็นอย่างไรหากโทรศัพท์ในบ้านคุณนั้นสามารถโทรหาคนในอดีตได้

ในยุคสมัยที่โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนยังไม่ได้รับความนิยมเท่าปัจจุบันนั้น สิ่งที่แทบทุกบ้านจะต้องมีนั่นก็คือโทรศัพท์บ้าน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารมากยิ่งขึ้น แต่จะเป็นอย่างไรหาโทรศัพท์ภายในบ้านของเรานั้นสามารถโทรกลับไปหาเจ้าของบ้านเดิมในอดีตเป็นเวลากว่า 20 ปีได้ และจะเป็นอย่างไรหากสิ่งที่เราได้ทราบนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องราวในอดีตเท่านั้นแต่มันยังนำทางเรื่องราวน่าประหลาดใจมาสู่เรามากมาย The Call เป็นภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีที่จะนำเสนอเรื่องราวที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้ แต่แฝงไปด้วยความโหดร้ายและทารุณรวมไปถึงปริศนามากมาย

ภาพปกจาก : www.heavenofhorror.com/reviews/the-call-netflix-korean-horror/

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง The Call

www.monstersandcritics.com/movies/the-call-korean-movies-ending-explained/

            The Call จะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่าซอยอน เธอนั้นได้พบว่าโทรศัพท์บ้านของเธอสามารถโทรกลับไปในอดีตกว่า 20 ปีได้ ทำให้เธอนั้นได้คุยกับผู้อยู่อาศัยในบ้านหลังนี้ในอดีตเป็นหญิงสาวซึ่งเป็นลูกสาวของเจ้าของบ้านที่มีชื่อว่ายองซุก เธอนั้นเป็นเด็กสาวที่ดูอ่อนแอและน่าสงสาร ทำให้ซอฮยอนตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเธอในการแก้ไขอดีต แต่ยิ่งเธอโพสต์พันกับเรื่องราวเหล่านี้มากขึ้นเท่าไหร่เธอก็กลับพบว่ายองซุกนั้นผิดปกติ และอาจจะไม่ได้น่าสงสารและอ่อนแออย่างที่เธอคิด ด้วยความที่ถลำลึกจนยากที่จะถอนตัวทำให้เธอนั้นต้องจมลงไปกับปริศนาและเรื่องราวน่าประหลาดใจมากมายที่จะเกิดขึ้นกับเธอหลังจากนี้

ความน่าสนใจในภาพยนตร์เรื่อง The Call

https://www.patsonic.com/movie/review-the-call-netflix/

The Call | Official Trailer | Netflix [ENG SUB]

            The Call เป็นภาพยนตร์ที่ได้นางเอกชื่อดังอย่างปาร์คชินฮเยมารับบทนำ ไม่เพียงแต่ความสามารถในการแสดงของเธอเท่านั้นที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจ แต่ยังรวมไปถึงบทบาทตัวละครเอกของเธออีกด้วย เพราะปกติแล้วภาพยนตร์แนวทริลเลอร์นั้นจะเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลเน้นไปในเรื่องของความสยองขวัญและความโหดร้าย แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เป็นอย่างนั้น บทบาทของเธอนั้นมีมิติและเข้มแข็ง ไม่ใช่เหยื่อที่สามารถรอดมาได้เพราะโชคช่วย แต่ก็ไม่ได้เก่งกาจเกินไปกว่ามนุษย์ทั่วไป เป็นตัวละครที่น่าเอาใจช่วยเป็นอย่างมาก ส่วนคนที่มารับบทเป็นยองซุกนั้นก็คือจอนจงซอ แม้ว่าจะหายไปจากวงการอยู่พักหนึ่งแต่การกลับมาในครั้งนี้ก็เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ เพราะบทบาทที่เธอได้รับนั้นเป็นบทบาทที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากตัวละครยองซุกนั้นมีความผิดปกติทางจิตที่ทำให้เธอนั้นดูน่ากลัว แต่ก็อ่อนแอและเปราะบางราวกับแก้ว เป็นความขัดแย้งกันที่จะต้องใช้ฝีมือในการนำเสนอเพื่อให้สามารถแสดงบทบาทออกมาได้อย่างสมจริงมากที่สุด

#The Call #หนัง Netflix แนะนำ #รีวิวหนัง Netflix

ภาพยนตร์ยอดแย่ที่ได้แค่ 0% บนเว็บไซต์มะเขือเน่า

            คนไทยนั้นเรียกเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ว่าเว็บไซต์มะเขือเน่ากันจนชินปากโดยที่บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าชื่อจริงๆ ของเว็บไซต์ดังกล่าวนี้ชื่ออะไรกันแน่ เว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ที่จะรวบรวมคะแนนเสียงของทั้งนักวิจารณ์และผู้รับชมทั่วไปที่มีให้กับภาพยนตร์ ดังนั้นหากคุณกำลังลังเลว่าจะรับชมภาพยนตร์เรื่องไหนและยังตัดสินใจไม่ได้ สามารถเข้าไปดูคะแนนบนเว็บไซต์มะเขือเน่าเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ ซึ่งเป็นคะแนนที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือและรวบรวมมาจากผู้รับชมภาพยนตร์ทั่วทั้งโลก ภาพยนตร์บางเรื่องนั้นทำออกมาได้ดีจนได้คะแนน 100% ซึ่งหาได้ยากมาก แต่บางเรื่องที่เป็นภาพยนตร์ยอดแย่สามารถทำได้มากกว่านั้นด้วยการคว้าคะแนนไปทั้งสิ้น 0% 

ภาพปกจาก : bloody-disgusting.com/reviews/3379827/review-2016s-cabin-fever-lacks-the-soul-of-the-original/

 รวมภาพยนตร์ยอดแย่ที่ได้คะแนน 0% บนเว็บไซต์มะเขือเน่า

https://www.pinterest.com/pin/765893480374037249/
  1. CABIN FEVER ภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่ได้ผู้กำกับชื่อดังมารีเมคแต่กลับออกมาห่วยแตกอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของเชื้อไวรัสที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะกัดกินผู้คนจากภายใน เป็นภาพยนตร์ยอดแย่แนวสยองขวัญอเมริกาวัยรุ่นที่สามารถเดาได้ทั้งเรื่อง ตั้งแต่การรวมกลุ่มกันเข้าไปในป่า พบเจอเรื่องราวประหลาด และทยอยตายกันทีละคน 
  2. PRECIOUS CARGO แม้ว่าจะได้นักแสดงชื่อดังอย่างบรูซ วิลลิสมารับบทนำ แต่ภาพยนตร์ก็ออกมาเจ๊งไม่เป็นท่า เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการปล้นรถขนส่งเพชร ที่พยายามจะหักมุมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตัวละครนั้นก็หักหลังกันไปมา เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นเกรดบีที่ไม่มีอะไรเลย
  3. THE RIDICULOUS 6 แม้ว่าจะสามารถทำออกมาได้ถึง 6 ภาคแล้วแต่สุดท้ายก็เจ๊งอยู่ดีกับภาพยนตร์ตลกล้อเลียนเรื่องนี้ แม้จะหยิบเอาพล็อตยอดนิยมอย่างคาวบอยมานำเสนอ แต่สุดท้ายแล้วทั้งเรื่องและบทนั้นก็ตกม้าตายแบบที่จะขำก็ขำไม่สุด
  4. A THOUSAND WORDS แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่สอดแทรกเอาปรัชญาความสำคัญเกี่ยวกับคำพูดมาสอดแทรกเต็มทั้งเรื่อง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ถูกใจเหล่านักวิจารณ์ภาพยนตร์เท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะว่าภาพยนตร์นั้นไปไม่สุดสักทางว่าจะขายขำหรือขายปรัชญากันแน่ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนายหน้าที่มักจะพูดจาไม่ดีอยู่เสมอแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็พบว่าตนเองนั้นสามารถพูดได้อีกแค่เพียง 1,000 คำเท่านั้นก่อนที่จะต้องเสียชีวิตลง

0% บนเว็บไซต์มะเขือเน่าไม่ได้แปลว่าเป็นภาพยนตร์ยอดแย่เสมอไป

https://www.netflix.com/th-en/title/80039517

            ส่วนใหญ่แล้วภาพยนตร์ยอดแย่ที่ได้คะแนน 0% บนเว็บไซต์มะเขือเน่านั้นเกิดจากการที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นไม่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักวิจารณ์ แต่ในมุมของผู้รับชมแล้วคะแนนก็จะแตกต่างกันออกไป ทำให้ภาพยนตร์บางเรื่องนั้นได้คะแนน 0 เปอร์เซ็นต์จากนักวิจารณ์แต่ได้คะแนนเกิน 50% สำหรับผู้รับชม หากใครที่จะใช้คะแนนในเว็บไซต์นี้เป็นข้อมูลอ้างอิงว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นดีหรือไม่อาจจะต้องพิจารณาข้อมูลในหลายๆ ด้าน

#ภาพยนตร์ยอดแย่ #หนัง 0% มะเขือเน่า #รวมหนังมะเขือเน่า

She Dies Tomorrow ภาพยนตร์ที่รับชมแล้วไม่ปลงก็จิตตกมากกว่าเดิม

            ในปัจจุบันนั้นแนวภาพยนตร์มีค่อนข้างหลากหลายเป็นอย่างมาก เราจึงจะได้เห็นการนำเสนอเรื่องราวที่มีความแตกต่างออกไปมากมาย จากเมื่อก่อนที่เคยมีเพียงแค่ภาพยนตร์แนวโรแมนติก สงคราม Comedy หรือดราม่า แต่ภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้มีการนำเสนอที่แตกต่างออกไป โดยจะเล่าถึงการฆ่าตัวตายหรือความต้องการที่จะอยากตาย มันจึงเป็นภาพยนตร์ที่ถ้ารับชมแล้วไม่ปลงก็จะรู้สึกจิตตกมากกว่าเดิม นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง She Dies Tomorrow เป็นการพยายามของทางผู้กำกับที่จะต้องการสะท้อนถึงผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่ปัจจุบันนี้มีคนป่วยเป็นโรคดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยนั้นมีความรู้สึกว่าไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง She Dies Tomorrow

SXSW 2020 Review: Despair Goes Viral in Amy Seimetz’s Killer “She Dies Tomorrow”

            She Dies Tomorrow จะเล่าถึงหญิงสาวที่มีชื่อว่าเอมี่ เธอมีความคิดวนเวียนอยู่ในหัวแทบจะตลอดเวลาว่าตัวเธอนั้นกำลังจะต้องตายในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน ทำให้เธอนั้นตัดสินใจที่จะโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทเพื่อขอให้เธอมาเจอกันเป็นครั้งสุดท้าย โดยเพื่อนที่เธอเลือกโทรศัพท์หานั้นก็คือเพื่อนสาวที่มีชื่อว่าเจนซึ่งทำงานเป็นนักพฤกษศาสตร์ หลังจากที่ทั้งสองคุยกันจนจบก็เหมือนว่าความคิดเรื่องการตายในวันพรุ่งนี้จะเข้ามาวนเวียนในสมองของเธอเช่นเดียวกันทำให้เธอเอาแต่คิดเรื่องดังกล่าวไม่หยุด จนเธอนั้นได้ไปคุยกับน้องชายของเธอที่มีชื่อว่าเจสันท้องกับน้องสะใภ้ที่มีชื่อว่าซูซานจนทั้งสองคนนั้นติดความคิดเรื่องการตายในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกันกับเธอ แต่การแพร่ระบาดความคิดเรื่องการตายในวันพรุ่งนี้นั้นไม่ได้หยุดแค่เพียงเท่านั้นแต่ยังลามไปถึงคู่รักที่เข้ามาร่วมงานกับเจนนั่นก็คือทิลลี่และไบรอันอีกด้วย ทำให้เกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของความตายที่แทบจะไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกับไวรัสร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนได้เช่นเดียวกัน

ภาพยนตร์เรื่อง She Dies Tomorrow กับการสะท้อนโรคซึมเศร้า

https://www.vulture.com/article/movie-review-she-dies-tomorrow-directed-by-amy-seimetz.html

ตัวอย่างหนัง :

            เราต่างก็ทราบกันดีว่าในปัจจุบันนั้นมีผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโรคดังกล่าวนี้เป็นโรคเกี่ยวกับสารเคมีในสมองที่จะส่งผลให้ผู้คนนั้นรู้สึกเศร้าอย่างควบคุมไม่ได้และมีความรู้สึกต้องการที่จะตาย หากวิเคราะห์ดูแล้วจะพบว่าในภาพยนตร์เรื่อง She Dies Tomorrow เปรียบเสมือนกับการส่งสารของผู้กำกับเกี่ยวกับเรื่องของโรคซึมเศร้าที่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ แต่มีการนำเสนอออกมาในรูปแบบที่เป็นปริศนาและไม่มีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน เพื่อให้ความรู้สึกเป็นภาพยนตร์แนวลี้ลับสยองขวัญมากยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้รับชมจึงจะได้ตั้งคำถามมากมายว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวละคร และเพราะเหตุใดพวกเขาจึงได้ตัดสินใจทำพฤติกรรมต่างๆ อย่างที่เราได้เห็นกัน

#She Dies Tomorrow #รีวิวหนัง #หนังสะท้อนโรคซึมเศร้า

Malevolent ภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่ไม่สยองขวัญเท่าที่ควร

            ปกติแล้วเมื่อรับชมภาพยนตร์แนวสยองขวัญ สิ่งที่ผู้รับชมคาดหวังก็คือความสยองแบบจัดเต็มที่จะทำให้ผู้รับชมนะนั่งไม่ติดเก้าอี้ เพราะหามันไม่สยองขวัญก็ไม่ควรที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นภาพยนตร์สยองขวัญ แต่สุดท้ายในวงการภาพยนตร์นั้นเราก็ยังคงได้เห็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ไม่สยองขวัญเท่าที่ควรออกมาเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะว่าภาพยนตร์แนวนี้มีการสร้างเป็นประจำบางครั้งก็อาจจะหมดมุขหรือผู้รับชมรู้ทันอยู่แล้วจนทำให้ความสยองขวัญนั้นลดน้อยถอยลงไป อย่างภาพยนตร์เรื่อง Malevolent ซึ่งมีแนวทางชัดเจนว่าตนเองเป็นภาพยนตร์สยองขวัญ แต่กลับไม่สามารถสร้างความรู้สึกกลัวและลุ้นระทึกได้ในระดับมาตรฐาน แม้ว่าจะได้นางเอกมากฝีมือผู้เคยได้รับบทนำในภาพยนตร์อย่าง Midsommar มารับบทก็ตาม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าเดิมทีภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ฉายบน netflix แต่ในประเทศไทยนั้นได้ซื้อลิขสิทธิ์มาฉายในโรงภาพยนตร์แทน

ภาพปกจาก : netflix.com/fr-en/title/80242081

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง Malevolent

            Malevolent จะเล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มต้มตุ๋นที่ดันเข้าไปเจอดีจนแทบเอาชีวิตไม่รอด โดยเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในช่วงปี 1986 ในประเทศสก็อตแลนด์ สองพี่น้องประกอบไปด้วยแองเจล่าและแจ็กสันพร้อมกับเพื่อนชายและหญิงอีก 1 คู่รวมกันทั้งสิ้นเป็น 4 คน ได้รวมกลุ่มกันเพื่อรับจ้างขับไล่วิญญาณที่คอยหลอกหลอนผู้คนออกจากบ้านหรือสถานที่ต่างๆ คล้ายกับคู่สามีภรรยาวอเรนท์ แต่พวกเขานั้นไม่ได้มีความสามารถในการทำเช่นนั้นจริงๆ เป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น เนื่องจากในอดีตนั้นแม่ของทั้งสองพี่น้องเป็นคนทรงเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังแต่เธอกลับฆ่าตัวตาย ดังนั้นเพื่อหารายได้ทั้งสองคนจึงเลือกทางเดินในสายอาชีพดังกล่าวนี้ ซึ่งดูเหมือนว่ากิจการของพวกเขานั้นจะเป็นไปได้ด้วยดีและยังมีชื่อเสียงอีกด้วยจนทำให้พวกเขานั้นสามารถเก็บค่าบริการได้แพงมากยิ่งขึ้น แต่แล้วแองเจล่าก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองนั้นสามารถมองเห็นวิญญาณได้จริงๆ เธอจึงต้องการที่จะหยุดอาชีพดังกล่าวนี้แต่ก็ไม่สามารถหยุดได้เพราะพี่ชายของเธอนั้นได้กู้เงินของมาเฟียมา ทำให้เธอนั้นต้องรับงานอีกครั้งซึ่งเป็นงานใหญ่ที่ได้ค่าตอบแทนสูง โดยเป็นการเข้าไปปราบวิญญาณในบ้านเด็กกำพร้า โดยที่เธอไม่รู้เลยว่านอกจากจะได้พบปริศนาที่อยู่เบื้องหลังความสยดสยองเหล่านี้แล้วมันยังนำพามาซึ่งอันตรายต่อเธอและพวกอีกด้วย

เพราะเหตุใดภาพยนตร์เรื่อง Malevolent จึงจืดจาง

            ปกติแล้วภาพยนตร์แนวสยองขวัญนั้นจะเต็มไปด้วยเรื่องราวที่มีความเข้มข้นและลุ้นระทึก แต่ภาพยนตร์เรื่อง Malevolent กลับนำเสนอออกมาได้จืดจาง แม้ว่าจะเทียบกับหนังสือที่ดัดแปลงเนื้อหามาเป็นบทภาพยนตร์เองก็ตาม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาวไม่ถึง 100 นาทีด้วยซ้ำไปถึงแม้ว่าจะมีการรวมเครดิตท้ายเรื่องไว้แล้วก็ตาม ทำให้ระยะเวลาในการเล่าเรื่องนั้นค่อนข้างสั้นจนต้องมีการตัดรวบรัดเรื่องราวให้มีความกระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ประเด็นต่างๆ นั้นถูกลดทอนความสำคัญลงไปค่อนข้างมาก รวมไปถึงปัญหาในการดัดแปลงนวนิยายมาเป็นบทภาพยนตร์ที่อาจจะทำได้ไม่ดีมากพอจนทำให้ใจความสำคัญของเรื่องนั้นมันหายไป

Malevolent | หลอกจับผีหลอนจับตาย – Official Trailer [ซับไทย]

#Malevolent #รีวิวหนัง #หนังระทึกขวัญ

ชวนคุณมาน้ำตาคลอไปกับภาพยนตร์เรื่องGreenland 2020 นาทีละทึก…วันสิ้นโลก

            เคยลองคิดเล่นๆไหมว่า หากวันหนึ่งคุณได้รับข่าวว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าโลกจะถูกอุกกาบาตพุ่งชนจนไม่เหลืออะไร คุณจะทำอย่างไร วันนี้เราจะพาทุกท่านมาพบกับภาพยนตร์เรื่องใหม่สุดระทึกใจอย่าง Greenland นาทีละทึก…วันสิ้นโลก เชื่อเหลือเกินว่าเพื่อนๆหลายคนคงนึกในใจ ประมาณว่ามีมาอีกแล้วเหรอหนังแบบนี้ พล็อตเดิมๆ จะเล่นอะไรได้มากมาย แต่อย่าเพิ่งประมาทไป หากคุณยังไม่ได้รับชมหนังเรื่องนี้

            ภาพยนตร์เรื่อง Greenland นาทีระทึก…วันสิ้นโลกนี้ เป็นหนังแนวภัยพิบัติจากอเมริกาในปี 2020 เนื้อเรื่องออกแนวSurvivalแบบครอบครัวเสียส่วนใหญ่ กำกับโดยริก โรมัน วาฟ ได้นักแสดงนำอย่าง เจอราร์ด บัตเลอร์ , โรเมน่า บัคคาริน

เรื่องย่อของ Greenland

ทำไมถึงบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง Greenland นาทีระทึก…วันสิ้นโลกนี้เป็นแนวSurvivalแน่นอนว่าหลายคนพอจะเข้าใจอารมณ์ของหนังประมาณนี้ ว่าต้องมีการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ดังกล่าว ทางเราจะขอเล่าพล็อตเรื่องคร่าวๆเบื้องต้น เนื้อเรื่องเกิดจากการที่อุกกาบาตกำลังจะพุ่งชนโลกความรุนแรงระดับใหญ่โตเป็นวงกว้าง แต่ทางภาครัฐนั้นไม่ได้มีการบอกประชาชนทั้งหมด และเผยเพียงแค่เป็นเรื่องของดาวหางเล็กๆ จอห์นเป็นวิศวะกรผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ไปยังศูนย์อพยบซึ่งทางรัฐให้ข้อแม้ว่าสามารถนำครอบครัวไปได้เท่านั้น ห้ามบอกผู้อื่น เขาจึงพาครอบครัวอพยพหนีไป ระหว่างทางเกิดเรื่องไม่คาดฝันมากมาย ลุ้นละทึก และมีอุปสรรคปัญหาที่ต้องฝ่าฟัน จึงเกิดเป็นความสนุกสนานชวนน้ำตาคลออยู่ตลอด

แต่ละฉากในเรื่อง Greenland

            ขอพูดถึงในเรื่องฉากต่างๆ ของภาพยนตร์ Greenland นาทีระทึก…วันสิ้นโลก ค่อนข้างดำเนินเรื่องไวในช่วงแรกและเมื่อกลางเรื่องออกจะติดฉากการเอาตัวรอดเยอะ สำหรับใครที่หวังจะได้เห็นคอมพิวเตอร์กราฟฟิกแบบเพอร์เฟคเต็มร้อยบอกเลยว่าผิดหวัง แต่ถ้าหากเอาความกลมกล่อมลื่นไหลไปกับบทบาท ส่วนตัวมองว่าไม่เลว ทำได้น่าประทับใจ คาดว่าพอหอมปากหอมคอ

            มองภาพรวมของนักแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Greenland นาทีระทึก…วันสิ้นโลก ทุกตัวละครเลือกและคัดสรรมาได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นตัวนำเรื่องอย่างเจอราร์ดบทนี้เหมาะกับเขามากๆ ทั้งแอ็คชั่น การเป็นผู้นำ ทุกอย่างสื่ออารมณ์ให้เรารู้สึกตามง่ายดาย ขอชมเป็นการส่วนตัวสำหรับบทลูกชายอย่างน้อง โรเจอร์ เดล ฟรอยด์ หรือเนธานในเรื่อง น้องเป็นเด็กตัวเล็กๆที่สื่ออารมณ์เก่งมาก

Greenland – Trailer 1 (ซับไทย)

            สรุปโดยภาพรวมแล้ว หนังเรื่องนี้มีอะไรที่เราคาดไม่ถึงเยอะมาก ประหนึ่งว่าคนเขียนบทนั้นรู้อยู่แล้วว่าผู้ชมจะเดาไปทางไหน เขาจึงทำให้ฉีกออกมา ลุ้น ตื่นเต้น กดดันเราได้เป็นอย่างดี แอบเสียน้ำตาให้กับหลายฉาก บอกได้คำเดียวว่า ต้องดูเอาเอง

#Greenland 2020 #หนังภัยพิบัติ #หนัง sci-fi ล้างโลก

รีวิวหนังโรง Minari – มินาริ หนังชิงรางวัลออสการ์ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ที่คุณต้องดู

ถ้าหากพูดถึง หนังโรง หนังใหม่ ที่เข้าฉายในตอนนี้ เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ถูกตาต้องใจคนไทยมาก เพราะในช่วงเดียวกันนี้มี หนังโรงสนุกๆ เรื่องอื่นที่อาจจะเหมาะกับตลาดคนไทยส่วนใหญ่มากกว่า แต่หนังเรื่องนี้มากับชื่อเสียงตำแหน่ง ชิงออสการ์ เพราะฉะนั้นก็ยังถือว่าได้รับความสนใจจากผู้คนอยู่ เป็นอีกหนึ่ง หนังปรัชญาชีวิต ที่เข้าถึงได้ง่าย อยากแนะนำให้ทุกคนไปดูกัน

เรื่องย่อ หนังโรง Minari – มินาริ

เป็นเรื่องราวของจาค็อบและโมนิก้า พวกเขาเป็นสามีภรรยาที่ย้ายจากเกาหลีมาลงหลักปักฐานในอเมริกา โดยที่ทั้งสองคนทำงานอยู่ในโรงงานคัดแยกเพศลูกเจี๊ยบในแคลิฟอร์เนีย แต่จริงๆแล้วความฝันของจาค็อบผู้เป็นสามีนั้นคือการเป็นเจ้าของฟาร์ม เขาเลยตัดสินใจพาครอบครัวมาเริ่มต้นใหม่ที่อาร์คันซอ เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์ที่ต้องอาศัยการปรับตัวหลายๆอย่าง รวมไปถึงการมาของอีกหนึ่งคนในครอบครัวที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นแฟ้นกันมากยิ่งขึ้น

สามารถรับชมตัวอย่างได้ที่

Minari มินาริ หนังปรัญชาชีวิตย่อยง่าย

หนังเรื่องนี้ถูกแปะความเป็นหนังชีวิต หนังครอบครัว ไว้ตั้งแต่ตัวอย่าง เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าจะมาในแนวของชีวิตที่ต้องฟ่าฟันให้ไปถึงปลายทางแห่งความฝัน ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่ามันนเป็นเรื่องธรรมดาๆ ไม่ได้น่าดึงดูดขนาดนั้น แต่ความจริงแล้วหนังเรื่องนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง แล้วที่สำคัญหนังสื่อออกมาอย่างเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ว่าใครที่ดูก็ต้องสามารถสัมผัสได้ถึงแนวคิดในการใช้ชีวิตบางอย่างแน่นอน เป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วคุณจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจและคอยลุ้นไปกับพวกเขา

หนังชิงออสการ์ Minari หนังดีที่คุณควรดู

หนังเรื่องนี้เข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วยกันถึง 6 รางวัล ซึ่งก็เป็นการการันตีได้แล้วส่วนหนึ่งว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูมากๆ ทุกตัวละครล้วนมีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกันละกัน คุณจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครที่น่าทึ่งมากๆ สำหรับเรื่องนี้ และแน่นอนว่าสิ่งที่อยากแนะนำให้ไปดูอีกอย่างคือ ความสามารถของนักแสดงแต่ละคน โดยเฉพาะลูกชายคนเล็ก ที่แสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติๆมาก บอกเลยว่าคุณจะต้องประทับใจ และมีอารมณ์หวนคิดถึงชีวิตของตัวเองอย่างแน่นอน เป็น หนังโรง แนะนำ 2021 และ หนังปรัชญาชีวิต ที่คุณห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด อยากให้ไปดู

#หนังใหม่ #Minari มินาริ #หนังชิงออสการ์ #หนังแนะนำ 2021

รีวิวหนัง Netflix : Madame Claude หนึ่งในผู้หญิงที่มีอิทธิพลในช่วง 60’s

ช่วงนี้มันจะมีหนังแนวๆ หนังชีวประวัติ หนังย้อนยุค มาให้เราเห็นอยู่บ่อยๆตาม Netflix และเรื่อง Madame Claude ก็เป็นอีกเรื่องที่ถือว่าน่าสนใจ เพราะว่าเป็นเรื่องราวกับกับ ชีวิตประวัติของผู้หญิงที่มีอิทธิพลคนหนึ่งในยุค 60’s ยุคที่คนต่างแก่งแย่งชิงดีในเรื่องอำนาจการเมือง บอกเลยว่าเป็นหนังทรงพลังเรื่องหนึ่งเลยก็ว่า เพราะสร้างมาจากเรื่องจริง

เรื่องย่อ หนัง Netflix Madame Claude

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมาดามคล้อด เธอคนนี้เป็นคนคุมซ่องในเมืองปารีสในยุค 60’s ซึ่งซ่องนี้นั้นไม่ได้มีไว้เพื่อขายบริการเพียงอย่างเดียว แต่กับเป็นการวางอิทธิพลอย่างหนึ่ง เพราะว่าลูกค้าของที่นี่ล้วนแล้วแต่มีคนสำคัญๆทางการเมือง ซึ่งผู้หญิงที่ขายบริการอยู่ที่นั่นก็มักจะมีไปได้ความลับ ซึ่งเธอนั้นสามารถนำไปขายให้กับหน่วยงานอื่นๆได้ และชีวิตเธอก็ได้มาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งเริ่มเข้ามาในชีวิตของเธอ

สามารถรับชมตัวอย่างได้ที่

Madame Claude หนังประวัติคนสำคัญที่ทรงพลัง

ถึงแม้ว่ามาดามคล้อดจะเป็นคนคุมซ่อง แต่เธอนั้นได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นมาเฟียคนหนึ่งในช่วงนั้นเลยก็ว่าได้ เธอค่อนข้างมีอิทธิพล เนื่องจากเธอนั้นมีความลับเกี่ยวกับนักการเมืองและคนสำคัญต่างๆที่มาใช้บริการ แน่นอนว่าการได้รู้ข้อมูลระดับนี้ ก็ย่อมกลายเป็นผู้มีอิทธิพล และหนังเรื่องนี้ก็จะเป็นการบอกเล่าประวัติของเธอ สำหรับใครที่ไม่ชอบความเอื่อยๆของหนัง บอกเลยว่าอาจจะต้องข้าม เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ย่อมมีจุดสูง จุดต่ำ เป็นหนังที่ถ้าเราชอบเรื่องราวในประวัติศาสตร์รับรองว่าอินไปกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน หรือคนประเภทที่ชอบดูความทะเยอทะยานของคนที่มีอิทธิพลและทรงพลัง ก็น่าจะชอบเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

พาย้อนยุคไปดูเรื่องราวในสมัย 60’s Madame Claude

แน่นอนว่าอีกหนึ่งเสน่ห์ที่กล่าวชมเลยก็คือ แบล็คกราวน์ของเรื่องที่ถ่ายทอดความเป็น 60’s ได้อย่างน่าประทับใจ แต่เรื่องนี้เนื่องจากจะเกี่ยวกับซ่อง เพราะฉะนั้นเรื่องฉากเซ็กส์ ฉากอบายมุขต่างๆ มีให้เห็นอย่างแน่นอน และเราก็จะได้เห็นชีวิตของโสเพณีในช่วงยุคดังกล่าว รวมไปถึงกลการวางอำนาจทางการเมืองในสมัยก่อนที่น่าสนใจมากพอสมควร บอกเลยว่าถ้าคุณอินกับอะไรแบบนี้ คุณจะอิ่มเอมไปกับช่วงเวลาย้อนยุค สิ่งที่เคยรุ่งโรจน์ในสมัยนั้น การเอาตัวรอด ความทะเยอะทะยานต่างๆ เป็น หนังชีวประวัติบุคคลสำคัญ ที่สามารถดูแล้วสะท้อนสะคมและทัศนคติบางอย่างออกมาได้อย่างชัดเจนและไร้ข้อกังขาใดๆ

#หนังชีวประวัติ #หนังฝรั่ง #หนังฝรั่งเศส แนะนำ

Midway ภาพยนตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นำเสนอในมุมมองแบบ 360 องศา

            เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเห็นภาพการบินของนักบินจากกองทัพอากาศ ซึ่งมีวิธีการและเทคนิคในการบินที่แตกต่างจากการบินของเครื่องบินพาณิชย์หรือเครื่องบินขนส่ง นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นนอกจากจะต้องโจมตีศัตรูทั้งบนภาคพื้นดินแล้ว ยังจะต้องระวังตัวและต่อสู้กับศัตรูบนท้องฟ้า ยังไม่รวมถึงสมาธิที่ต้องใช้ในการขับเครื่องบินเพื่อไม่ให้ชนสิ่งกีดขวางต่างๆ บนท้องฟ้าอีกด้วย ฉากการบินของกองทัพอากาศในภาพยนตร์ที่เราได้เห็นส่วนใหญ่นั้นมันจึงออกมาทั้งตระการตาและลุ้นระทึก Midway เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่จะให้ทำให้คุณนั้นได้รับชมภาพการบินแบบ 360 องศา โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ Roland Emmerich  ซึ่งเป็นผู้กำกับสายระเบิดอีกหนึ่งคนที่มีชื่อเสียง ผลงานสร้างชื่อของเขานั่นก็คือ The Day After Tomorrow เป็นผู้กำกับที่สามารถนำเสนอความดราม่าและผสมผสานเข้ากับเอฟเฟคตระการตาต่างๆ ให้เข้ากันได้เป็นอย่างดี หากใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวสงครามแล้วเราก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้โดยเด็ดขาด

ภาพปกจาก : www.wdiy.org/post/movies-midway

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง Midway

https://www.dw.com/en/a-game-of-battleship-roland-emmerichs-new-film-midway/a-51137294

Midway เป็นภาพยนตร์ที่กล่าวถึงยุทธนาวีมิดเวย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิสำคัญที่ตั้งอยู่บริเวณแปซิฟิก เป็นการชิงพื้นที่มิดเวย์อะทอลล์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพจากอเมริกาที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ด้วยความที่เป็นพื้นที่ค่อนข้างได้เปรียบในเชิงยุทธศาสตร์ในการรบดังนั้นหากใครที่สามารถยึดชิงพื้นที่นี้ได้ก็จะได้เปรียบในการรบบริเวณนี้ทันที ดังนั้นฝ่ายสัมพันธมิตรจึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะไม่ให้ญี่ปุ่นสามารถเข้ามาชิงพื้นที่ตรงนี้ได้สำเร็จ แต่ด้วยความที่อีกฝั่งนั้นเป็นญี่ปุ่นการที่อเมริกาจะเดินเกมรุกข้ามมหาสมุทรไปยังฝั่งเอเชียเพื่อโจมตีญี่ปุ่นนั้นจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องตั้งแนวรับอย่างเต็มที่เพื่อรอรับการมาถึงของญี่ปุ่นและพยายามปกป้องพื้นที่ของตนเองไว้ให้ได้

ความน่าสนใจในการนำเสนอภาพในรูปแบบ 360 องศาของภาพยนตร์เรื่อง Midway

https://www.military.com/off-duty/2019/10/16/5-reasons-you-need-see-midway.html

            ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่อง Midway นำเสนอยุทธนาวีมิดเวย์ ซึ่งสมรภูมินั้นตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก การเล่าเรื่องแบบธรรมดานั้นจึงค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก เพราะยานพาหนะส่วนใหญ่ที่ใช้ในการรบนั้น จะเป็นเรือและเครื่องบิน การเลือกนำเสนอในรูปแบบของ 360 องศาจึงเป็นวิธีการที่ชาญฉลาดเป็นอย่างมากเพราะช่วยให้เราสามารถมองเห็นภาพได้ลุ้นระทึกมากยิ่งขึ้นและมีความสมจริงขึ้นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในฉากที่อยู่บนเครื่องบินรบ ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการรับชมการ์ตูนเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือมันเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้กำกับนั้นสามารถใส่เอฟเฟคเข้ามาได้ตามชอบใจซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ถนัดอยู่แล้ว ทำให้งานภาพของภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยเอฟเฟคที่มีทั้งความสวยงามและความสมจริง แต่ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์แนวสงครามทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีข้อเสียตรงที่ตัวละครหลายๆ ตัวนั้นมีบทบาทที่น้อยจนผู้รับชมไม่สามารถจดจำเขาได้จนจบเรื่อง บางตัวละครนั้นเป็นความตั้งใจใช้แล้วทิ้งของผู้กำกับที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนจนเกินไป

Youtube :

Midway Trailer #1 (2019) | Movieclips Trailers

#Midway #หนังสงครามโลก #ภาพยนตร์มุมมอง 360 องศา

Monster Hunter The Movie ภาพยนตร์จากเกมที่ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน

            สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ทั่วทั้งโลกนั้น ในช่วงกลางปีเราจะเห็นว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นจนทำให้แฟนภาพยนตร์หลายคนใจชื้นว่าจะได้รับชมภาพยนตร์ตามที่ต้องการ แต่พอเข้าสู่ช่วงปลายปีสถานการณ์กลับย่ำแย่ลงอีกครั้งทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้นแทบจะหยุดชะงักไปเลย ส่งผลกระทบถึงภาพยนตร์เรื่อง Monster Hunter The Movie ที่หมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างดีในการนำเอาเกมชื่อดังมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และหวังใจว่ามันจะประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงโด่งดังเช่นเดียวกับ Resident Evil แต่พอเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันภาพยนตร์กลับไม่สามารถทำรายได้ดีเท่าที่ควรนัก ส่วนคำวิจารณ์ก็ออกมาแบบกึ่งกลางจะดีก็ไม่ดีแต่จะไม่ดีเลยก็ไม่ใช่ แม้ว่าในประเทศไทยจะพอมีกระแสอยู่บ้างเนื่องจากได้นักแสดงชายอย่าง จา พนม ไปร่วมแสดงแต่กระแสตอบรับก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร

www.sanook.com/game/1077507

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Monster Hunter The Movie

https://pantip.com/topic/40418748

            Monster Hunter The Movie เล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มทหารนาวิกโยธินจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่จะต้องเข้าไปผจญภัยยังดินแดนต่างมิติโดยมีผู้นำเป็นร้อยโทหญิงอาเทมิส พวกเขานั้นได้พัดหลงเข้ามายังดินแดนต่างมิติแห่งนี้ด้วยความบังเอิญ โดยที่ไม่ทราบเลยว่าโลกแห่งนี้เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดมากมายที่ทั้งอันตรายและดุร้าย และยังมีผู้ปกครองที่มีพลังและอำนาจเกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาทั่วไปจะสามารถจัดการได้ การที่พวกเขาต้องมาอยู่ในดินแดนที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่เทียบเท่ากับไดโนเสาร์และยังมีความน่ากลัวนั้นทำให้พวกเขาต้องตกตะลึง ไม่เพียงเท่านั้นพวกมันยังไม่รู้สึกสะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียวในยามที่พวกเขานั้นต่อสู้กับพวกมันด้วยกระสุนปืน ในขณะที่กำลังจะพยายามเอาชีวิตรอดร้อยโทสาวก็ได้พบเข้ากับฮันเตอร์ซึ่งมีความสามารถในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเหล่านั้นพวกเขาจึงร่วมมือกันที่จะพาอาเทมิสกลับบ้านอย่างปลอดภัย

Monster Hunter The Movie ภาพยนตร์ที่โดนอาถรรพ์จากการดัดแปลงเรื่องราวของเกม

https://www.gamesradar.com/uk/new-monster-hunter-movie-poster-has-an-awesome-monster-and-an-awkward-weapon/

            การหยิบยกอะไรก็แล้วแต่มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย การ์ตูน หรือแม้แต่เกมเองก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะสามารถฝ่าฟันอาถรรพ์ออกมาได้ โดยเฉพาะเกมที่มีความสูงอย่างเกม Monster Hunter ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Monster Hunter The Movie มีบทที่อ่อนและน่าเบื่อเป็นอย่างมากในช่วงต้นเรื่อง การนำเอานักแสดงสาวอย่างมิล่า โจโววิชซึ่งเป็นนักแสดงที่เคยแสดงในภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเกมอย่าง Resident Evil มาแสดงนำนั้น ทำให้ผู้รับชมยังคงติดภาพของเธอในบทบาทของอลิสอยู่ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีอะไรหลายๆ อย่างที่ประดักประเดิดอย่างน่าเสียดาย 

Monster Hunter Movie – Official Chinese Trailer (2020) Milla Jovovich, Tony Jaa

#Monster Hunter The Movie #Monster Hunter #หนังจากเกม