รีวิวซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Move to heaven

ถ้าถามว่าซีรี่ย์เรื่องไหนที่ทำให้เสียน้ำตาบ่อยที่สุดขณะดูและสามารถซึมได้ทั้งวันหลังที่ดูจบแล้วนั้น ก็คงจะเลี่ยงตอบว่าเป็นเรื่องMove to heaven ไปไม่ได้อยู่แล้ว เป็นซีรี่ย์เกาหลีที่ดีมากๆเลยพล็อตเรื่องสอนอะไรหลายๆอย่างได้อีกด้วย เห็นผ่านๆอาจจะคิดว่าเป็นซีรี่ย์ออริจินัลธรรมดาแต่จริงๆแล้วนั้นการเล่าเรื่องแต่ละซีนนั้นมีความหมายมากสามารถสร้างความรู้ความประทับใจให้กับคนที่รับชมได้มากอีกเช่นกัน ทุกการจากไปล้วนทิ้งร่องรอย

ของทุกสิ่งที่หลงเหลือไว้ล้วนเป็นตัวบอกเล่าความในใจของคนที่จากไปสู่คนข้างหลังที่ยังต้องอยู่ ชีวิตคนเราไม่มีคำว่าตลอดไป นี่คือพล็อตของเรื่องที่เล่าเรื่องออกมาให้กับคนดูได้รับชมกันนั้นเอง ซีรี่ย์เรื่องนี้สร้างจากชีวิตจริงๆที่มีการตีพิมพ์ลงในหนังสือซึ่งก็จะเกี่ยวกับการทำความสะอาดสถานที่ในแต่ละที่ที่มีเหตุการณ์การเสียชีวิตเกิดขึ้น โดยจะใช้ตัวละครที่มีนามว่า ฮันกือรู ในการเล่าเรื่องอายุของเขาเพียงแค่20ปีเท่านั้นโดยที่เด็กหนุ่มคนนี้ก็จะอาศัยอยู่กับพ่อของตัวเองเพียงสองคน และเขาก็ยังมีอาการแอสเพอร์เกอร์อีกด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเด็กคนนี้หัวไวแถมฉลาดมากด้วยเป็นเด็กที่ช่วงคิดช่างพูด ซึ่งพ่อของเขานั้นก็เป็นคนที่มีหน้าที่เก็บกวาดสถานที่เกิดเหตุที่มีการเสียชีวิตให้เหมือนใหม่จนแทบไม่เหลือร่องรอยของความสูญเสียที่ได้เกิดขึ้นและก็ยังสามารถรับฟังปัญหาเรื่องราวต่างๆของผู้ที่ได้ล่วงลับไปแล้วผ่านสิ่งของใช้ที่ยังคงหลงเหลืออยู่และก็จัดเก็บไว้ให้เป็นที่เป็นทาง ซึ่งที่ทำทั้งหมดนี้ก็ทำอยู่ภายใต้ชื่อของบริษัทMove to heaven นั้นเอง ซึ่งฮันกือรูก็จะเป็นคนที่คอยช่วยเหลือพ่อทุกครั้งที่มีคนโทรมาที่บริษัทและให้ไปเก็บกวาดสถานที่ เขาไม่เคยรังเกียจอาชีพนี้เลยแถมทำมันด้วยใจรักล้วนๆ ถ้าพ่อเขาบอกว่าดีเขาก็ว่าดี เขาจะเป็นคนที่เชื่อฟังพ่อมากกว่าใครคนอื่นและก็รักพ่อมากๆด้วย จนถึงคราวที่ฮันกือรูต้องเสียพ่อไปก็เลยทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวและไม่กล้าที่จะยอมรับความจริงได้ว่าพ่อของเขาไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ในขณะที่เวลาคนอื่นเสียชีวิตเขาสามารถบอกกับคนใกล้ตัวผู้เสียชีวิตให้ยอมรับความจริงและเดินหน้าต่อแต่เขาเองกลับทำไม่ได้ไม่กล้าแม้แต่จะเก็บกวาดข้าวของของพ่อตัวเองเพราะยังคิดอยู่เสมอว่าพ่อยังอยู่กับเขา และหลังจากที่พ่อเขาเสียคนที่คอยดูแลและเลี้ยงดูเขาต่อนั้นก็คืออาของเขา โจซังกู นั้นเอง ซึ่งอาของเขาก็พึ่งจะพ้นโทษออกมาไม่ทันจะข้ามวันก็กลายมาเป็นผู้ปกครองของฮันกือรูทันที และก็ต้องมาช่วยฮันกือรูทำหน้าที่เก็บกวาดที่เกิดเหตุโดยสานต่อจากพ่อของเขาเลย

และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ และที่บอกว่าเสียน้ำตาบ่อยที่สุดส่วนใหญ่ก็จะเป็นฉากที่ฮันกือรูรับฟังเรื่องราวต่างๆผ่านสิ่งของที่ยังคงหลงเหลืออยู่และในบางครั้งที่เขาไม่สามารถรับความจริงเรื่องของพ่อตัวเองได้ ใครที่อยากจะรับชมย้อนหลังสามารถรับชมผ่านทางแอพพลิเคชั่นNetflix ช่องทางเดียวเลย เพราะเป็นผลงานการสร้างของNetflix โดยเฉพาะ

ภาพจาก ; drama.kapook                                 

ภาพจาก ; Netflix

ภาพจาก ; pantip     

#รีวิวซีรี่ย์เกาหลี #ซีรี่ส์เด็ด Netflix #ซีรี่ส์เกาหลีน่าดู

รีวิวหนัง Crawl คลานขย้ำ หนังเข้โครตลุ้น เล่นเอาคอแห้งทั้งเรื่องแม๊!!

     Crawl คลานขย้ำ ถือว่าเป็นหนังเข้เรื่องล่าสุด ในรอบหลายปีที่ทำได้โครตดี เมื่อนางเอกที่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ดันต้องมาแข่งว่ายกับไอ้เข้ เพื่อเอาชีวิตรอด ท่ามกลางพายุฝนที่ถล่มเข้าอย่างหนัก ทำให้ฟาร์มน้องเข้ที่อยู่ข้างบ้านแตก กับคุณพ่อที่ขาหักเพราะฝีมือคมเขี้ยวน้องเข้ เมื่อน้ำเอ่อท้วมชั้นใต้ถุนบ้าน ที่พวกเขาต้องถูกขังอยู่กับเหล่าน้องเข้ สกิลนักกีฬาว่ายน้ำ จึงต้องดึงมาใช้แบบเต็มขั้น เพื่อช่วยพ่อและน้องหมา ให้รอดพ้นจากวิกฤติโครตความซวยครั้งนี้ให้จงได้!!

     Crawl คลานขย้ำ เป็นหนังแนวระทึกขวัญ, เอาตัวรอด ผสมภัยธรรมชาติ ที่ออกฉายเมื่อปี 2019 โดยฝีมือผู้กำกับโดย อาแล็กซ็องดร์ เอจา หากใครที่ติดตามหนังสไตล์เอาตัวรอดจากความระทึกขวัญ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ยักษ์ หรือภัยพิบัติ ย่อมรู้ดีว่าหนังเหล่านั้น ย่อมสามารถทำให้เลือดของคนชมพุ่งพล่านได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น เราลองไปเช็คกับพล็อตเรื่องย่อของหนังไอเข้เรื่องนี้กันก่อนเลยดีกว่า

เรื่องย่อ Crawl คลานขย้ำ

     Crawl คลานขย้ำ เป็นเรื่องราวที่เล่าเริ่มต้นจาก เฮลีย์ หญิงสาวดีกรีนักกีฬาว่ายน้ำ ฝีมือดี ที่จำต้องกลับมายังบ้านเกิดของตนเอง ที่พ่อนั้นอาศัยอยู่กับหมาตัวหนึ่ง ด้วยพายุเฮอร์ริเคนที่ค่อยๆ พัดถล่มแถบชายแดน ฟลอริดา ทางการได้ออกมาเตือนประชาชนให้ขนย้ายข้าวของ และอพยพไปยังที่ปลอดภัย และบังเอิญว่าบ้านที่พ่อเธออยู่นั้น ก็อยู่ในโซนที่พายุกำลังจะเข้ามาพอดี ด้วยความที่เธอไม่สามารถโทรติดต่อหาพ่อเธอได้ เธอจึงตัดสินใจขับรถไปหาพ่อที่บ้าน ท่ามกลางกระแสพายุ และน้ำในบึงข้างบ้าน ที่ค่อยๆ เอ่อล้นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อเธอมาถึง กลับไม่พบร่องรอยของพ่อเธอ แล้วเธอก็ได้ตัดสินใจลงไปชั้นใต้ถุนบ้าน

     ทันใดนั้น เธอก็พบว่าพ่อของเธอกำลังนอนบาดเจ็บอยู่ ด้วยความตกใจ และอยากช่วยพ่อสุดขีด บวกกับพายุที่โหมกระหน่ำ เธอกำลังจะขึ้นจากใต้ถุนบ้าน เพื่อขึ้นไปขอความช่วยเหลือ แต่แล้วจู่ๆ เธอก็ต้องพบว่าใต้ถุนบ้าน ไม่ได้มีแต่พวกเธอเท่านั้น แต่ยังมีจระเข้ตัวใหญ่ ที่กำลังหิวโหย ออกมาตามล่าพวกเธอ โดยไม่มีใครรู้ว่าพวกมันมาจากไหน และบันไดใต้ถุนบ้าน ก็พังไปเรียบร้อยแล้ว และแล้วการเอาตัวรอดจากห้องใต้ถุนปิดตาย กับจระเข้ยักษ์ ก็ได้เริ่มขึ้น

     เรียกได้ว่า Crawl คลานขย้ำ.เป็นหนังระทึกขวัญ สไตล์เอาตัวรอดที่ทำให้คนชมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเกือบตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็อาจมีจุดบอดตรงที่ความสัมพันธ์ครอบครัวสุดน้ำเน่า แต่ก็ยังแอบสอนเรื่องของการดำเนินชีวิตให้กลับไปคบคิดเยอะมาก ไม่ว่าจะด้วยเรื่องปัญหาการหย่าร้าง, ความเข้าใจ ในครอบครัว, การเอาชนะภัยตัวเอง และการไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งใดง่ายๆ รวมถึงหนังยังสะท้อนให้เห็นถึงอุปสรรคของเหล่าตัวละครที่ต้องพบเจอในแต่ล่ะด่าน ตั้งแต่ใต้ถุนบ้าน ที่ต้องทนสู้ฝ่าฟันปัญหาไปเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุด

     Crawl คลานขย้ำ.ยังมีฉากให้แอบลุ้นเล็กๆ กับมุมกล้องที่ดูจงใจ ถึงแม้จระเข้ตัวนี้ อาจไม่ได้ตัวใหญ่มาก แต่หากต้องเผชิญหน้ากับมันตัวต่อตัวในขนาดปกติ แล้วถ้าไม่มีสกิลนักกีฬาว่ายน้ำเหมือนนางเอกแล้วล่ะก็ แค่คิดก็คงน่ากลัวแล้วล่ะ อีกทั้งหนังเรื่องนี้ ยังพาลทำให้นึกถึงหนังระทึกขวัญแนวเอาตัวรอดจากน้องเข้อีกเรื่อง ดังเรื่อง Black Water (2007) อีกด้วย สรุปหนังเรื่องนี้ เต็ม 10 ให้ 7.5 ไปเลย ลุ้นสุดๆ

#รีวิวหนัง Crawl #หนังเข้โครตลุ้น #หนังระทึกขวัญ

รีวิวซีรี่ย์Partners for Justice Season 2 (2019) คู่หูสืบจากศพ

ซีรี่ย์เรื่อง Partners for Justice Season 2 (2019) คู่หูสืบจากศพ เป็นซีรี่ย์เกาหลีแนวอาชญากรรม สืบสวน การแพทย์ ผลงานการกำกับของ โนโดชอล และผลงานการเขียนบทของ มินจีอึน โดยซีรี่ย์เรื่องนี้ได้นักแสดงฝีมือดีมาร่วมแสดงมากมายไม่ว่าจะเป็นจองแจยอง ที่มารับบทเป็น แบคบอม นายแพทย์นิติเวชที่มีความชำนาญในสายงานมากเพราะเขานั่นทำงานในสายงานนี้มาแล้วเป็นเวลากว่า 10 ปี ณ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยเขาเป็นที่รู้จักด้วยฝืมือที่เก่งกาจและความชำนาญ แต่นอกจากจะเป็นที่รู้จักด้านดีแล้วเขาก็ยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของความช่างเลือกและชอบแหกกฎ เอาตัวเองเป็นที่ตั้งอีกด้วย คนต่อมาคือจองยูมิ ที่มารับบทเป็น อึนซอล หญิงสาวที่เป็นถึงอัยการ โดยเธอมาจากครอบครัวที่มีพื้นฐานค่อนข้างร่ำรวย อีกทั้งเธอยังเป็นคนเก่ง มีความสามารถพิเศษไม่เหมือนใครอย่างความสามารถในการจดจำรูปภาพอีกด้วย คนต่อมาคือโอมันซอก รับบทเป็น โดจีฮัน คนต่อมาคือโนมินอู รับบทเป็น จางชอล และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือคังซึงฮยอน รับบทเป็น ซอลลี่ คิม ซีรี่ย์เรื่องPartners for Justice Season 2 (2019) คู่หูสืบจากศพ ออกอากาศทางช่อง MBC ประเทศเกาหลีใต้ ส่วนคนไทยอย่างพวกเราก็สามารถรับชมได้ผ่านทาง Viu

เนื้อเรื่องย่อของซีรี่ย์เรื่องPartners for Justice Season 2 (2019) คู่หูสืบจากศพ

โดยซีรี่ย์เรื่องPartners for Justice Season 2 (2019) คู่หูสืบจากศพ เปิดเรื่องราวในซีซั่น 2 มาต่อเนื่องจากเรื่องราวของทีมสืบสวนในซีซั่น 1 ที่เล่าถึงคดีการเสียชีวิตจากคดีอาชญากรรม และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในซีซั่นนี้เมื่อ แบคบอม นายแพทย์นิติเวชฝีมือดีที่พยายามจะค้นหาความจริงเกี่ยวกับ โอมันซัง ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาเสียชีวิตไปหรือยัง ในขณะที่ อึนซอล อัยการที่ยังถือว่ามือใหม่มากในซีซั่น 1 โดยซีซั่นนี้เธอได้กลับมาพร้อม กับการทำงานร่วมกับแบคบอมอย่างเดิม โดยได้อัยการ จีฮัน มาร่วมทำงานด้วยอีกคน แล้วเรื่องราวการสืบสวนคดีจะเข้มข้น น่าติดตามขนาดไหน ต้องติดตามใน ซีรี่ย์เรื่องPartners for Justice Season 2 (2019) คู่หูสืบจากศพ

ความประทับใจหลังดูซีรี่ย์เรื่องPartners for Justice Season 2 (2019) คู่หูสืบจากศพ

ซีรี่ย์เรื่องนี้หากใครที่ได้ดูซีซั่นแรกแล้วซีซั่นนี้ก็ถือว่าห้ามพลาดเลยทีเดียว เพราะซีซั่นนี้มีการสืบสวนที่ค่อนข้างเข้มข้นกว่า เพราะตัวละครในเรื่องเริ่มมีพัฒนาการที่มากขึ้นจากซีซั่นแรกแล้ว เรียกได้ว่ายังคงสนุกและสนุกกว่าเดิม สำหรับซีรี่ย์เรื่องPartners for Justice Season 2 (2019) คู่หูสืบจากศพ

คะแนนของเรื่องนี้ 8.5/10

อ้างอิงภาพจาก www.kumparan.com

#Partners for Justice Season 2 #ซีรีส์เกาหลีน่าดู #ซีรี่ส์สืบสวนสอบสวน

รีวิวซีรี่ย์เรื่อง Chimera (2021)

ซีรี่ย์เรื่อง Chimera (2021) เป็นซีรี่ย์เกาหลีแนวระทึกขวัญ ลึกลับ ผลงานการกำกับของ คิมโดฮุน และผลงานการเขียนบทของ อีจินแม  โดยซีรี่ย์เรื่องนี้ได้นักแสดงมาร่วมแสดงมากมายไม่ว่าจะเป็นพัคแฮซู ที่มารับบทเป็น ชาแจฮวาน ชายที่เป็นตำรวจอยู่ในสังกัดนักแผนกสืบสวนคดีอาชญากรรมสำคัญ โดยเขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขว้างในสายงานเพราะเขาเป็นคนที่จริงตัง กระตือรือร้นและทุ่มเทจนงานออกมาสมบูรณ์แบบเสมอ คนต่อมาคือคลอเดีย คิม ที่มารับบทเป็น ยูจีน หญิงสาวที่ถูกรับไปเลี้ยงที่อเมริกาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก โดยเมื่อเธอโตมาเธอก็กลับมาทำงานเป็นนักวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรที่ประเทศเกาหลีและนั่นเองที่ทำให้เธอได้พบกับชาแจฮวาน และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คืออีจีฮุน มารับบทเป็น อีจุงยอบ นายแพทย์ผ่าตัดฝีมือดีที่ตอนเด็กเขาเคยถูกรับไปเลี้ยงที่อังกฤษ จนเมื่อโตมาเขาได้เดินทางกลับมายังเกาหลีใต้ และได้เข้าไปเกี่ยวพันกับคดีลึกลับที่มีชาแจฮวาน และยูจีน เกี่ยวข้องอยู่ด้วย ซีรี่ย์เรื่อง Chimera (2021) ออกอากาศทางช่อง OCN ประเทศเกาหลีใต้ ส่วนคนไทยอย่างพวกเราก็สามารถรับชมได้ผ่านทาง Viu

เนื้อเรื่องย่อของซีรี่ย์เรื่อง Chimera (2021)

โดยซีรี่ย์เรื่อง Chimera (2021) เปิดเรื่องราวมาในปี 1984 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศเกาหลีใต้ได้เกิดเหตุระเบิดปริศนาและนำมาสู่เหตุฆาตกรรมต่อเนื่อง จนทำให้ผู้คนหวาดกลัวและผวาในชื่อคดี ชิเมร่า จนเวลาผ่านไป 35 ปี เหตุการณ์ระเบิดปริศนาในครั้งนั่นก็เหมือนจะกลับมาอีกครั้ง และมี ชาแจฮวัน นักสืบหนุ่มผู้ทำงานอย่างทุ่มเทและยึดมั่นในอาชีพเสมอ กับ ยูจีน หญิงสาวที่ไปเติบโตที่สหรัฐอเมริกาเพราถูกอุปการะ และกลับมาเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ แผนกติดตามอาชญากรที่เกาหลีใต้อีกครั้ง และ อีจุงยอบ หมดผ่าตัดที่ก็ถูกรับไปอุปการะที่อังกฤษ และในปัจจุบันได้กลายมาเป็นหมอผ่าตัดที่มีชื่อเสียง โดยพวกเขาทั้ง 3 คนได้เข้ามาผัวพันกับคดีชิเมร่า ด้วยสาเหตุการเข้ามาที่ต่างกัน แล้วเรื่องราวของ คดีชิเมร่า จะดำเนินไปอย่างไร ติดตามชมได้ใน ซีรี่ย์เรื่อง Chimera (2021)

ความประทับใจหลังดูซีรี่ย์เรื่อง Chimera (2021)

โดยซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นซีรี่ย์สืบสวนสอบสวนที่เล่าเรื่องราวออกมาได้น่าสนใจ มีการเชื่อมโยงเรื่องราวและผู้คนออกมาได้ดี ในส่วนของคดีและคดีฆาตกรรมก็น่าตื่นเต้น ชวนติดตาม และฆาตกรในเรื่องนี้ก็เลวร้ายแบบถึงใจถึงอารมณ์จริงๆ แนะนำสำหรับสาวกซีรี่ย์สืบสวน ต้องดูค่ะ กับซีรี่ย์เรื่อง Chimera (2021)

คะแนนของเรื่องนี้ 8.5/10

อ้างอิงภาพจาก www.viu.com

#Chimera (2021) #รีวิวซีรี่ย์ #ซีรี่ส์เกาหลีน่าดู

รีวิวภาพยนตร์เรื่อง สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่

ภาพยนตร์เรื่อง สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่ เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก คอมเมดี้

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นนาย ณภัทร ที่มารับบทเป็น ซัน หนุ่มยูทูบเบอร์รูปหล่อที่มีพลังวิเศษ สามารถได้ยินเสียงในความคิดของคนอื่นได้ เขาจึงพยายามใช้หูฟังและไม่ค่อยสนใจเพื่อปิดกั้นเสียงที่มาจากคนรอบตัว แต่พฤติกรรมของเขามันก็ส่งผลให้เขากลายเป็นคนหยิ่งและยอดวิว ยอด Subscribe ของเขาก็ค่อยๆลดลง เขาจึงต้องหาวิธีกอบกู้ภาพลักษณ์คืนมา คนต่อมาคือมายด์ ลภัสลัล มารับบทเป็น อันนา นักเขียนสาวสวยที่มักจะสงสัยในตัวซันและเริ่มการจับผิด คนต่อมาคือมโกะ ชนนิกานต์ มารับบทเป็น บราวนี่ แฟนคลับตัวยงของซัน คนต่อมาคือปิงปอง ธงชัย  มารับบทเป็น ตุ๊บตั๊บ ผู้จัดการส่วนตัวขาลุยของอันนา ที่พร้อมสู้เพื่อเด็กในสังกัด คนต่อมาคือโมสต์ วิศรุต มารับบทเป็น พีต หนุ่มหน้ามน ครีเอทีฟไฟแรง ที่ทำได้ทุกหน้าที่ ตั้งแต่ครีเอทีฟ ช่างภาพ โปรดิวเซอร์ แลเป็นเพื่อนรักของยูทูบเบอร์คนดังอย่างซัน และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือเต้ ดาวิชญ์ SBFIVE มารับบทเป็น เขื่อน ลูกชายผู้ใหญ่บ้านที่เขื่อนภูมิพล โดยเขามีความตั้งใจจริงในการสร้างงานและสร้างอาชีพให้คนในชุมชน โดยภาพยนตร์เรื่อง สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่ เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2564

เนื้อเรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่อง สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่

ภาพยนตร์เรื่อง สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่ เปิดเรื่องราวมาที่ ซัน ยูทูบเบอร์หนุ่มสายท่องเที่ยว ที่มีพลังพิเศษในการได้ยินความคิดของคนมาอื่นตั้งแต่เด็ก และเหตุนี้เองที่ทำให้ซันกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่ยุ่งกับใครจนมีเหตุให้ต้องออกเดินทางมาทำคอนเทนต์ท่องเที่ยวใกล้ชิดชุมชนเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นของเขา และนั้นเองที่ทำให้เขาได้มาพบกับ อันนา นักเขียนนิยายชื่อดัง ที่เมื่อทั้ง 2 คนได้มาใช้ชีวิตด้วยกัน ก็เริ่มได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ผ่านกันและกันจนเกิดเป็นความรู้สึกดีๆ แล้วเรื่องราวความรักของทั้งคู่จะดำเนินต่อไปอย่างไร ต้องติดตามชมใน เรื่อง สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่

ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์เรื่อง สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่

เรื่องนี้เป็นแนวน่ารักกุ๊กกิ๊ก เน้นขายความฟิน ส่วนตัวเขามาดูเพราะหนุ่มนาย ณภัทร ขอแนะนำสำหรับคนที่อยากได้ความฉุ่มฉ่ำหัวใจ เพราะเนื้อเรื่องไม่ค่อยมีดราม่าอะไรเท่าไหร่ เรียกได้ว่าดูกันสบายๆค่ะ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่

คะแนนของเรื่องนี้ 7/10

อ้างอิงภาพจาก www.bunterngsociety.com

#สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง #รีวิวหนังไทย #หนังไทยน่าดู

รีวิวภาพยนตร์เรื่อง วอน (เธอ)

ภาพยนตร์เรื่อง วอน (เธอ) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวดราม่า โรแมนติก ผลงานการกำกับของ สุโกสินทร์ อัครพัฒน์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นมีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร ที่มารับบทเป็น เดี่ยว นักศึกษาหนุ่ม ที่เป็นคนอบอุ่น เอาใจ ดูแล เทคแคร์ และเขาก็อยากที่จะเข้าใจคนที่เขารัก โดยเดี่ยวตกหลุมรักเนเน่ แต่เดี่ยวก็ได้แต่แอบรักเพื่อน คนต่อมาคือเซ้นต์-ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา มารับบทเป็น โอม หนุ่มแบดบอย ที่อยากทําทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยเขามีความเชื่อว่ารูปลักษณ์ภายนอกไม่เกี่ยวกับจิตใจ เขาจึงพยายามทุ่มเททุกอย่างให้เพื่อนและคนรัก ถึงแม้บางครั้งเขาจะต้องแบกความรู้สึกไว้คนเดียวเสมอ คนต่อมาคือพีค-ภีมพล พาณิชย์ธำรง มารับบทเป็น ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบในความรู้สึกของเนเน่ เพราะเขานั้นเป็นคนที่เนเน่รัก แต่สําหรับบิวแล้ว เนเน่ก็เป็นแค่เพื่อน และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือฟ้า-ษริกา สำรทศิลป์ศุภา มารับบทเป็น เนเน่ สาวสวยช่างฝันที่พยายามค้นหาคนที่จะรักเธอและใช้ชีวิตอย่างที่เธอต้องการ โดยหลังเข้ามหาวิทยาลัยเนเน่ก็ได้เจอเพื่อนใหม่ และเจออะไรใหม่ๆมากมาย ที่ทําให้เธออยากลองใช้ชีวิตให้เต็มที่ โดยภาพยนตร์เรื่อง วอน (เธอ) เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2563

เนื้อเรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่อง วอน (เธอ)

ภาพยนตร์เรื่อง วอน (เธอ) เปิดเรื่องราวมาที่ เนเน่ สาวสวยทรงเสน่ห์ที่เป็นศูนย์กลางทำให้ที่มีหนุ่มๆ ต่างพากันมาหมายปองในตัวเธอ ทั้งเดี่ยว หนุ่มขี้อายที่หลงรักเนเน่ตั้งแต่แรกเห็น บิว เพื่อนรักของเดี่ยวที่เป็นตัวแปรสำคัญในความสัมพันธ์ครั้งนี้และโอม หนุ่มหล่อที่แสนจะเพลย์บอยที่ถึงจะมาทีหลังแต่กลับสานสัมพันธ์กับเนเน่ได้อย่างรวดเร็วกว่าคนอื่น แต่แล้วเมื่อความรักของเนเน่นั้น สามารถมีให้ได้แค่คนเดียวแล้วสุดท้าย เนเน่ เธอจะเลือกใคร เรื่องราวความสัมพันธ์ครั้งนี้จะมีบทสรุปอย่างไร ต้องติดตามชมใน เรื่อง วอน (เธอ)

ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์เรื่อง วอน (เธอ)

ส่วนที่ชอบเลยสำหรับหนังเรื่องนี้คือเรื่องขององค์ประกอบศิลป์และเพลงประกอบที่ทางหนังได้นำเสนอออกมาอย่างดี ส่งผลต่ออารมณ์ของหนังและเปรียบเสมือนตัวแทนบอกถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัว นอกจากนี้หนังยังสามารถถ่ายทอดเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อนและความรัก ที่วัยรุ่นต้องเผชิญ ต้องเรียนรู้ และต้องก้าวผ่าน รวมๆแล้วก็คือเป็นหนังรักสไตล์วัยรุ่นที่มีอะไรให้คนดูอย่างเราๆได้เห็นมากกว่า การเล่าความรักกุ๊กกิ๊ก สำหรับภาพยนตร์เรื่อง วอน (เธอ)

คะแนนของเรื่องนี้ 8/10

อ้างอิงภาพจาก www.sanook.com

#รีวิว วอน (เธอ) #รีวิวหนังไทย #หนังไทยน่าดู

รีวิวภาพยนตร์เรื่อง โกงพลิกเกม Game changer

ภาพยนตร์เรื่อง โกงพลิกเกม Game changer เป็นภาพยนตร์ไทยแนวระทึกขวัญ คอมเมดี้ ดราม่า ผลงานการกำกับของ ทิวา เมยไธสง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นพิทวัส พฤกษกิจ ที่มารับบทเป็น ตี๋ คนต่อมาคืออิศรา กิจนิตย์ชีว์ มารับบทเป็น คิด คนต่อมาคือซิม คิวเท มารับบท ซิม และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือพัทธ์ พิเชษฐ์วรวุฒิ มารับบท ตึก  ภาพยนตร์เรื่อง โกงพลิกเกม Game changer เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2564

เนื้อเรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่อง โกงพลิกเกม Game changer

ภาพยนตร์เรื่อง โกงพลิกเกม Game changer เปิดเรื่องราวมาที่ เมืองที่มีแก๊งมากมายอยู่รวมกัน ซึ่งแต่ละแก๊งก็ต่างยึดครองและทำธุรกิจมืดที่ต่างกันไป มันจะไม่อะไรเลยหากแต่ทุกแก๊งก็ต่างมหิวกระหายอำนาจที่อยากจะครอบครองเมือง ซึ่งคนที่ทำให้แก๊งต่างๆ อยู่ด้วยกันได้โดยไม่เกิดสงครามขึ้นนั้นก็คือ บอส ผู้ซึ่งเป็นนายใหญ่และทำหน้าที่ในการเก็บเงินสกปรกจากทุกแก๊งเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างแก๊ง และนอกจากนี้บอสยังดูแลในเรื่องของกฎหมายและพวกนอกกฎหมายอีกด้วย โดย ตี๋, คิด, ตึก และซิม เด็กติดเกมทั้ง 4 คน ที่ก็ใช้ชีวิตปกติจนวันหนึ่งมีเหตุการณ์บางอย่างมาทำให้ทั้ง 4 คนได้กลายเป็นลูกน้องคนสนิทของบอส แต่แล้วอยู่ๆวันหนึ่งบอสก็ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ในขณะที่ ตี๋ กำลังจะบอกข่าวนี้กับทุกคน แต่ คิด ก็ได้หยุดเขา และเริ่มแผนการที่จะเปลี่ยนเกมชีวิตพวกเขาทั้ง 4 คน เมื่อทั้ง 4 คนตัดสินใจเก็บเรื่องการตายของบอสไว้เป็นความลับ และยังแสร้งทำเป็นว่าบอสยังมีชีวิตอยู่ โดยทั้ง 4 เริ่มดำเนินธุรกิจตามปกติ โดยใช้ชื่อบอสเรียกเก็บเงินจากแก๊งต่างๆ ถึงแม้ในใจพวกเขาทั้ง 4 จะกลัวแค่ไหนแต่พวกเขาก็ยังคงตัดสินใจดำเนินแผนต่อไป แล้วพวกเขาจะเดินแผนการยึดเมืองและทำหน้าที่แทนบอสได้สำเร็จหรือไม่ ต้องติดตามชมใน เรื่อง โกงพลิกเกม Game changer

ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์เรื่อง โกงพลิกเกม Game changer

อย่างแรกเลยที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจก็คือการดึงตัวยูทูปเบอร์คนดังมาเล่นหนัง ซึ่งเมื่อได้มาดูก็พบว่าพล็อตเรื่องไม่ได้มีความแปลกใหม่หรือว้าวอะไรมากมาย แต่ก็ยังสามารถดูได้เรื่อยๆ เพราะหนังเล่าเรื่องดี บวกกับความฮาของนักแสดงแต่ละคนที่ทำให้หนังยิ่งดูมีอะไรเพิ่มขึ้น แนะนำใครอยากหาหนังฮาๆ เบาสมอง ก็ลองดูนะคะ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง โกงพลิกเกม Game changer

คะแนนของเรื่องนี้ 7/10

อ้างอิงภาพจาก www.movie123-days.com

#หนังไทยน่าดู #รีวิวหนังไทย #โกงพลิกเกม Game changer

รีวิวภาพยนตร์เรื่อง I Can Speak (2017)

ภาพยนตร์เรื่อง I Can Speak (2017) เป็นภาพยนตร์แนว ตลก ดราม่า โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นนามุนฮี ที่มารับบทเป็น นาอ๊คบุน คุณยายวัย 73 ที่เปิดร้านตัดเสื้อเล็ก ๆ อยู่ในตลาดเก่าของชุมชน โดยเธออยู่ตัวคนเดียวและมักจะคอยสอดส่องปัญหาชุมชน เพื่อทำเรื่องร้องเรียนพร้อมหลักฐานส่งสำนักงานเขตให้รัฐเข้ามาแก้ไข และด้วยความที่คุณยายเป็นคนจริง จึงขยันร้องเรียนเรื่องแบบมืออาชีพไม่มีหยุดหย่อนมาตลอด 20 ปี คนต่อมาคืออีเจฮุน มารับบทเป็น พัคมินแจ เจ้าหน้าที่รัฐสำนักงานเขต ที่เพิ่งย้ายมาจากเขตอื่น เขาอยู่ในตำแหน่งระดับ 9  มีเป้าหมายที่อยากสอบเลื่อนขั้นเป็นระดับ 7 โดยเขาเป็นคนเก่ง เรียนจบอเมริกา มีความสุภาพเรียบร้อย มินแจอยู่กับน้องชายที่อายุห่างกันเยอะ และไม่ได้อยู่ด้วยกันมาก่อน จึงค่อนข้างจะเข้าไม่ถึงใจน้องชาย โดยภาพยนตร์เรื่อง I Can Speak (2017) เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2560

เนื้อเรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่อง I Can Speak (2017)

ภาพยนตร์เรื่อง I Can Speak (2017) เปิดเรื่องราวมาที่ พัคมินแจ เจ้าหน้าที่ระดับ 9 คนใหม่ของสำนักงานเขตกรุงโซล ที่เป็นคนฉลาดและเจ้าระเบียบ โดยการย้ายมาทำงานในสำนักงานเขตแห่งใหม่นี้ เขาก็ต้องยอมยกธงขาวให้กับ ยายนาอกบุน คุณยายเจ้าของร้านเย็บผ้าในตลาด บุคคลในตำนานเป็นที่กล่าวขานของคนในละแวกนั้น รวมถึงสำนักงานเขต ในเรื่องของการเป็นนักร้องไมค์ทองคำ เพราะเธอร้องเรียนทุกเรื่องที่เธอเห็นว่ามันไม่ถูกกฎระเบียบ ตั้งแต่เรื่องเล็กยันเรื่องใหญ่ และหนุ่ม พัคมินแจ ก็กลายเป็นเหยื่อรายใหม่ของเจ้าหน้าที่คนอื่น ที่จะโยนให้เขาเป็นคนรับเรื่องร้องเรียน การปรับปรุงพื้นที่ตึกและตลาดที่ ยายนาอกบุน เปิดกิจการอยู่ไปทำแทน แต่คนฉลาดอย่าง มินแจ นั้นก็ได้หาทางออกให้กับตัวเองและสำนักงานเอาไว้แล้ว แม้เรื่องราวการร้องเรียนของ ยายนาอกบุน จะถูกแก้ไขไปได้ แต่ พุคมินแจ กลับต้องเจอกับปัญหาใหม่ของ ยายนาอกบุน นั่นก็คือ เธอขอร้องให้เขาช่วยสอนภาษาอังกฤษให้กับเธอ เพราะเธอจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารสิ่งสำคัญออกไป แล้วสิ่งสำคัญที่เธอต้องการจะสื่อสารคืออะไร ต้องติดตามชมกันใน ภาพยนตร์เรื่อง I Can Speak (2017)

ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์เรื่อง I Can Speak (2017)

หนังเรื่องนี้เป็นหนังดีของเกาหลีอีกเรื่องหนึ่งเลย เนื้อเรื่องสามารถผูกโยงประเด็นหลากหลาย เข้าหากันได้อย่างลงตัว บทจะฮาก็ได้ฮาท้องแข็ง บทจะเข้าดราม่าก็มีเสียน้ำตา เรียกว่าครบเครื่องทั้งสาระและความบันเทิง สำหรับภาพยนตร์เรื่อง I Can Speak (2017)

คะแนนของเรื่องนี้ 9/10

อ้างอิงภาพจาก www.korseries.com

#I Can Speak (2017) #ซีรี่ส์ตลกเกาหลี #แนะนำซีรี่ส์เกาหลี

รีวิวภาพยนตร์ใน Netflix เรื่อง The Unforgivable ตราบาป (2021)

ภาพยนตร์เรื่อง The Unforgivable ตราบาป (2021) เป็นภาพยนตร์แนวอาชญากรรม ดราม่า ผลงานการกำกับของ โนรา ฟิงไชด์ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นแซนดร้า บูลล็อค ที่มารับบทเป็น รูธ สเลเตอร์ อดีตนักโทษ คดีฆาตกรรม ที่ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี แต่เพราะประพฤติดีจึงได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนด แต่ก็ยังมีข้อแม้ห้ามติดต่อญาติของเหยื่ออยู่ คนต่อมาคือแซนดร้า บูลล็อค มารับบทเป็น รูธ สเลเตอร์ สาวที่ทั้งใจกล้าและบ้าบิ่น โดยเธอมีอดีตที่ไม่น่าจดจำ เพราะพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเป็นวัยรุ่น เธอจึงต้องเลี้ยงน้องตามลำพังคนเดียว แต่เพราะคดีฆาตกรรมทำให้เธอพลัดพรากจากน้องสาว คนต่อมาคือวินเซนต์ โดโนฟริโอ้ มารับบทเป็น จอห์น อิงแกรม หัวหน้าครอบครัวที่ย้ายมาอยู่บ้านเก่าของรูธ โดยเขาทำงานเป็นทนาย ที่จิตใจดี และคิดถึงเพื่อนมนุษย์เสมอ คนต่อมาคือเอมมา เนลสัน มารับบทเป็น เอมิลี่ น้องสาวของเคที่ ซึ่งเป็นสาวน้อยน่ารักที่จิตใจดี และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือไวโอลา เดวิส มารับบทเป็น ลิซ อิงแกรม คุณแม่ลูกสอง ที่มีสามีเป็นทนาย โดยครอบครัวของเธอเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเก่าของรูธ เธอเป็นคนฉลาด ไหวพริบดี และรักความถูกต้อง

ภาพยนตร์ The Unforgivable ตราบาป (2021) เป็นภาพยนตร์เมื่อปี

เนื้อเรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่อง The Unforgivable ตราบาป (2021)

ภาพยนตร์เรื่อง The Unforgivable ตราบาป (2021) เปิดเรื่องราวมาที่ รูธ สลาเตอร์ หญิงสาวที่เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ หลังจากที่เธอต้องโทษจองจำฐานฆ่าเจ้าพนักงานเสียชีวิต เป็นโทษระยะเวลาถึง 20 ปี และการได้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมที่ไม่ยอมให้อภัยเรื่องร้ายๆในอดีตของเธอ ทำให้เธอโดนตัดสินอย่างรุนแรงจากที่บ้าน และความหวังเดียวที่จะไถ่บาปนี้ได้คือก็การออกค้นหาน้องสาวที่เธอเองจำใจต้องทิ้งไป ต้องต้องโทษนั้นเอง แล้วเรื่องราวของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องติดตามชมทาง Netflix กับภาพยนตร์เรื่อง The Unforgivable ตราบาป (2021)

ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์เรื่อง The Unforgivable ตราบาป (2021)

โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวผ่านนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ เนื้อเรื่องจะสอดแทรกภาพความทรงจำในอดีตตัวละคร ซึ่งตัวละครแต่ละตัวก็มีปมเป็นของตัวเอง ที่ค่อนข้างจะหดหู่ แต่ความน่าสนใจและทำให้ดูต่อได้ก็คือ การที่เราอยากจะเอาใจช่วยให้นักโทษสาวอย่าง รูธ สามารถชดเชยความรู้สึกผิดกับการทอดทิ้งน้องสาวและเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้นั้นเอง ใครที่ยังไม่เคยดูก็ลองหามาดูนะคะ กับภาพยนตร์เรื่อง The Unforgivable ตราบาป (2021)

คะแนนของเรื่องนี้ 8/10

อ้างอิงภาพจาก www.truemovie2u.com

#The Unforgivable (2021) #หนัง Netflix ห้ามพลาด #หนังดีขึ้นหิ้ง

รีวิวภาพยนตร์ใน Netflix เรื่อง Out Of My League รักสุดเอื้อม (2021)

ภาพยนตร์เรื่อง Out Of My League รักสุดเอื้อม (2021) เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ อลิเช ฟิลิปปี โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นลูโดวีกา ฟรานเชสโคนี ที่มารับบทเป็น มาร์ต้า สาวที่เป็นโรคทางพันธุกรรม มิวโควิสซิโดซิส ทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าเสมอ โดยมาร์ต้าเรียนจิตวิทยาและทำงานพาร์ตไทม์เป็นคนประกาศในร้านสะดวกซื้อ คนต่อมาคือจูเซปเป มาจโจ มารับบทเป็น อาร์ทูโร่ เซลว่า หนุ่มหล่อบ้านรวยที่เรียนวิศวกรรมทางทะเล เขาอยู่ชมรมพายเรือและขี่ม้าซึ่งเป็นชีวิตตามแบบที่ครอบครัวอยากให้เป็น นิสัยของเขาคือเป็นคนหยิ่งยโส แต่ภายในโหยหาความรักที่จริงใจ คนต่อมาคือกายา มาชาเล มารับบทเป็น เฟเดริก้า เลสเบี้ยนสาวที่เปิดตัวกับครอบครัวตั้งแต่อายุ 13 โดยเธอเป็นคนมั่นใจในตัวเองเสมอ ละคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือโยเซฟ จียูรา มารับบทเป็น ยาโคโป้ เกย์หนุ่มสายแฟชั่น เพื่อนรักของมาร์ต้า ภาพยนตร์ Out Of My League รักสุดเอื้อม (2021) เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2564

เนื้อเรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่อง Out Of My League รักสุดเอื้อม (2021)

ภาพยนตร์เรื่องOut Of My League รักสุดเอื้อม (2021) เปิดเรื่องราวมาที่ มาร์ต้า สาวสวยที่มองโลกในแง่ดีเสมอ โดยเธอป่วยด้วยโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยากเธอจึงพยายามใช้ชีวิตให้คุ้ม และมองหารักแท้อย่างจริงจังความฝันของเธอคือได้เดทกับหนุ่มสักคน จนกระทั่งเธอได้พบกับ อาร์ทูโร่ เซลว่า หนุ่มหล่อมาดแบดบอยที่เธอหมายมั่นว่าจะต้องเดทกับเขาให้ได้ จะเริ่มการตามติดเขา แล้วเรื่องราวความรักของเธอจะเป็นอย่างไร เธอจะเธอสมหวังหรือไม่ แล้วอาการป่วยที่ย่ำแย่ลงกว่าเดิมจะเป็นอุปสรรคที่ต้องจะแก้ไขอย่างไร ตามไปลุ้นกับความรักของเธอได้ ทาง Netflix กับภาพยนตร์เรื่องOut Of My League รักสุดเอื้อม (2021)

ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์เรื่อง Out Of My League รักสุดเอื้อม (2021)

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังรักจากอิตาลี ที่ดัดแปลงจากนิยายชื่อดังอย่าง Sul più Bello ของ เอเลโอนอรา กัจเจโร แล้วยังได้เข้าชิงรางวัลดาวิด ดี โดนาเทลโล อีกด้วยจากการเล่าเรื่องผ่านความรักของหญิงสาวที่ป่วย และการพยายามเพื่อความรักของเธอ ส่วนตัวมองว่าหนังทำออกมาได้ดี ทั้งพล็อตเรื่อง นักแสดง และโทนของภาพ แถมดูจบเรายังจะได้ข้อคิดด้านความรักและการชีวิตกลับมาอีกด้วย ในพยนตร์เรื่อง Out Of My League รักสุดเอื้อม (2021)

คะแนนของเรื่องนี้ 8.5/10

อ้างอิงภาพจาก www.flixboss.com       

#ดูหนัง Netflix #Out Of My League #หนังรักสุดฟิน