รีวิว moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก
เมื่อพูดถึงหนังเกี่ยวกับภัยพิบัติหรือมหันตภัยต่างๆ คงต้องมีชื่อของผู้กำกับคนนี้ลอยขึ้นมาบ้างแหละนั่นก็คือ “โรแลนด์ เอมเมอริช” ที่เปรียบเสมือนเจ้าพ่อแห่งหนังหายนะจอมทำลายล้าง ที่ทำลายล้างมาแล้วหลายรูปแบบ โดยเขาเคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วทั่วโลกอย่าง “ID4: Independence Day สงครามวันดับโลก (1996), “The Day After Tomorrow วิกฤติวันสิ้นโลก” (2004) และ “2012 วันสิ้นโลก” (2009) และในปีนี้เขากลับมาอีกครั้งกับ หนังหายนะเรื่องใหม่ใน “Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก”
โดยหนังเรื่องนี้เป็นหนังหายนะที่ว่าด้วยเรื่องของ ดวงจันทร์ที่ได้หลุดวงโคจรและกำลังจะพุ่งชนโลก จึงทำให้เกิดมหาวิบัติมากมายทั้ง สึนามิ , แผ่นดินไหว, อุกกาบาตชนโลก, หรือแม้กระทั่ง การหายไปของออกซิเจน ทั้งหมดจะเกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ และความหวังเดียวของมวลมนุษยชาติคือ 3 ผู้กล้า อย่าง ไบรอัน ฮาร์เปอร์ (นำแสดงโดย แพทริก วิลสัน Patrick Wilson) ฟาวล์ (นำแสดงโดย ฮัลลี เบอร์รี Halle Berry) และเคซี เฮาส์แมน (นำแสดงโดยจอห์น แบรดลีย์ John Bradley) ที่ต้องขึ้นไปยับยั้งหายนะในครั้งนี้เพื่อช่วยเหลือมนุษย์บนโลกเอาไว้เพื่อไม่ให้ดวงจันทร์ที่หลุดวงโคจรมาพุ่งชนโลก

โดยส่วนตัวถือว่าชอบหนังเรื่องนี้ในระดับนึง สามารถคลายเครียดได้ดี ไม่ได้วิทยาศาสตร์จ๋าๆ ชอบทฤษฎีเกี่ยวกับดวงจันทร์ที่หนังสมมติขึ้น มันรู้สึกแปลกดี ที่ให้ดวงจันทร์กลายเป็นสิ่งของบรรพบุรุษมนุษย์เมื่อหลายล้านปีก่อน และสิ่งที่มาโจมตีก็คือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นนาโนเทคโนโลยี จึงทำให้มันล้ำสมัยกว่ายุคปัจจุบันของมนุษย์มาก ถึงแม้มันจะดูโคตรเวอร์ก็เหอะ แต่ก็ถือว่าหนังมันพาทฤษฎีนี้ไปจนสุดทาง โดยรวมแล้วก็ไม่ได้ถึงกับแย่ แต่ถ้าพูดถึงด้านตัวละครบางตัว อาจะไม่ค่อยสมเหตุสมผล แบบเจอภัยพิบัติกลับยืนดูหน้าตาเฉย ไม่ได้มีความทุกข์ร้อนหรือกลัวอะไรเลย คือหนังโฟกัสแต่การหยุดมัน แต่ไม่มีฉากที่แสดงถึงความหวาดกลัวอะไรเลย ตัวละครหลักๆนี่ชิวมากๆ ตัวเรื่องดำเนินเร็วมาก แต่ก็ดีที่ทำให้หนังไม่ยืดเยื้อ
ในส่วนของงานภาพ ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังภัยพิบัติของ Roland Emmerich งานภาพต้องอลังการ เล่นใหญ่จัดเต็ม ซึ่งสเกลของมันก็ยิ่งใหญ่จริงๆ งานภาพสวยมากๆ แต่ถ้าเทียบกับหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์เรื่องอื่นๆ เรื่องนี้ก็ถือว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ภาพที่ออกมาสวย องค์ประกอบภาพในฉากต่างๆมันโอเคแล้ว อลังการงานสร้าง ยิ่งใหญ่โคตรๆ
สรุปรีวิว โดยรวมทั้งหมดแล้วเราว่าเราชอบหนังเรื่องนี้นะ รู้สึกว่ามันสนุกและบันเทิงดี ดูคลายเครียดได้ดีเลย ถึงเนื้อเรื่องจะดูซ้ำซากเหมือนกับหนังหายนะเรื่องอื่นๆ แต่จุดเด่นจริงๆความกล้าคิดกล้าทำของผู้กำกับ ที่หยิบเอาสิ่งที่อยู่ในดวงจันทร์มาเล่นนี้แหละ ที่ทำให้หนังเรื่องหายนะเรื่องนี้มันล้ำหน้าเกินกว่าหนังหายนะเรื่องอื่นๆ
ภาพจาก : Me Review
ภาพจาก : naewna.com
#หนังภัยพิบัติ #รีวิว moonfall #วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก