• Home
  • Author: karc1

ฝ่าโลก 20,000 ปี ที่จะพาคุณไปผจญภัยในยุคน้ำแข็ง

หลายท่านอาจจะเคยชมภาพยนตร์ที่มีบรรยากาศเป็นช่วงยุคน้ำแข็งกันมาบ้างแล้ว สำหรับเรื่อง ALPHA (2018) ผจญนรกแดนทมิฬ 20,000 ปี ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะพาคุณย้อนกลับไปดูการใช้ชีวิตในช่วงยุคที่โลกยังมีผู้คนไม่มาก และน้ำแข็งปกคลุมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งช่วงนั้นจะเป็นฤดูที่หนาวเหน็บ อย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้แต่สัตว์ก็ยังใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบากเช่นกัน เพราะนอกจากอากาศจะหนาวเหน็บแล้ว ยังหาอาหารได้ยากอีกด้วย ผู้คนจึงต้องเตรียมตัวกันเอาไว้ตั้งแน่เนิ่นๆ ในการกักตุนและหาเสบียงไว้ใช้ในช่วงฤดูหนาว และต้องมีจำนวนพอเพียงสำหรับทุกคนในเผ่า เพื่อให้พร้อมรอหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึงในอีกหลายเดือนข้างหน้า

ภาพจาก tv.apple.com

สำหรับภาพยนตร์ เรื่อง ALPHA (2018) จะกล่าวถึงเด็กหนุ่มที่มีชื่อว่า เคดา (รับบทโดย โคดี สมิธ แมคฟี) เขาเป็นคนหนุ่มรุ่นต่อไปที่จะต้องสืบทอดวิถีการใช้ชีวิตจากผู้ใหญ่ในเผ่าเพื่อความอยู่รอดของทุกคน จึงจำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ ทั้งการทำอุปกรณ์ล่าสัตว์ การเดินทาง การล่าสัตว์ และการใช้ชีวิตอยู่ในท่ามกลางความหนาวเย็น และเขาต้องออกไปล่าสัตว์เมื่อถึงฤดูกาลเพื่อพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชาย ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง เผ่าของเคดามีชื่อว่า โซลูเทรียน และต้องออกไปล่าควายไบซันเพื่อนำกลับมาเป็นอาหาร และเคดายังเป็นลูกชายของหัวหน้าเผ่านามว่า เทา (รับบทโดย โยฮันเนส ฮาวเกอร์ โยฮันเนสสัน) ซึ่งเทาคาดหวังจะให้ลูกล่าสัตว์ได้สำเร็จและพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายได้อย่างเต็มภาคภูมิ ในระหว่างทางเขาจึงพยายามถ่ายทอดสิ่งต่างๆ เพื่อให้เคดาสามารถนำไปใช้ในการเอาตัวรอด

ภาพจาก monsterarchaeologist.wordpress.com

แต่ในระหว่างการล่าควายไบซันเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เคดาถูกควายขวิดและตกลงไปจากหน้าผ่าสูงชัน จนตัวหล่นไปติดกับแหง่หินและสลบไป แต่เทาผู้เป็นพ่อคิดว่าเขาตายแล้ว จึงเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่จำเป็นต้องทิ้งศพเขาไว้ เพื่อเดินทางกลับไปยังเผ่าก่อนที่หิมะจะตกลงมา เคดาฟื้นขึ้นมาพบว่าตนเองนอนอยู่ริมหน้าผาสูง และขาข้างหนึ่งหัก เขาพยายามเรียกหาพ่อแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ ขณะนั้นฝนก็กำลังตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เคดาพลัดหล่นลงไปในสายน้ำเบื้องล่าง

ภาพจาก nytimes.com

มาร่วมลุ้นกันต่อว่าเคดาจะสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์นี้อย่างไร และเดินทางกลับไปยังเผ่าสำเร็จก่อนที่หิมะจะตกลงมาหรือไม่ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในการเดินทางออกจากเผาของเขา ที่สำคัญเขายังขาดประสบการณ์อีกด้วย โดยรวมแล้วเหมือนจะเป็นหนังแนวผจญภัย แต่เอาเข้าจริงพระเอกของเรื่องไม่ได้ผจญภัยอะไรมาก หากถามว่าแล้วหนังพอดูได้ไหม ถ้าดูเอาแบบสนุกๆ แก้เบื่อและไม่คาดหวังอะไรมากก็พูดได้ว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ถึงกับแย่จนเกินไป

#ซีรี่ย์เกาหลี #netflix #ซีรี่ย์จีน #ฝ่าโลก 20000 ปี

The Gray Man หนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ สุดมัน

The Gray Man มีชื่อภาษาไทยว่า “ล่องหนฆ่า” หนังแนวแอ็คชั่น, สายลับ, บู้, ระทึกขวัญสั่นประสาท เป็นภาพยนตร์ที่ทาง Netflix ใช้ทุนสร้างสูงสุดกันเลยทีเดียว โดยได้ โจ รุสโซ (Joe Russo)  และ แอนโธนี รุสโซ (Anthony Russo) มากำกับ เขียนบท และเป็นโปรดิวเซอร์ ถ้าอ่านชื่อไทยหลายคนคงนึกไปถึงหนังประเภทอภินิหารหรือไม่ก็มีพลังพิเศษที่สามารถล่องหนได้เป็นแน่ แต่เนื้อเรื่องจริงๆ ก็จะเป็นหนังบู้ฆ่าล้างแค้นที่ตัวเอกเก่งแบบสุดๆ อาจแนวๆ เดียวกับจอห์นวิก แต่เขาไม่มีตัวตนอยู่ในโลกความจริง เป็นเหมือนต้องอยู่แบบไร้ประวัติไม่มีข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้นในโลกให้ค้นหาได้ เพื่อจะได้ทำอาชีพนักฆ่าได้โดยไม่มีใครทราบว่ามาจากไหนไม่มีใครค้นหาและตามเจอ จะได้ไม่มีการสืบสาวไปถึงต้นต่อที่จ้างมานั่นเอง

ภาพจาก netflix.com

หนังเริ่มต้นเรื่องโดยกล่าวถึง Six (รับบทโดย ไรอัน กอสลิ่ง Ryan Gosling) นักฆ่าล่องหนที่ทำงานให้กับซีไอเอ ในช่วงแรกเขาถูกจับขังไว้ในคุกในฐานะนักโทษคนหนึ่ง แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้รับเสนองานเพื่อแลกกับอิสรภาพ โดยเขาต้องมาเป็นนักฆ่าตามที่ได้รับคำสั่ง เป็นใครก็คงรับทำเพราะเป็นงานที่ถนัดอยู่แล้วก็คงดีกว่าติดอยู่ในคุก Six ออกมาทำหน้าที่นักฆ่าให้กับหน่วยงานเป็นเวลานาน จนมาวันหนึ่งเขาได้รับภารกิจให้สังหารชายลึกลับคนหนึ่ง แต่ก่อนที่ชายคนนั้นจะตายเขาได้บอกความลับบางอย่างกับ Six พร้อมเปิดเผยตัวตนจริงๆ ของเขาว่าเป็นใคร รวมทั้งได้มอบสิ่งของบางอย่างที่เป็นที่ต้องการของผู้ที่จ้าง Six มากำจัดเขา และนี่เองที่ทำให้ Six รู้สึกไม่ชอบมาพากลกับภารกิจต่างๆ ที่เขาได้รับ รวมไปถึงจุดจบของตัวเองในอนาคต

ภาพจาก screenworld.it

จริงๆ แล้วภาพยนตร์เรื่องนี้พล็อตต่างๆ ของเรื่องจะไม่ค่อยแตกต่างจากหนักสายลับหรือนักฆ่าที่ผ่านๆ มาอีกหลายเรื่อง ที่ไล่ล่าตามฆ่ากันแบบดุเดือด ฝั่งคนร้ายตายเป็นจำนวนมากแต่ฝั่งตัวเอกกลับไม่เป็นไรมาก อาจมีบาดเจ็บบ้างเล็กน้อยแต่ก็สามารถยืนยัดต่อไปได้ เกือบเหมือนคนมีพลังพิเศษแต่ก็ไม่ใช่ จะพูดว่าดูเว่อร์เกินไปก็ว่าได้ แต่หนังก็คือสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิง ตัวเอกจะมาเจ็บสู้ไม่ได้ก็คงหมดสนุก ซึ่งฉากต่างๆ ภายในเรื่องทำออกมาดีพอสมควรเลยทีเดียว เนื่องเรื่องเข้าใจง่าย ดำเนินเรื่องไปเร็ว ตัวร้ายแอบโรคจิตหน่อยๆ ที่เห็นการฆ่าสนั่นเมืองเป็นเหมือนเรื่องธรรมดา เพียงแค่ให้บรรลุเป้าหมายก็พอ ถ้าไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวเนื้อเรื่องมาก ดูแบบมันส์ก็เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่น่าสนใจ ใครชอบดูหนังแนวนี้บอกเลยต้องห้ามพลาด

#ซีรี่ย์เกาหลี #netflix #ซีรี่ย์จีน #The Gray Man

Death on the Nile พาคุณไขปริศนาฆาตกรรมในแม่น้ำไนล์

Death on the Nile (2022) ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์ เป็นเรื่องราวที่สร้างจากนิยายฆาตกรรมที่โด่งดังของนักเขียน อกาธา คริสตี (Agatha Christie) ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1937 และเคยถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มาแล้วในปี 1978 นอกจากนี้ยังเคยฉายทางทีวีในช่วงปี 2004 กันอีกด้วย เป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดย เคนเน็ธ บรานาห์ (Kenneth Branagh) และเขายังเป็นหนึ่งในนักแสดงเจ้าบทบาทยอดนักสืบอัจฉริยะ ที่มาพร้อมหนวดเฟี้ยวเป็นเอกลักษณ์นามว่า ปัวโรต์ ซึ่งคราวนี้เขาจะมาไขคดีปริศนาฆาตกรรมบนเรือหรูกลางลำน้ำไนล์ ที่ผู้คนบนเรือเกือบทั้งหมดดูเป็นผู้น่าสงสัย

ภาพจาก tvinsider.com

สำหรับภาพยนตร์ Death on the Nile เป็นเรื่องต่อจากนิยายแนวสืบสวนของ อกาธา คริสตี้ ที่ บรานาห์หยิบมาทำต่อจากเรื่อง Murder on the Oreint Express ซึ่งในตอนจบของภาคนั้น มาดามยูฟีเมีย ( แอนเนธ เบนนิ่ง) ได้เชิญให้ แอร์กูล ปัวโรต์  (เคนเนธ บรานาห์) มาที่อียิปต์ เพื่อมาสืบเรื่องราวเกี่ยวกับปูมหลังของผู้หญิงที่บุ๊ค (ทอม เบธแมน) เพื่อนรักของปัวโรต์หลงรัก หรือก็คือ โรซาลี่ (เลทิเทีย ไวท์)

ภาพจาก lwlies.com

โดยปัวโรต์บังเอิญไปขึ้นเรือสำราญที่กำลังแล่นไปบนแม่น้ำไนล์ เพราะดันไปเจอกับเพื่อนเก่าอย่างบุ๊ค (Bouc) ซึ่งเขาได้ชวนให้ร่วมทริปเดินทางท่องเที่ยวฮันนีมูนของเพื่อนเขาบนเรือลำนี้ แต่ในระหว่างการล่องเรืออันแสนสงบสุข อยู่ๆ ในเช้าวันหนึ่งดันเกิดการฆาตกรรมขึ้น ทำให้การพักผ่อนในครั้งนี้ต้องกลายมาเป็นการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดย ปัวโรต์ ต้องทำการสืบคดี ค้นหาข้อมูล และนำเรื่องราวต่างๆ มาปะติดปะต่อกันเพื่อไขปริศนา และตามหาฆาตกรตัวจริงในระหว่างที่เรือล่องผ่านวิวทิวทัศน์และวัฒนธรรมต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของอียิปต์ตลอดทั้งเส้นทาง ก่อนที่จะมีใครจะได้รับอันตรายไปกว่านี้

ภาพจาก noguiltfangirl.com

หากดูช่วงแรกๆ คุณอาจจะรู้สึกว่าเรื่องดำเนินไปค่อนข้างช้า กว่าจะเข้าเนื้อหาหรือจุดสำคัญๆ แต่จริงๆ แล้วหนังเพียงต้องการเล่าเรื่องให้คุณทราบถึงความเป็นไปของตัวละคร เพื่อให้คนดูทราบว่าตัวละครแต่ละคนมีนิสัยเป็นอย่างไรกันบ้าง หนังออกแนวอยากให้คนดูได้ร่วมจินตนาการและสืบหาคนร้ายไปพร้อมๆ กับ ปัวโรต์ นั่นเอง ในช่วงแรกจึงดูเหมือนไม่มีอะไรและไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่นัก แต่เชื่อเถอะว่าใครดูเรื่องนี้พอหนังเริ่มแสดง คุณจะต้องพยายามจับตาดูตัวละครที่เข้ามาในฉากและพยายามจับผิดว่าใครดูน่าสงสัยที่สุดอย่างแน่นอน

ใครชอบดูหนังประเภทแนวนักสืบ ที่คนดูได้ร่วมจินตนาการหรือคาดเดาตัวคนร้ายไปด้วย บอกได้เลยว่าดูเรื่องนี้คุณจะรู้สึกสนุกและตื่นเต้นได้ลุ้นและเอาใจช่วย บัวโรต์ ไม่แตกต่างจากภาคแรกกันเลยทีเดียว

#ซีรี่ย์เกาหลี #netflix #ซีรี่ย์จีน

รีวิวซีรี่ย์เรื่อง To Fly With You (2021) สเก็ตหัวใจให้ถึงฝัน

ซีรี่ย์เรื่อง To Fly With You (2021) สเก็ตหัวใจให้ถึงฝัน เป็นซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก วัยรุ่น ผลงานการกำกับของ ชาเหวยฉี โดยซีรี่ย์เรื่องนี้มีนักแสดงมากความสามารถมาแสดงนั้นก็คือหวังอันอวี่ ที่มารับบทเป็น เส้าเป่ยเซิง หนุ่มหล่อดีกรีนักกีฬาไอซ์สเก็ตของทีมจู๋เฟิง โดยเขาถือได้ว่าเป็นนักกีฬาตัวเต็งที่เดินสาวกวาดรางวัลชนะเลิศและมีชื่อเสียงโด่งดังจนกลายเป็นที่รู้จัก นิสัยส่วนตัวของเขาคือเขาจะเคร่งครัดกับตัวเอง ขี้เล่น จนบางทีกลายเป็นคนที่ชอบกวน แต่ก็มีน้ำใจและรักเพื่อร่วมทีม คนต่อมาคือซงจู่เอ๋อร์ ที่มารับบทเป็น เสิ่นเจิงอี สาวน้อยหน้าตาหน้ารักที่ต้องการจะเข้าทีมไอซ์สเก็ตของมหาวิทยาลัยหลิ่งเป่ย โดยเธอมุ่งมั่นและฝึกฝนมาเป็นเวลากว่า 10 ปี จนถือได้ว่าเป็นผู้เล่นที่มีเทคนิคและประสบการณ์ แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับไม่ตรงตามเกณฑ์มาตรฐานของทีมจู๋เฟิง นิสัยส่วนตัวของเธอคือ มองโลกในแง่ดี มุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ซีรี่ย์เรื่อง To Fly With You (2021) สเก็ตหัวใจให้ถึงฝัน สามารถรับชมได้ผ่านทาง WeTV

เนื้อเรื่องย่อของซีรี่ย์เรื่อง To Fly With You (2021) สเก็ตหัวใจให้ถึงฝัน

โดยซีรี่ย์เรื่อง To Fly With You (2021) สเก็ตหัวใจให้ถึงฝัน เปิดเรื่องราวมาที่ เสินเจิงอี สาวน้อยที่รักในการเล่นไอซ์สเก็ตมาก ต่อมาเธอได้บังเอิญพบกับเซ่าเป่ยเซิง ซึ่งเป็นนักกีฬาไอซ์สเก็ตฝีมือที่ได้ฉายาว่า “ราชาสเก็ตลีลา” แน่นอนว่า เสินเจิงอี เธอก็ชื่นชมเขามากจนอยากจะเป็นนักแข่งมืออาชีพให้ได้เหมือนเขา แต่แล้วอะไรๆก็เหมือนจะไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดเมื่อฝีมือการเล่นสเก็ตของเธอยังไม่ตรงตามเป้าของเซ่าเป่ยเซิง แต่ก็ยังดีที่ เซ่าเป่ยเซิง ก็เป็นคนที่คอยช่วยเหลือและฝึกซ้อมให้เธอ แล้วเรื่องราวองทั้งคู่จะเป็นอย่างไร เสินเจิงอี  จะสามารถเป็นนักแข่งไอซ์สเก็ตมืออาชีพได้หรือไม่ ติดตามชมได้ใน ซีรี่ย์เรื่อง To Fly With You (2021) สเก็ตหัวใจให้ถึงฝัน

ความประทับใจหลังดูซีรี่ย์เรื่อง To Fly With You (2021) สเก็ตหัวใจให้ถึงฝัน

ซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นซีรี่ย์แนวตามความฝันของวัยรุ่นที่เล่าเรื่องราวของ นักแข่งไอซ์สเก็ตมืออาชีพ เพราะฉะนั้นคนดูอย่างเราๆ ก็จะได้เห็นถึงการพัฒนาของตัวละคร และทำให้เราอยากที่จะติดตามเอาใจช่วยไปกับพวกเขา นอกจากนี้ส่วนตัวชอบเคมีของพระนาง ที่น่ารัก ดูแล้วฟินตามได้ไม่ยากเลย สำหรับซีรี่ย์เรื่อง To Fly With You (2021) สเก็ตหัวใจให้ถึงฝัน

คะแนนของเรื่องนี้ 7.5/10

อ้างอิงภาพจาก www.viu.com

#ซีรี่ย์เกาหลี #netflix #ซีรี่ย์จีน

KATE (2021) หนังแอ็คชั่นสุดมันส์ที่ไม่ควรพลาด

หากใครชอบภาพยนตร์แอ็คชั่นมันส์ๆ บอกได้เลยว่าเรื่องนี้เหมาะสำหรับคุณ Kate (2021) เคท เป็นผลงานการกำกับของ เซดริค นิโคลาส โทรยัน (Cedric Nicolas-Troyan) ซึ่งเขาเคยมีผลงานมาหลายเรื่อง แต่ที่เป็นที่รู้จักก็อย่างเช่น “The Huntsman : Winter War” เมื่อปี 2016 สำหรับเรื่องนี้ เคท (รับบทโดย แมรี เอลิซาเบธ วินสเตด – Mary Elizabeth Winstead) สาวนักฆ่าฝีมือฉกาจ ที่ถูกเลี้ยงดูและฝึกฝนโดย วอร์ริก (รับบทโดย วูดดี ฮาเรลสัน) เพื่อให้เธอมารับงานเป็นมือสังหารโดยเฉพาะ

ภาพปกจาก movienewhit.com

โดยเริ่มเรื่องแคทได้ใบสั่งให้ไปสังหารหัวหน้าแก๊งยากูซ่าคนหนึ่งที่อยู่ในโอซาก้า ซึ่งเขาเป็นพ่อของเด็กหญิงคนหนึ่งที่ชื่อ อานิ ในวันที่แคทสังหารเธอนั่งอยู่บนรถของพ่อเธอด้วย จึงค่อนข้างเป็นภาพที่สะเทือนใจแคทเป็นอย่างมาก แต่แล้วเธอกับถูกแก๊งยากูซ่าวางยาพิษเพื่อเป็นการล้างแค้น ซึ่งเธอจะมีเวลาเหลือเพียง 24 ชั่วโมงก่อนจะตาย เธอจึงตัดสินใจทำภารกิจสุดท้าย นั่นก็คือตามล่าเพื่อล้างแค้นผู้ที่วางยาพิษและสั่งกำจัดเธอ ซึ่งแคตจะโดนวางยาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของเรื่อง ดังนั้นเกือบตลอดตั้งแต่ต้นจนจบและเป็นช่วงที่เธอออกล่าสังหารผู้ที่คิดว่าเป็นคนของยากูซ่าและมีส่วนในการวางแผนฆ่าเธอ

ภาพจาก entertainment.trueid.net

หนังจึงมันส์ตั้งแต่เริ่มต้นกันเลยทีเดียว เล่นเอาคนดูอาจนั่งไม่ติด แต่อีกอย่างที่อดรู้สึกไม่ได้ก็คือหนังออกแนวเวอร์เล็กน้อย คือแคทจะเก่งมากๆ เก่งแบบสุดๆ จนคนเกือบทั้งแก๊งแทบจะทำอะไรเธอไม่ได้เลย และเธอก็ออกแนวอึด ถึงจะโดนแทงโดนฟัน โดนซ้อมหลายแผลก็ยังไม่ร่วงง่ายๆ แต่ก็มีฉากในเรื่องที่เธอใช้วิธีในการฉีดยากระตุ้นเข้าร่างกาย เพื่อให้สามารถทนต่อความเจ็บปวดและยืนยัดเพื่อหาตัวการต่อไป ในระหว่างนี้เองที่เธอได้พบกับสาวน้อยที่เธอเคยเจอมาก่อนหน้านี้ตอนที่กำลังสังหารพ่ออานิ และเธอก็มีความเชื่อว่าอานิจะพาไปหาตัวคนที่สั่งเก็บเธอได้

ภาพจาก patsonic.com

ซึ่งก็ผิดคาดถึงแม้อานิจะเป็นลูกสาวของหัวหน้าแก๊ง และมีญาติอยู่ในแก๊ง แต่ทุกคนก็พร้อมที่จะสังหารเธอ หากพบว่าอาจเป็นตัวการทำให้ภายในแก๊งปั่นป่วนหรือเดือดร้อน แต่อานิก็ยังยินดีจะช่วยแคทในที่สุด ถึงแม้ในช่วงแรกจะไม่ค่อยพอใจแคทสักเท่าไหร่ เรื่องราวไม่ค่อยมีอะไรมากเป็นการตามฆ่าตามล้างแค้นกันตลอดทั้งเรื่อง เพียงแต่จุดจบยังพอมีอะไรให้ได้ลุ้น โดยเฉพาะเรื่องราวต่อไปของอานิ ที่หนังผูกปมไว้อาจได้ต่อภาคสองก็ตรงนี้หละ ใครชอบดูหนังบู๊โหดๆ แบบเลือดสาด บอกเลยว่าเรื่องนี้ต้องถูกใจคุณ

#ซีรี่ย์เกาหลี #netflix #ซีรี่ย์จีน

แนะนำซีรี่ย์ญี่ปุ่นแนวอาหาร ฟีลกู๊ด อบอุ่นหัวใจ

สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนไปสนุก ฟิน และ หิวไปกับซีรี่ย์ญี่ปุ่นแนวอาหารกันค่ะ ต้องบอกเลยว่าแต่ละเรื่องที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั้นเป็นซีรี่ย์ที่เกี่ยวกับอาหาร ที่คนชอบอาหารญี่ปุ่นไม่ควรพลาด นอกจากเราจะได้เรียนรู้วิธีการทำแล้ว ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมด้านอาหารของชาวญี่ปุ่นไปในตัวอีกด้วย จะมีเรื่องไหนน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย

1.Izakaya Bottakuri 

ซีรีย์ญี่ปุ่นแนวอาหาร ฟีลกู๊ด เป็นเรื่องราวในร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า “Bottakuri” เป็นร้านอาหารที่เรียบง่าย โดยมีเจ้าของคือ “มิเนะ” และ “คาโอรุ” สองสาวพี่น้องที่รับช่วงต่อมาจากคุณพ่อ เมนูอาหารในร้านเป็นเมนูง่าย ๆ แต่รสชาติถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก นอกจากรสชาติอาหารของร้านนี้จะถูกปากลูกค้าแล้ว ยังมีสาเกที่รสชาติดีเลิศไว้คอยต้อนรับลูกค้าอีกด้วย เรื่องราวจะสนุก อาหารจะน่าตาน่าทานขนาดไหนต้องไปติดตามชมกัน

ภาพจาก : IMDb

2.Grand Maison Tokyo สุดยอดเชฟหัวใจแกร่ง

ซีรีย์ญี่ปุ่นแนวอาหาร ดราม่า สู้ชีวิต เป็นเรื่องราวของเชฟฝรั่งเศษผู้มากความสามารถ เขามีนามว่า นัตสึกิ โอบานะ เขาเป็นคนมั่นใจในฝีมือตัวเองเป็นอย่างมาก จนวันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทำให้กลายเป็นคนตกงาน แต่เขานั้นผู้ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตาลุกขึ้นสู้เปิดร้านอาหารอีกครั้ง และได้รู้จักกับ “รินโกะ ฮายามิ”เชฟสาวผู้มากความสามารถ มาร่วมลงทุนสร้างร้านอาหารระดับ 3 ดาวอีกครั้ง ความพยายามของพวกเขาจะสามารถทำให้ฝันของตัวเองเป็นจริงได้หรือไม่ต้องไปติดตามกันค่ะ

ภาพจาก : pantip

3.The Curry Songs 

เป็นเรื่องราวของ โยอิจิโระ ชายหนุ่มที่ไร้งาน ไร้เงิน และไร้บ้าน ที่เดินทางมายังโตเกียวเพื่อมารับอัฐิของพ่อที่เสียชีวิต แต่เขานั้นไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท วันหนึ่งเขาบังเอิญได้เจอกับ “นิตะ” หนุ่มนักศึกษาที่กำลังมีปัญหาอยู่เขาจึงยื่นมือเข้าช่วย “นิตะ” ซาบซึ้งน้ำใจและรู้ว่าเขานั้นกำลังตกอับ จึงให้เขามาอาศัยอยู่ด้วย “โยอิจิโระ” คอยช่วยเหลือ “นิตะ”แทบทุกอย่างแลกข้าวและที่อยู่อาศัย โดยอาหารที่เขาชอบกินมากที่สุดคือข้าวแกงกะหรี่ ซึ่งเรื่องนี้จะถ่ายทอดการแก้ปัญหาต่าง ๆ ผ่านเมนูข้าวแกงกะหรี่หลากหลายเมนูที่แตกต่างกันออกไป ดูแล้วรับรองว่าหิวน้ำลายสออย่างแน่นอน

ภาพจาก : imdb

4.Chef wa Meitantei 

เป็นเรื่องราวของ มิฟุเนะ ชิโนบุ เชฟอาหารฝรั่งเศษที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี เขาได้ลาออกจากงานที่ทำในร้านอาหารที่ฝรั่งเศษ แล้วกลับมาเปิดร้านอาหารฝรั่งเศษที่ญี่ปุ่นแทน เขาเป็นคนสุขุม เยือกเย็น และอบอุ่น เขาต้องการเปิดร้านอาหารที่ทำให้ลูกค้าได้อิ่มท้องและสบายใจ นอกจากนี้เขายังคอยดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดีอีกด้วย หากลูกค้ามีปัญหารบกวนจิตใจ เขานั้นจะใช้อาหารเยียวยา และคำพูดปลอบประโลมช่วยให้สบายใจมากขึ้น

ภาพจาก : pantip

#ซีรี่ย์เกาหลี #netflix #ซีรี่ย์จีน

แนะนำซีรี่ย์เกาหลีพระเอกเป็นองค์รัชทายาท/พระราชา แฟนแนวพีเรียดไม่ควรพลาด

สำหรับบทบาทขององค์รัชทายาทถือเป็น ตัวละครยอดฮิตของซีรี่ย์เกาหลีแนวพีเรียดเลยก็ว่าได้ โดยส่วนมากแล้วคนที่จะได้รับบทบาทนี้ก็คือพระเอกนั่นเองค่ะ เพราะจะมีความออร่า ดูยิ่งใหญ่มีอิทธิพล แถมยังต้องต่อสู้กับอะไรหลายๆอีกด้วย โดยเฉพาะการเมืองในสมัยนั้น ว่าแต่จะมีซีรี่ย์เรื่องไหนที่พระเอกได้รับบทบาทเป็นองค์รัชทายาท/พระราชากันบ้าง ตามไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ

1.100 Days My Prince

เป็นเรื่องราวขององค์รัชทายาทที่โดนลอบฆ่า ซึ่งหนีรอดมาได้แต่ดันความจำเสื่อม จนพ่อนางเอกไปเจอและอ้างว่าเป็นคู่หมั้นของนางเอก เพราะอยากให้นางเอกซึ่งเป็นสาวโสดอายุเยอะคนเดียวของหมู่บ้านมีคู่ครอง ทำให้ต้องแต่งงานกับชายที่ไม่รู้จักและไม่รู้เลยว่าเป็นองค์รัชทายาท ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้ ดีโอ exo หล่อไม่ไหว

ภาพจาก : Pinterest

2.Love in the Moonlight

เป็นเรื่องราวขององค์ชายรัชทายาทหน้าตาหล่อเหลา ฉลาดมีความสามารถ แต่หลังจากที่พระมารดาสิ้นพระชนม์พระเอกก็เปลื่ยนไปกลายเป็นองค์ชายที่ไม่เอาไหน ภายในวังก็มีแต่คนจ้องจะแย่งชิงอำนาจ ส่วนนางเอกหญิงสาวที่กำลังหนีปัญหาได้ปลอมเป็นผู้ชายเพื่อเขาไปเป็นขันทีและได้เจอกับพระเอก เป็นเรื่องราวที่เปิดมาน่ารักสดใส และค่อยๆเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

ภาพจาก : Wikipedia

3.The Crowned Clown

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเอกซึ่งเป็นนักแสดงตลก ถือเป็นชนชั้นต่ำที่สุดในยุคนั้น แต่ดันไปหน้าตาเหมือนกับกษัตริย์มากๆ เลยถูกเรียกตัวให้เข้าวังเพื่อปลอมตัวแทนพระราชาที่อยู่ในอาการหวาดผวา กลัวถูกลอบปลงพระชนม์ เขาต้องเปลี่ยนบุคลิกทุกอย่างให้เหมือนกษัตริย์ และดันไปตกหลุมรักพระมเหสี

ภาพจาก : pantip

4.Rookie Historian Goo Hae Ryung

เป็นเรื่องราวของพระเอกซึ่งเป็นองค์ชายที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในวังไม่เคยได้ออกไปดูโลกภายนอก เขาทำได้แค่เขียนนวนิยายจนโด่งดังทั่วบ้านทั่วเมือง กับนางเอกที่เป็นนักบันทึกประวัติศาสตร์สาวที่ไม่ค่อยได้การยอมรับเนื่องจากเป็นผู้หญิง จึงพยายามพิสูจน์ตัวเอง แต่แล้วทั้งคู่ก็ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกันจนเกิดเป็นความรักขึ้นมา

ภาพจาก : IMDb

5.Mr. Queen

เป็นซีรี่ย์พีเรียด คอมเมดี้ ที่คนพูดพูดถึงเป็นจำนวนมาก กับเรื่องราวของเชฟหนุ่มหนุ่มชื่อดังที่ประสบอุบัติเหตุแล้วฟื้นขึ้นมาปรากฏว่าอยู่ในร่างของราชินีในยุคโชซอนของพระเจ้าชอลจง กษัตริย์ที่ซ่อนความลับเอาไว้มากมายแล้วต้องได้มาเจอกับการแย่งชิงอำนาจของสองตระกูลในยุคนั้น เป็นซีรี่ย์ที่ตลกมากกก นางเอกจ้างร้อยเล่นล้าน

ภาพจาก : pantip

#ซีรี่ย์เกาหลี #netflix #ซีรี่ย์จีน

5 ซีรีส์พระเอกคลั่งรัก ดูแล้วฟิน อิน จิกหมอน ที่ห้ามพลาด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้นั่งดูซีรีส์สักเรื่องในวันว่าง ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจรรมที่ผู้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะให้ความบันเทิง สนุกสนาน และช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากการเรียนหรือทำงานแล้ว เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนหลงรัก ซีรีส์พระเอกคลั่งรักอย่างแน่นอน เนื่องจากหลายเรื่องจัดเต็มทุกอรรถรส พระเอกหล่อ เท่ จูบละมุน ชวนฟิน อิน เขินตัวม้วนแบบหยุดดูไม่ได้ จะมีเรื่องไหนบ้างตามมาเช็คลิสต์กันได้เลย

                  1. You Are My Glory (2021) ดุจดวงดาวเกียรติยศ เมื่อโชคชะตาพาให้มาพบเจอกันอีกครั้งของพระนางที่เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในสมัยมัธยม ซึ่งในตอนนี้นางเอกกลายเป็นดาราโด่งดัง ส่องแสงประกายแวววาวในวงการบันเทิงเกาหลี ส่วนพระเอกทำงานเป็นสถาปิกอวกาศ คอยวิจัยและออกสำรวจอวกาศ และเมื่อนางเอกได้โอกาสเป็นพรีเซนเตอร์เกมชื่อดังแต่กลับเล่นไม่เป็น ด้านพระเอกกำลังอยู่ในช่วงพักร้อน และมีทักษะการเล่นเกมเป็นเลิศ เมื่อต้องให้ความช่วยเหลือนางเอกในเรื่องเกม ความรักจึงค่อย ๆ ผลิบาน เรื่องนี้เรียกได้ว่าหวานจนคนดูต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียวด้วยเป็นซีรีส์พระเอกคลั่งรักแบบสุด ๆ กว่าจะจบซีซันฟินจนจิกหมอนขาดกระจุยไปหลายใบอย่างแน่นอน

                  2. Falling Into Your Smile (2021) รักยิ้มของเธอ บอกเล่าถึงทีมแข่งขันอีสปอร์ต ZGDX ที่ผู้เล่นของทีมมีอาการบาดเจ็บจึงจำเป็นต้องถอนตัวออกจากทีมกะทันหัน จึงมีความจำเป็นต้องหาผู้เล่นคนใหม่ กระทั่งได้หญิงสาวที่มากความสามารถ แต่เธอกลับไม่เป็นที่ยอมรับจากผู้คนมากนัก และต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเธอก็มีความเก่งกาจไม่แพ้ผู้ชายเหมือนกัน นอกจากนี้เธอยังสามารถพิชิตใจหัวหน้าทีมซึ่งเป็นพระเอกที่มีบุคลิก ดุ ขี้แกล้ง แถมยังปากจัดได้อีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาด เพราะพระเอกคลั่งแบบเจ้าเล่ห์ คลั่งแบบเก็บไม่อยู่ ครั่งรักไม่เป็นสองรองใคร คลั่งชนิดที่ว่าทุกคนบนโลกรู้ว่าเขารัก

                  3. What’s Wrong With Secretary KimM (2018) รักมั้ยนะ เลขาคิม? เมื่อเลขาคู่ใจมาขอลาออก เจ้านายสุดปังต้องหาทางยื้อให้เธอกลับมาเป็นเลขาของเขาอีกครั้ง เพราะรู้หัวใจตัวเองแล้วว่าเธอไม่ได้มีความสำคัญแค่เรื่องงานเท่านั้นยังมีความหมายกับชีวิตของเขาด้วย เรียกได้ว่าเป็นท่านประธานที่คลั่งรักเลขาสาวสวยเป็นอย่างมาก อ้อนแบบสุด ๆ เพียงเห็นชายอื่นมาถูกเนื้อต้องตัวเลขาเพียงนิดเดียวเป็นอันต้องของขึ้นกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังคลั่งแบบคนรวย สายเปย์มาเป็นอันดับต้น ๆ นับประธานสายคลั่งรักที่ไม่มีโครสามารถดึงตำแหน่งนี้ลงได้เลย

                  4. Search: WWW (2019) หญิงสาววัย 38 ปี ที่ทุ่มเทให้กับการทำงานมากจนเกินไป แต่ดันเผลอไปมีความสัมพันธ์พิเศษแสนลึกซึ้งกับชายหนุ่มคนหนึ่งในชั่วข้ามคืน ซึ่งมารู้ภายหลังว่าเขาอายุห่างจากเธอมากถึง 10 ปี แต่นั่นกลับกลายเป็นความรักที่เขาจะต้องตามตื้อนางเอกเพื่อคบเป็นแฟนให้ได้ ทั้งอ้อนหนักมาก เอาใจใส่เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารัก สดใส จนคนดูต้องฟิน อิน และเทใจไปตาม ๆ กัน

                  5. The Oath of Love (2022) คุณคือคำปฏิญาณแห่งรัก อีกหนึ่งซีรีส์พระเอกคลั่งรักที่ห้ามพลาด บอกเล่าถึงหญิงสาวแสนร่าเริง ที่ต้องมารู้ความจริงว่าพ่อของเธอป่วยเป็นโรคมะเร็ง และไม่ยอมเข้ารับการรักษา เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อพาพ่อไปโรงพบาลให้ได้ กระทั่งได้พบกับหมอรูปหล่อเจ้าระเบียบและรักความสะอาด ทั้งคู่เคยผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากมาเหมือน ๆ กัน ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันก็เริ่มก่อเกิดเป็นความรัก ความห่วงใย โดยเรื่องนี้พระเอกรักและให้เกียรตินางเอกเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าได้ใจคนดูไปเต็ม ๆ

              ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของซีรีส์พระเอกคลั่งรักที่อยากจะแนะนำเท่านั้น ยังมีอีกมากมายหลายเรื่องที่มีความฟิน อิน ระดับจิกหมอนขาดกันเลยทีเดียว สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะดูเรื่องไหนสามารถนำลิสต์ข้างต้นไปลองเปิดดูกันได้ รับรองว่าทุกเรื่องจะมาทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจ มีการสอดแทรกมุมมองแง่คิดด้านความรักต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ควรสนุบสนุนผุ้สร้างด้วยการใช้รับชมผ่านแอป และแพลตฟอร์มออนไลน์แบบถูกลิขสิทธิ์ด้วย เพื่อจะได้มีผลงานดี ๆ ออกมาให้ได้รับชมอย่างยาวนาน

เครดิตภาพ : nonkorea.com / workpointtoday.com / sudsapda.com

YouTube : จัดอันดับ 7 ซีรี่ย์เกาหลี คลั่งรัก | คลั่งรัก ฟินจิกหมอน จูบหนักมากก ♥

#ซีรีส์พระเอกคลั่งรัก #ซีรี่ย์เกาหลี #netflix

‘Top Gun: Maverick’ ทำรายได้ทะลุ 800 ล้านดอลลาร์

ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศที่ใหญ่ที่สุดของ Tom Cruise

“Top Gun: Maverick” ทำรายได้ทะลุ 800 ล้านดอลลาร์ในบ็อกซ์ออฟฟิศ ทั่วโลก และด้วยการก้าวข้ามเหตุการณ์สำคัญนั้น ตอนนี้ก็รั้งอันดับภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในอาชีพเรื่องราวของทอม ครูซ

ภาคต่อของ “Top Gun” ภาพยนตร์แอคชั่นวิชาการบินในปี 1986 ที่ครองตำแหน่ง A-list ให้แข็งแกร่ง ได้แซงหน้า “Mission: Impossible – Fallout” ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของนักแสดงด้วยเงิน 791.1 ล้านเหรียญทั่วโลก ยอดรวมอยู่ที่ 806.4 ล้านดอลลาร์ โดย 422.2 ล้านดอลลาร์ของเงินรางวัลที่น่าประทับใจนั้นมาจากผู้ชมในประเทศทำให้ Top Gun: Maverick” เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดแห่งปีในอเมริกาเหนือ

นักวิจารณ์ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มาก โดยให้คะแนน “มะเขือเทศสด” ถึง 97% และยกย่องวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ที่ตระการตา รวมไปถึงการผสมผสานของความหลังในภาพยนตร์ภาคแรกด้วยเรื่องราวที่ดึงดูดใจคนดูรุ่นใหม่ที่มา ที่ดีหลังยุคเรแกน

การเปิดตัว Paramount ยังคงเป็นความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างสตูดิโอกับครูซ เขายึดแฟรนไชส์ ​​“Mission: Impossible” ของ Paramount และยังเคยแสดงในภาพยนตร์ Paramount เช่น “Days of Thunder,” “The Firm” และ “Jack Reacher” ซึ่ง  “Top Gun: Maverick” เป็นภาพยนตร์ล่องเรือที่ใหญ่ที่สุดใน 23 ตลาด รวมถึงสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และบราซิล

ภาพยนตร์เรื่องนี้พบว่ากัปตันพีท “ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” มิทเชลได้รับคัดเลือกให้สอนนักบินรุ่นใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจอันตรายบนภูมิประเทศของศัตรู ไมล์ส เทลเลอร์, เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี, จอน แฮมม์, เกล็น พาวเวลล์, เอ็ด แฮร์ริส และวาล คิลเมอร์ร่วมแสดง ในขณะที่โจเซฟ โคซินสกี้ ซึ่งเคยร่วมงานกับครูซในภาพยนตร์เรื่อง “Oblivion” การTop Gun: Maverick” ล่าช้าหลายครั้งเนื่องจากการระบาดใหญ่

“Top Gun: Maverick” แซงหน้า ‘Doctor Strange 2′ ให้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดแห่งปีในสหรัฐฯ

“Top Gun: Maverick” ทำรายได้ทะลุ 400 ล้านดอลลาร์ในบ็อกซ์ออฟฟิศในประเทศ ทำให้เป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดแห่งปีในสหรัฐฯ ด้วยยอดขายตั๋วในอเมริกาเหนือ 401.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์เรื่องความรักชาติของ ทอม ครูซแซงหน้า “Doctor Strange in the Multiverse of Madness” (398 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อครองตำแหน่งอันดับ 1 เป็นเพียงภาพยนตร์เรื่องที่สองในช่วงเวลาแพร่ระบาด (“Spider-Man: No Way Home” เป็นภาพยนตร์เรื่องแรก) ที่ทำรายได้ทะลุ 400 ล้านเหรียญในอเมริกา

แน่นอน นี่แค่เดือนมิถุนายน ดังนั้น Top Gun: Maverick” จะต้องต่อสู้กับรุ่นใหญ่อย่าง “Thor: Love and Thunder” (8 กรกฎาคม), “Minions: The Rise of Gru” (1 กรกฎาคม) และ “Black Panther: Wakanda Forever” (11 พ.ย.) เพื่อรักษามงกุฎในประเทศให้ถึงปี 2565

ในระดับสากล ภาคต่อของ “Top Gun” ในปี 1986 ทำเงินได้ 362 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมทั่วโลกสูงถึง 783.8 ล้านดอลลาร์ แม้ตามมาตรฐานก่อนเกิดโควิด-19 “ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” ก็ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศได้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากยอดขายตั๋วยังคงแข็งแกร่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีมูลค่าอย่างน้อย 900 ล้านดอลลาร์เมื่อสิ้นสุดการแสดงละคร และอาจเกินระดับ 1 พันล้านดอลลาร์

เครดิตรูปภาพ variety.com

#ซีรี่ย์เกาหลี #netflix #ซีรี่ย์จีน #Top Gun: Maverick

Jake Gyllenhaal, Dennis Quaid, Lucy Liu ร่วมพากย์เสียงหลัก ‘Strange World’

Jake Gyllenhaal, Dennis Quaid, Lucy Liu และ Gabrielle Unionจะร่วมพากย์เสียงหลักของเรื่อง ‘Strange World’ ของดิสนีย์

Jake Gyllenhaal, Dennis Quaid, Lucy Liu, Jaboukie Young-White และ Gabrielle Union ได้ร่วมพากย์เสียงหลักของเรื่อง ‘Strange World’ ภาพยนตร์ผจญภัยที่กำกับโดย Walt Disney Animation Studios ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 23 พฤศจิกายน โดยพวกเขาได้ร่วมงานกับเจค จิลเลนฮาล ซึ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

‘Strange World’ กำกับการแสดงโดย ดอน ฮอลล์ ผู้ช่วยผู้กำกับ “Big Hero 6” และ “Raya and the Last Dragon,” เขียนบทและกำกับร่วมโดย กวี เหงียน ผู้ร่วมเขียนบท Raya and the Last Dragon,” โดย ‘Strange World’ ติดตามเรื่องราวของสามชั่วอายุคน ครอบครัว Clade นักสำรวจในตำนานที่มาถึงดินแดนที่พร่างพรายเต็มไปด้วยปรากฏการณ์ลึกลับ – ฝูงปลาบิน เสาหินเดินได้ และสัตว์ประหลาดที่ดูเหมือนปลาหมึก

‘Strange World’   เล่าเรื่องในรูปแบบภาพย้อนยุคของภาพยนตร์ไซไฟบียุค 50 เรื่อง ‘Strange World’ จะมีคุณปู่ Jaeger Clade ให้เสียงโดย Quaid Young-White พากย์เป็นหลานชาย, อีธาน Union ให้เสียงพากย์เป็น Meridian ซึ่งแต่งงานกับลูกชาย Searcher ที่เล่นโดย Gyllenhaal Liu คือ Callisto Mal หัวหน้า Avalonia ฉากมหัศจรรย์ของภาพยนตร์เรื่องนี้

‘Strange World’ เรื่องราวย้อนอดีตจะต้อนรับสหายที่ไว้ใจได้และการสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่แปลกประหลาด

‘Strange World’ ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของเอ็ดการ์ ไรซ์ เบอร์โรส์และจูลส์ เวิร์น เรื่องราวย้อนอดีตจะต้อนรับสหายที่ไว้ใจได้และการสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่แปลกประหลาด โดยมีตัวละครที่พูดไม่ได้ เช่น สุนัขสามขาของครอบครัว เลเจนด์ และสแปลตสีน้ำเงินเจลาติน สัตว์ประหลาดจาก โลกใหม่ที่แปลกประหลาด

นักแสดงเสียงเต็มรูปแบบได้รับการประกาศในงานแสดงของ Walt Disney Animation Studios ที่งาน Annecy Animation Festival ของฝรั่งเศส ซึ่งเริ่มต้นด้วยการมอบรางวัล Annecy Cristal กิตติมศักดิ์แก่ Jennifer Lee หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งมีชีวิตของ WDAS ที่รู้จักกันดีในฐานะผู้เขียนบทและผู้อำนวยการเรื่อง “Frozen” ซึ่งได้รับรางวัล เธอได้รับรางวัลออสการ์และ “Frozen II”

Walt Disney Animation Studios คัดเลือกสามซีเควนซ์จาก ‘Strange World’ ในตอนแรก อีธานเจ้าชู้กับนักเต้นหัวใจ ดิอาโซ ขณะที่เพื่อนๆ จากโรงเรียนต่างมองดู หยอกล้ออย่างเป็นมิตรและอบอุ่น ทำให้อีธานผิดหวังมาก ไม่นานนักเซิร์ชเชอร์ผู้เป็นพ่อก็เข้าร่วมด้วย ทำให้ลูกชายของเขาอับอายด้วยการแสดงการยอมรับมากเกินไป

ฉากที่สองที่เปิดเผยที่ Annecy เป็นฉากแอคชั่น ขณะที่ทั้งครอบครัวสำรวจถ้ำจากด้านในของเครื่องบินสีเขียวมะนาว ในไม่ช้าพวกเขาก็ถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิต Fuschia ที่บินได้ซึ่งดูเหมือนปลากระเบน Origami การโจมตีจบลงด้วยการแยกครอบครัวออก ผู้ค้นหาและสุนัขของเขาตกลงมาจากเครื่องบินและลงจอดในโลกใหม่ที่แปลกประหลาด ขณะที่อีธานและแม่ควบคุมเรือให้ปลอดภัยในลำดับที่สาม Searcher และสุนัขสำรวจสภาพแวดล้อมใหม่ของพวกเขา ภูมิทัศน์เรืองแสงที่ดูเหมือนปะการังเป็นสีชมพูสดใส

เครดิตรูปภาพ variety.com

#ซีรี่ย์เกาหลี #netflix #ซีรี่ย์จีน #ข่าวหนังอัปเดต