• Home
  • Tag: รีบดูก่อนตาย

รีวิวหนังข้างหลังภาพ (2001)

            หากพูดถึงภาพยนตร์พีเรียดอมตะในอดีตที่โด่งดังกันในประเทศไทยจนถูกนำมารีเมคหลายรอบ นอกจากคู่กรรมแล้วก็ยังมีหนังข้างหลังภาพนี่ล่ะค่ะที่ยังคงตราตรึงใจคนไทยมาจนถึงตอนนี้ เพราะเป็นภาพยนตร์รักของไทยที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมต่างแดน โลเกชั่นสวยงาม และจบลงด้วยพลัดพรากที่ทำให้น้ำตาไหลกันตาม ๆ ไปไม่ว่าจะถูกทำมาสักกี่เวอร์ชั่น โดยเฉพาะหนังข้างหลังภาพเวอร์ชั่น 2001 ที่ได้นักแสดงนำอย่างเคน ธีรเดช มารับบทเป็น “นพพร” และได้คาร่า พลสิทธิ์ มารับบทเป็น “คุณหญิงกีรติ” ที่ได้รับการขนานนามมาแล้วว่าคาร่าแสดงเป็นคุณหญิงกีรติได้สมบทบาทที่สุดและเวอร์ชั่นนี้ก็ดำเนินเรื่องตรงตามบทประพันธ์ของ “กุหลาบ สายประดิษฐ์” มากที่สุด จะน่าติดตามแค่ไหนเราไปดูกันดีกว่า

เรื่องย่อหนังข้างหลังภาพ (2001)

            หนังข้างหลังภาพ (2001) ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “นพพร”นักศึกษามหาวิทยาลัยริคเคียว ประเทศญี่ปุ่นอายุ 22 ปีที่ได้ถูกขอร้องจากพระยาอธิการบดีซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อตัวเองให้พา “คุณหญิงกีรติ”ซึ่งเป็นภรรยาอายุคราวลูกที่ตัวเองพามาฮันนีมูนด้วยไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในญี่ปุ่นเพื่อให้คุณหญิงมีความสุขกับการมาเยือนต่างแดนที่สุด ด้วยตัวเองนั้นแก่มากแล้วจึงมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงพอ ทำให้นพพรกับคุณหญิงกีรติได้ใกล้ชิดกันจนก่อเกิดเป็นความรักท่ามกลางบรรยากาศต่างวัฒนธรรมที่งดงามแห่งแดนอาทิตย์อุทัยในที่สุด

ความน่าสนใจของหนังข้างหลังภาพ (2001)

            หนังข้างหลังภาพ (2001) มีความน่าสนใจตรงที่ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศธรรมชาติและสภาพบ้านเมืองวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นสมัยก่อนที่รายล้อมรอบความรักของคู่พระนางที่เกิดขึ้นจากการที่ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันและกันผ่านการไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ คุณหญิงกีรติชอบนพพรที่เป็นคนอัธยาศัยดี อ่อนน้อม บริสุทธิ์ตามประสาเด็กหนุ่มผู้เพิ่งได้รู้จักกับความรักเป็นครั้งแรก ส่วนนพพรก็ชอบคุณหญิงกีรติที่ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี น่าเคารพ แต่ก็มีความเป็นตัวของตัวเอง แม้บุคลิกจะเป็นคนค่อนข้างเงียบ แต่ก็มีสดใสและอ่อนหวานภายในแบบที่เขาไม่เคยไม่เห็นในแบบของผู้หญิงคนไหนเช่นกัน ยิ่งฉากที่ทั้งคู่ไปเที่ยวมิตาเกะซึ่งเป็นที่มาของภาพวาดที่คุณหญิงมอบให้ก็ยิ่งน่าประทับใจ ทำให้รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณหญิงไม่เคยได้มีอิสระและทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริง ๆ แต่นพพรคือผู้ที่เปิดโลกให้เธอได้เห็นมัน แต่สุดท้ายความรักของทั้งคู่ก็ไม่อาจสมหวังเมื่อเธอมีสามีอยู่แล้ว และวันเวลาหลายปีก็ได้เปลี่ยนแปลงให้นพพรเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจนมองคุณหญิงเป็นเพียงผู้ใหญ่ที่ตัวเองให้ความนับถือและเคารพรักก็เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรคุณหญิงก็จะยังคงรักนพพรคนเดียวตลอดไปตราบสิ้นลมหายใจซึ่งจุดจบของข้างหลังภาพ ความจริงแล้วทั้งคู่นั้นรักกันด้วยหัวใจจริงอย่างที่ชายหญิงพึงมี แต่ตัวพระเอกตอนนั้นที่ยังอายุเพียง 22 ปีทำให้คิดว่าเมื่อรักแล้วก็ต้องเปิดเผยออกมาอย่างไร้เดียงสา แต่คุณหญิงนั้นเป็นผู้ใหญ่กว่าจึงรู้ว่าหากรักกับเขานั้นจะเป็นการผิดศีลธรรม เพราะเธอก็มีสามีอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อพระเอกโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจในจุดนี้ประจวบกับความห่างไกลทำให้ลืมความรักกันตามเวลา มีเพียงความผูกพันและฝังใจก็เท่านั้น

ข้อคิดดี ๆ จากหนังข้างหลังภาพ (2001)

            หนังข้างหลังภาพ (2001) ได้สอนให้เรารู้ว่า ความทรงจำเป็นสิ่งที่มีค่าเสียยิ่งกว่าภาพใด ๆ ที่แม้เราจะเห็นภาพได้อย่างชัดเจนด้วยเพราะเป็นรูปธรรมมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ชัดเจนและทรงคุณค่าต่อความรู้สึกมากที่สุดก็คือ “ความทรงจำในหัวใจ” แม้จะต้องพลัดพรากจากกันแต่ก็ยังรู้สึกมีความสุขโชติช่วงทุกครั้งที่ได้หวนนึกถึงครั้งหนึ่งที่เคยได้อยู่ด้วยกันและได้พบเจอกับใครสักคนที่ทำให้ยิ้มได้แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม

รูปภาพประกอบ : https://www.imdb.com/

https://www.youtube.com/watch?v=dufGhTPIHjA เพลง กีรติ ประกอบหนัง ข้างหลังภาพ (2001)

#ข้างหลังภาพ (2001) #หนังรักในตำนาน #รีบดูก่อนตาย

รีวิวหนัง The Letter จดหมายรัก (2547)

            หากใครที่ชอบหนังรักโรแมนติกที่มีความดราม่าเคล้าน้ำตาแต่มีกลิ่นอายที่สามารถตรึงใจคนดูได้แบบลืมไม่ลง เราขอแนะนำหนัง The Letter จดหมายรัก (2547) เลยค่ะ คนไทยที่เป็นสายหนังรักคงรู้จักกันดี เพราะเป็นหนังที่โด่งดังมากจนมาถึงปัจจุบันและทำให้อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเงียบเหงาห่างไกลความเจริญในหุบเขากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังซึ่งมีคนนิยมเดินทางมากันมากมายไม่ขาดสายเลย ต้องบอกก่อนว่าหนัง The Letter นี้ซื้อลิขสิทธิ์ต้นฉบับจากหนัง The Letter ของเกาหลีมารีเมคนะคะ จึงไม่แปลกใจเลยที่คนสมัยก่อนจะรู้สึกอิ่มเอมใจไปกับความรักรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนหนังรักของไทยเรื่องอื่น ๆ หากอยากรู้ว่าหนังรักเรื่องนี้จะประทับใจแค่ไหนก็มาดูรีวิวไปพร้อม ๆ กันเลย

เรื่องย่อของหนัง The Letter จดหมายรัก (2547)

            หนัง The Letter จดหมายรัก (2547) ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ดิว” โปรแกรมเมอร์สาวที่ทำงานอยู่กรุงเทพซึ่งได้มีโอกาสเดินทางขึ้นมาเชียงใหม่เพื่อร่วมงานศพของยายซึ่งเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่จนได้พบกับ “ต้น” ที่ทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ในอำเภอเล็ก ๆ แห่งนี้ พวกเขาได้ทำความรู้จักจนสนิทกันในระยะเวลาอันสั้น แม้ดิวจะกลับไปกรุงเทพแล้ว ต้นก็ยังคงแวะมาหา จนสุดท้ายโชคชะตาเล่นตลกให้ดิวได้กลับไปพักใจที่เชียงใหม่อีกครั้งจนได้มีเวลากับดิวและก่อเกิดเป็นรักแท้ของกัน ระหว่างนั้นต้นได้ไปเจอจดหมายเก่าของยายดิวซึ่งคนรักของยายได้เขียนให้ท่าน เขาจึงตั้งมั่นว่าสักวันตัวเองจะได้มีโอกาสเขียนให้ดิวบ้าง แต่จะทำอย่างไรเมื่อเขากำลังจะตายด้วยเนื้องอกในสมอง เช่นนี้แล้วจดหมายที่ต้นคิดจะเขียนให้ดิว…ดิวจะได้รับมันหรือไม่

ความน่าสนใจของหนัง The Letter จดหมายรัก (2547)

            หนัง The Letter จดหมายรัก (2547) มีความน่าสนใจตรงที่ตัวหนังได้บอกเล่าถึงชีวิตของนางเอกที่ต้องสูญเสียทั้งยายเล็กซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียวและสูญเสียเพื่อนสนิทที่สุดอย่าง “เกด” ไปเพราะผู้ชายที่คบด้วยทางอินเตอร์เน็ตฆ่า แต่ก็ยังดีที่นางเอกมีพระเอกคอยอยู่เคียงข้าง ได้พาเธอไปเห็นโลกใหม่แห่งธรรมชาติและขุนเขาในอำเภอเล็ก ๆ อันเงียบสงบของจังหวัดเชียงใหม่และสานความสัมพันธ์กันจนเป็นคนรัก พระเอกเป็นคนอ่อนโยนและแสดงความรักที่ทำเอาคนโสดอย่างเราอิจฉาหลายต่อหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นการบอกรัก การดูแลกันยามเจ็บป่วย และคอยเคียงข้างเมื่อมีปัญหากัน แม้สุดท้ายตัวเองจะเสียชีวิตด้วยเนื้องอกในสมองก็ยังมีจดหมายมากมายส่งมาให้นางเอกตลอดเวลาเพื่อเป็นตัวแทนให้นางเอกรู้สึกไม่เหงาและยังมีเขาคอยอยู่เคียงข้างตลอดเวลา ในจดหมายก็มีการบอกรัก มีวิธีดูแลตัวเอง ดูแลบ้าน การทำเมนูอาหารซึ่งปกติพระเอกจะเป็นคนทำให้นางเอก แต่เมื่อเขาไม่สามารถอยู่ทำหน้าที่นั้นได้แล้วก็ยังอยากให้นางเอกได้รับประทานอาหารอร่อยฝีมือตัวเองอยู่จึงบอกสูตรมาในจดหมาย รวมถึงบอกในสิ่งที่เขาอยากรักษาไว้นั่นก็คือ ธรรมชาติและต้นไม้บนดอย สุดท้ายนางเอกก็สามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่กลัวความสูญเสียใด ๆ อีก เพราะมีจดหมายของพระเอกที่ทำให้เธอเข้มแข็งได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง และยังมีลูกที่พระเอกได้มอบเป็นของขวัญซึ่งเธอให้ชื่อว่า “ตั้ม” ด้วย ฉากสุดท้ายที่นางเอกบอกให้ลูกวิ่งไปกอดพ่อซึ่งก็คือต้นบ๊วยที่นางเอกเคยนำเถ้ากระดูกพระเอกไปฝังดินนั่นทำเอาเราน้ำตาไหลและขนลุกจนอดปรบมือไม่ได้เลย เป็นหนังรักที่ควรค่าแก่การดูจริง ๆ

ข้อคิดดี ๆ จากหนัง The Letter จดหมายรัก (2547)

            หนัง The Letter จดหมายรัก (2547) ได้สอนให้เรารู้ว่าถึงแม้คนที่เรารักจะไม่อยู่ด้วยกัน แต่เราก็ยังสามารถสัมผัสถึงความรักอันสูงส่งที่เขามีต่อเราได้ตลอดเวลา ในความรักนั้นเต็มไปด้วยความหวังดี ความห่วงใย และหัวใจของเขาที่ยังคงเต้นอยู่ในตัวคุณเมื่อคุณนึกถึงเขา จดหมายทุกฉบับคือสิ่งที่ยืนยันว่าความรักที่เขามอบให้คุณมีเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่มีใครแทนใครได้และจะอยู่ในความทรงจำจนชั่วชีวิต

รูปภาพประกอบ : https://www.imdb.com/

#รีบดูก่อนตาย #หนังรักไทยในตำนาน #หนังดราม่าต้องดู