• Home
  • Tag: รีวิวซีรี่ย์เกาหลี

รีวิวซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Tale Of The Nine Tailed

ถ้าพูดถึงตำนานรักจิ้งจอกเก้าหางหลายคนก็คงจะคุ้นเคยกับซีรี่ย์พล็อตแนวนี้กันอยู่แล้วแต่เรื่องนี้ได้ทำออกมาเป็นพล็อตแนวใหม่ให้ดูน่าสนใจขึ้นกว่าเดิม และแน่นอนอยู่แล้วถ้าให้พูดถึงคำว่าตำนานคงจะเป็นอะไรที่ผ่านมานานมากแล้วจนลากยาวมาจนถึงปัจจุบันและก็อาจจะเป็นการรอคอยอีกฝ่ายนึงกลับชาติมาเกิดไม่ว่านานแค่ไหนถ้ามันสำคัญมากจริงๆเขาก็คงจะรอ และซีรี่ย์เรื่องนี้ก็เป็นแนวดราม่าโรแมนติกผสมกับมีความลี้ลับเหนือธรรมชาติอยู่ด้วย และก็มีการพูดถึงในชาติอดีตที่ผ่านมานานแสนแล้ว

ซึ่งการเล่าเรื่องราวทั้งหมดก็เป็นการเล่าเกี่ยวกับ อียอน ชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นจิ้งจอกเก้าหางมาตั้งแต่อดีต ในปัจจุบันนอกจากที่เขาจะรอเจอกับคนรักในอดีตของเขา เขาก็มีหน้าที่คอยจัดการกับพวกกลุ่มจิ้งจอกและสัตว์ต่างๆในตำนานที่มาคอยอาศัยอยู่ในร่างของมนุษย์ในปัจจุบัน การที่อียอนรอคอยเพื่อที่จะพบเจอกับคนรักของเขาในอดีตชาติก็เพราะว่าอยากที่จะคอยดูแลเธอและคิดไว้ว่าเมื่อเจอเธอแล้วเขาต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

แต่ถึงอย่างไรแล้วการตามหาหญิงสาวคนนั้นของอียอนก็ไม่ได้ราบรื่นดีนัก มีอุปสรรคขัดขวางมากมายโดยเฉพาะย่าของเขาที่คอยบอกอยู่ตลอดว่าให้ทำแค่เฉพาะหน้าที่ของตัวเองไม่ต้องคิดที่จะตามหาใครทั้งนั้นถ้าไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตไปมากกว่านี้ ถ้าถามว่าอียอนเชื่ออย่างที่ย่าของเขาพูดไหมบอกเลยว่าไม่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังมีความคิดแบบเดิม จนเขาก็มาเจอเข้ากับ นัมจีอา ที่ในปัจจุบันเธอเป็นโปรดิวเซอร์ นอกจากนี้รูปร่างลักษณะหน้าตาของเธอก็คล้ายคลึงมากกับหญิงสาวที่อียอนกำลังตามหาแต่เธอคนนี้ไม่สามารถคายลูกแก้ววิเศษออกมาได้เลยทำให้อียอนเริ่มสับสนเพราะว่าเขารับรู้ได้บางอย่างว่านัมจีอาคือคนเดียวกันกับคนที่เขากำลังตามหาอยู่

ในตอนที่เธอยังเด็กการที่นันจีอาและพ่อแม่ประสบอุบัติเหตุและพ่อแม่ของเธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย นัมจีอาเชื่อว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าอุบัติเหตุอย่างแน่นอน สิ่งเดียวหลังจากที่เขาโตขึ้นและอยากจะทำมันมากที่สุดคือการลองสืบตามหาพ่อแม่ของเธอเพราะนัมจีอาคิดอยู่เสมอว่าพ่อและแม่ของเธอยังไม่ตายถ้าตายแล้วเธอก็คงจะเห็นศพของพ่อกับแม่แล้วน่ะสิ และเมื่อเจอเขากับอียอนเธอเลยทำข้อตกลงกับเขาเพื่อที่จะสืบหาพ่อแม่ต่อไป

ในระหว่าที่ทั้งคู่ช่วยกันตามหาพ่อและแม่ของนัมจีอาก็ต้องพบเขากับ อีรัง น้องชายของอียอนที่คอยพยามปองร้ายและขัดขวางอยู่ตลอดอียอนเลยคอยช่วยปกป้องดูแลจีอาอยู่ใกล้ๆเพื่อที่ว่าเขาจะไม่ยอมเสียคนรักไปเป็นครั้งที่สองและเหมือนเดิมก็เพื่อที่จะใช้ชีวิตไปกับจีอาทำให้เธอมีความสุขไปจนแก่อย่างที่ไม่ได้มีในชาติที่แล้ว ซึ่งถ้าใครอยากรับชมย้อนหลังสามารถรับชมได้ทางแอพพลิเคชั่น VIU และ Netflix ได้ทั้งสองช่องทางเลย

ภาพจาก ; betaseries                          

ภาพจาก ; cinedope

ภาพจาก ; bollywoodhungama

ภาพจาก ; cheatsheet

#รีวิวซีรี่ย์เกาหลี #Tale Of The Nine Tailed #ซีรี่ส์เกาหลีแนะนำ

รีวิวซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Doctor Prisoner

มาในแนวซีรี่ย์ด้านหมอบ้าง บอกเลยว่าซีรี่ย์เกาหลีที่เล่าเกี่ยวกับการทำงานของหมอในโรงพยาบาลสนุกมากไม่แพ้พล็อตเรื่องแนวอื่นเลยจริงๆ ใครที่เป็นคอซีรี่ย์เกาหลีจะรู้ดีเลยว่า ถ้าเกาหลีทำซีรี่ย์เกี่ยวกับหมอต้องสนุกอีกแน่นอน ไม่ดูคือพลาดมากเลยแหละ แต่ในเรื่องDoctor Prisonerนอกจากจะเป็นซีรี่ย์หมอแล้วแต่ก็ยังมีความแตกต่างจากเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับหมออยู่มากเลย

เพราะเป็นอาชีพหมอที่ทำงานอยู่ในเรือนจำและนอกจากนั้นก็ยังมีด้านกฎหมายมาเกี่ยวข้องในด้านการเเพทย์อีกด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในตอนแรก นาอีเจ ถูกกล่าวหาและต้องรับโทษโดยการจำคุกเขาเลยตัดสินใจที่จะแก้แค้นหลังจากที่พ้นโทษออกมา และเมื่อเขาได้พ้นโทษออกมาแล้วนั่นก็เริ่มแผนการที่ตนเองวางไว้มาตั้งแต่ต้นนั้นก็คือกลับมาเป็นศัลยแพทย์และได้ประจำตำแหน่งเป็นผอ.ของศูนย์การแพทย์ในเรือนจำอยู่ที่โซลตะวันตกนั้นเอง แต่ก่อนหน้าที่เขาจะเข้าจำคุกเขาเป็นเพียงแค่ศัลยแพทย์ประจำแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลแทกัง แต่โชคชะตาดันใจร้ายกับเขาทำให้เขาไปมีเรื่องกับลูกเจ้าของโรงพยาบาล โดยทำให้นาอีเจนั้นพลาดกับการที่จะต้องไปช่วยชีวิตคนไข้อีกรายจนทำให้คนไข้เสียชีวิตเลยทำให้นาอีเจโดนยึดใบอนุญาตในด้านการประกอบวิชาชีพของตัวเองและมีโทษจนต้องโดนจำคุก นาอีเจได้ใช้ความรู้ทางด้านการแพทย์ทั้งหมดที่ตัวเองมีพร้อมกับด้านกฎหมายเพื่อมาแก้แค้นทั้งหมด ซึ่งที่บอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับด้านกฎหมายด้วยนั้นก็คือหลักสิทธิมนุษยชน นักโทษที่มีอาการป่วยหนักเข้าเงื่อนไขข้อกำหนดจะใช้สิทธิ์การระงับคดี ก็จะได้รับอนุญาตออกมาใช้ชีวิตรักษาตัวนอกคุกได้ปกติ โดยผ่านการตรวจร่างกายและมีใบรับรองแพทย์เป็นที่เรียบร้อย และใช่หมอนาอีเจก็ได้ทำการสร้างโรคขึ้นมาให้กับนักโทษกลุ่มนึงพร้อมกับขอออกใบรับรองระงับคดีและให้นักโทษที่เขาเป็นผู้ดูแลได้ออกมาใช้ชีวิตนอกคุกได้ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วนักโทษเหล่านี้ไม่ได้โรคอะไรร้ายแรงเลยเพียงแค่เขาคนนี้สร้างเรื่องราวการเจ็บป่วยขึ้นมาก็เท่านั้นเอง ซึ่งในการทำแบบนี้มันก็จะสื่อให้เห็นในหลายๆมุม เช่น ช่องโหวของกฎหมายที่ไม่ได้มีการตรวจสอบให้ดี รวมไปถึงมุมมืดของทางการแพทย์ด้วยเช่นเดียวกัน และที่สำคัญที่สุดเขาต้องการที่จะจัดการกับลูกเจ้าของโรงพยาบาลที่เคยทำให้เขาต้องจำคุกโดยที่มันไม่ใช่ความผิดของเขาเลย

แต่กฎหมายเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลยเพียงเพราะแค่เขาไม่ได้มีอิทธิพลเท่ากับลูกเจ้าของโรงพยาบาลความยุติธรรมเลยไม่บังเกิดกับเขาแม้แต่น้อย แต่ในการกลับมาแก้แค้นนั้นก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายของนาอีเจเลย เขายังต้องพบเจอคู่ต่อสู้มากมายหลากหลายแบบและมีการต่อสู้ที่พลิกไปพลิกมาอีกด้วย หากใครที่อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วหมอนาอีเจจะสามารถต่อสู้กับสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้หรือไม่สามารถไปรับชมย้อนหลังได้ทางแอพพลิเคชั่นVIU และNetflix ได้ทั้งสองช่องทางเลย

ภาพจาก ; ซีรีส์.com                                                   

ภาพจาก ; pantip

ภาพจาก ; minimore

#Doctor Prisoner #รีวิวซีรี่ย์เกาหลี #ซีรี่ส์หมอน่าดู

รีวิวซีรี่ย์เกาหลี love alarmทั้ง2ซีซั่น

เกริ่นไว้ตั้งแต่เริ่มเลยแล้วกันว่าใครที่ไม่ดูเรื่องนี้คือพลาดในพลาดมากๆ นอกจากพระเอกที่หล่อนางเอกที่สวยแล้วเนื้อเรื่องก็ยังสนุกมากๆอีกด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าซีรี่ย์แนวนี้ก็ได้สร้างมาจากเว็บตูนที่มีผู้คนชื่นชอบเป็นอย่างมาก โดยซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นเชิงเกี่ยวกับรักสามเส้าและก็เป็นการเล่าเรื่องที่จะใช้แอพพลิเคชั่นนึงในการเล่าเรื่องราวทั้งหมดและก็ทั้ง2ซีซั่นเลยนั่นเอง ชื่อของแอพพลิเคชั่นที่ว่านั้นก็ชื่อเดียวกันกับชื่อเรื่องเลยคือlove alarmหรือที่เรียกกันว่าแอพเตือนรัก

โดยที่แอพพลิเคชั่นนี้สามารถช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่ามีใครที่ชอบคุณอยู่บ้างผ่านการสแกนคนในบริเวณนั้นซึ่งระยะเพียงแค่10เมตรจากตัวแอพ แล้วถ้าเกิดว่ามีอยู่ในระยะนั้นก็จะมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในมือถือของเราทันที หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นแอพๆนึงที่ดูไม่มีอะไรมากก็เป็นเพียงแอพหาคู่แอพนึงก็เท่านั้น แต่แอพนี้ก็ได้สร้างปัญญาหลายๆอย่างให้กับผู้ใช้ได้เหมือนกัน ซึ่งในซีซั่นแรกก็จะมีการพูดถึง คิมโจโจ เด็กสาววัยมัธยมปลายที่การใช้ชีวิตของเธอนั้นไม่ได้เรียบง่ายเลยตั้งแต่พ่อและแม่ของเธอได้เสียชีวิตลง ในตอนแรกเธอเป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ได้สนแอพพลิเคชั่นนี้เลยถึงแม้ว่ากำลังเป็นที่นิยมมากๆในรอบตัวเธอ ต่อมาเป็น  ฮวังซอนโอ นักเรียนชายหนุ่มที่ทั้งหน้าตาดีและฐานะร่ำรวยสาวๆหลายคนต่างก็ชื่นชอบเขาคนนี้ แต่ครอบครัวเขาก็ดูไม่ค่อยอะไรกับเขาเท่าไหร่ประมาณว่าไม่ค่อยจะมอบความรักให้แต่เขาก็ชินและชากับสิ่งนี้มาตลอด ซึ่งสำหรับเขาแล้วแอพพลิเคชั่นนี้ทำให้เขารู้สึกประทับใจมากเพราะเวลามาโรงเรียนทีไรเสียงแจ้งเตือนก็จะดังทุกครั้งแต่ก็ประทับใจไม่สุดตรงที่ยกเว้นเวลาที่เขาอยู่ใกล้คิมโจโจ คนสุดท้ายคือ อีฮเยยอง ที่เป็นเพื่อนสนิทของฮวังซอนโออยู่บ้านรั่วเดียวกันและก็ยังอยู่โรงเรียนเดียวกันด้วย เขาคนนี้ไม่ต้องการที่จะใช้แอพพลิเคชั่นนี้มาเป็นตัวกำหนดความรู้สึกของเขาและคนอื่นเลยเน้นแสดงออกโดยที่ไม่เอาเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องใดๆ ความสัมพันธ์หลายๆอย่างของทั้ง3คนได้เกิดขึ้นมาเรื่อยๆจนลากมาในซีซั่นที่2

ซึ่งในซีซั่นที่2ก็จะเป็นการเฉลยความรักของทั้งสามคนที่สุดจะค้างคาตั้งแต่ซีซั่นแรก เวลาก็ได้ล่วงเลยไป4ปี ฮวังซอนโอที่เธอยอมตัดใจจากคิมโจโจถึงแม้จะรู้ว่าคิมโจโจยังรักเขาอยู่อยู่และได้หนีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศและกลับมาพร้อมกับแฟนสาวคนใหม่ ส่วนฝั่งของคิมโจโจนั้นได้มีการพัฒนาความสัมพันธ์กับอีฮเยยองแต่สุดท้ายเธอก็วนมาเจอกับฮวังซอนโอคนรักเก่าของเธอ การที่ได้กลับมาเจอกันนั้นก็เป็นสิ่งที่เตือนใจเธอว่าเธอต้องตัดสินใจแล้วก็เลือกที่จะอยู่กับคนที่สบายใจกว่า และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นในซีซั่นที่2 ซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วนั้น#ทีมซอนโอ หรือ #ทีมฮเยยอง ใครจะเป็นฝ่ายที่คิมโจโจเลือกก็สามารถไปรับชมย้อนหลังได้ทางแอพพลิเคชั่นNetflix ช่องทางเดียวเลยเพราะเป็นผลงานการสร้างของNetflix นั้นเอง

ภาพจาก ; Netflix                                                   

ภาพจาก ; sanook

ภาพจาก ; Twitter

#รีวิวซีรี่ย์เกาหลี #ซีรี่ย์ love alarm #ซีรี่ย์ฮิต Netflix

รีวิวซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Move to heaven

ถ้าถามว่าซีรี่ย์เรื่องไหนที่ทำให้เสียน้ำตาบ่อยที่สุดขณะดูและสามารถซึมได้ทั้งวันหลังที่ดูจบแล้วนั้น ก็คงจะเลี่ยงตอบว่าเป็นเรื่องMove to heaven ไปไม่ได้อยู่แล้ว เป็นซีรี่ย์เกาหลีที่ดีมากๆเลยพล็อตเรื่องสอนอะไรหลายๆอย่างได้อีกด้วย เห็นผ่านๆอาจจะคิดว่าเป็นซีรี่ย์ออริจินัลธรรมดาแต่จริงๆแล้วนั้นการเล่าเรื่องแต่ละซีนนั้นมีความหมายมากสามารถสร้างความรู้ความประทับใจให้กับคนที่รับชมได้มากอีกเช่นกัน ทุกการจากไปล้วนทิ้งร่องรอย

ของทุกสิ่งที่หลงเหลือไว้ล้วนเป็นตัวบอกเล่าความในใจของคนที่จากไปสู่คนข้างหลังที่ยังต้องอยู่ ชีวิตคนเราไม่มีคำว่าตลอดไป นี่คือพล็อตของเรื่องที่เล่าเรื่องออกมาให้กับคนดูได้รับชมกันนั้นเอง ซีรี่ย์เรื่องนี้สร้างจากชีวิตจริงๆที่มีการตีพิมพ์ลงในหนังสือซึ่งก็จะเกี่ยวกับการทำความสะอาดสถานที่ในแต่ละที่ที่มีเหตุการณ์การเสียชีวิตเกิดขึ้น โดยจะใช้ตัวละครที่มีนามว่า ฮันกือรู ในการเล่าเรื่องอายุของเขาเพียงแค่20ปีเท่านั้นโดยที่เด็กหนุ่มคนนี้ก็จะอาศัยอยู่กับพ่อของตัวเองเพียงสองคน และเขาก็ยังมีอาการแอสเพอร์เกอร์อีกด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเด็กคนนี้หัวไวแถมฉลาดมากด้วยเป็นเด็กที่ช่วงคิดช่างพูด ซึ่งพ่อของเขานั้นก็เป็นคนที่มีหน้าที่เก็บกวาดสถานที่เกิดเหตุที่มีการเสียชีวิตให้เหมือนใหม่จนแทบไม่เหลือร่องรอยของความสูญเสียที่ได้เกิดขึ้นและก็ยังสามารถรับฟังปัญหาเรื่องราวต่างๆของผู้ที่ได้ล่วงลับไปแล้วผ่านสิ่งของใช้ที่ยังคงหลงเหลืออยู่และก็จัดเก็บไว้ให้เป็นที่เป็นทาง ซึ่งที่ทำทั้งหมดนี้ก็ทำอยู่ภายใต้ชื่อของบริษัทMove to heaven นั้นเอง ซึ่งฮันกือรูก็จะเป็นคนที่คอยช่วยเหลือพ่อทุกครั้งที่มีคนโทรมาที่บริษัทและให้ไปเก็บกวาดสถานที่ เขาไม่เคยรังเกียจอาชีพนี้เลยแถมทำมันด้วยใจรักล้วนๆ ถ้าพ่อเขาบอกว่าดีเขาก็ว่าดี เขาจะเป็นคนที่เชื่อฟังพ่อมากกว่าใครคนอื่นและก็รักพ่อมากๆด้วย จนถึงคราวที่ฮันกือรูต้องเสียพ่อไปก็เลยทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวและไม่กล้าที่จะยอมรับความจริงได้ว่าพ่อของเขาไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ในขณะที่เวลาคนอื่นเสียชีวิตเขาสามารถบอกกับคนใกล้ตัวผู้เสียชีวิตให้ยอมรับความจริงและเดินหน้าต่อแต่เขาเองกลับทำไม่ได้ไม่กล้าแม้แต่จะเก็บกวาดข้าวของของพ่อตัวเองเพราะยังคิดอยู่เสมอว่าพ่อยังอยู่กับเขา และหลังจากที่พ่อเขาเสียคนที่คอยดูแลและเลี้ยงดูเขาต่อนั้นก็คืออาของเขา โจซังกู นั้นเอง ซึ่งอาของเขาก็พึ่งจะพ้นโทษออกมาไม่ทันจะข้ามวันก็กลายมาเป็นผู้ปกครองของฮันกือรูทันที และก็ต้องมาช่วยฮันกือรูทำหน้าที่เก็บกวาดที่เกิดเหตุโดยสานต่อจากพ่อของเขาเลย

และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ และที่บอกว่าเสียน้ำตาบ่อยที่สุดส่วนใหญ่ก็จะเป็นฉากที่ฮันกือรูรับฟังเรื่องราวต่างๆผ่านสิ่งของที่ยังคงหลงเหลืออยู่และในบางครั้งที่เขาไม่สามารถรับความจริงเรื่องของพ่อตัวเองได้ ใครที่อยากจะรับชมย้อนหลังสามารถรับชมผ่านทางแอพพลิเคชั่นNetflix ช่องทางเดียวเลย เพราะเป็นผลงานการสร้างของNetflix โดยเฉพาะ

ภาพจาก ; drama.kapook                                 

ภาพจาก ; Netflix

ภาพจาก ; pantip     

#รีวิวซีรี่ย์เกาหลี #ซีรี่ส์เด็ด Netflix #ซีรี่ส์เกาหลีน่าดู

รีวิวซีรี่ย์เรื่อง Kingdom 2 ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด 2 (2020)

ซีรี่ย์เรื่อง Kingdom 2 ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด 2 (2020) เป็นซีรี่ย์เกาหลีแนวประวัติศาสตร์ แฟนตาซี ระทึกขวัญ ผลงานการกำกับของ คิมซองฮุน ผลงานการเขียนบทของ คิมอึนฮี โดยซีรี่ย์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นจูจีฮุน มารับบทเป็น องค์รัชทายาทอีชาง องค์ชายแห่งรัชทายาทของราชวงศ์โชชอน ที่รู้เรื่องราวอาการป่วยขององค์พระราชา แต่เมื่อในวังกลับปิดข่าวและไม่ให้อนุญาตให้เข้ามา เขาจึงตัดสินใจที่จะปลอมตัวไปสืบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนรู้ว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร เขาจึงเข้าร่วมกับชาวบ้านเพื่อหยุดเรื่องราวทั้งหมด คนต่อมาคือแบดูนา มารับบทเป็น ซอบี หมอสาวที่คอยช่วยเหลือชาวบ้าน เธอทั้งโอบอ้อมอารี กล้าหาญ และยืนหยัดที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เธอเป็นเสมือนกองหลังที่คอยช่วยเหลือและให้ข้อมูลพร้อมแก่องค์รัชทายาท คนต่อมาคือริวซุงยอง รับบทเป็น อัครมหาเสนาบดีโจฮักจู  ข้าหลวงในวังที่มีความอำมหิต และเห็นแก่ได้ คนต่อมาคือคิมฮเยจุน รับบทเป็น พระมเหสีโจ พระมเหสีขององค์พระราชาที่กำลังป่วย เป็นลูกของเสนาบดีโจฮักจู โดยนางรอวันที่ลูกชายจะลืมตาดูโลกเพื่อสืบบัลลังก์ และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือคิมซางโฮ รับบทเป็น มูยอง องครักษ์คู่กายของรัชทายาทอีชาง ที่มาร่วมต่อสู้และช่วยเหลือองค์รัชทานาทแบบครั้งนับไม่ถ้วน ซีรี่ย์เรื่อง Kingdom 2 ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด 2 (2020) ออกอากาศทาง Netflix

เนื้อเรื่องย่อของซีรี่ย์เรื่อง Kingdom 2 ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด 2 (2020)

โดยซีรี่ย์เรื่อง Kingdom 2 ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด 2 (2020) เปิดเรื่องราวมาจากซีซั่นแรก โดยองค์รัชทายาทอีชาง ก็ยังคงต่อสู้กับกองทัพซอมบี้เพื่อปกป้องประชาชนของตัวเอง และได้ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังเมืองฮันยางเพื่อค้นหาต้นตอของโรคระบาด ในขณะที่โจฮักจูก็กระหายอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ความขัดแย้งทางการเมืองและการแย่งชิงอำนาจจึงเกิดขึ้น ด้านซอบี ก็ยังคงพยายามค้นหาสมุนไพรคืนชีพต่อไป แล้วเรื่องราวในซีซั่นนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน ซีรี่ย์เรื่อง Kingdom 2 ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด 2 (2020)

ความประทับใจหลังดูซีรี่ย์เรื่อง Kingdom 2 ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด 2 (2020)

โดยซีซั่นนี้ก็ยังคงเดินเรื่องต่อจากซีซั่นแรก แต่ในซีซั่นนี้เรื่องราวจะดำเนินเข้มข้นขึ้น และปมอะไรที่เคยค้างคาในซีซั่นแรกก็จะเริ่มกระจ่าง ทำให้เราเข้าใจและอินไปกับเรื่องราวเพิ่มมากขึ้นไปอีกใน ซีรี่ย์เรื่อง Kingdom 2 ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด 2 (2020)

คะแนนของเรื่องนี้ 8/10

อ้างอิงภาพจาก www.digitalspy.com

#Kingdom 2 #รีวิวซีรี่ย์เกาหลี #ซีรี่ส์ฮิตต้องดู