“The Phantom Of The Opera” ภาพยนตร์เพลงแนวลึกลับแสนโรแมนติก
ที่มาของภาพยนตร์ “The Phantom Of The Opera”
ภาพยนตร์ “The Phantom Of The Opera” หรือ “ปีศาจแห่งโรงอุปรากร” ถูกสร้างมาจากบทประพันธ์ของกัสตง เลอรูซึ่งเป็นกวีชาวฝรั่งเศสซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในโรงละครการ์นิเย่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีโคมไฟระย้าตกลงมากะทันหันทั้งที่โคมไฟก็ไม่ได้มีความเก่าเลย และนอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ลึกลับที่คนในโรงละครพากันเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหลากหลายรูปแบบในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกันโดยไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไรทำให้กัสตง เลอรูจินตนาการว่ามีปีศาจหรือผีซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของโรงละครคอยทำร้ายผู้คนจนเกิดเป็นจินตนาการในการประพันธ์วรรณกรรมเรื่อง “The Phantom Of The Opera” ขึ้นมา

เรื่องย่อของของภาพยนตร์ “The Phantom Of The Opera”
ภาพยนตร์ “The Phantom Of The Opera” เป็นภาพยนตร์เพลงหรือมิวสิคัลที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักสามเส้าของ “อีริค” ชายผู้รูปหน้าอัปลักษณ์ซึ่งถูกปกปิดไว้ด้วยหน้ากากครึ่งซีก เขาซ่อนตัวอยู่ในห้องลับใต้ดินของโรงละครอุปรากรอันมีชื่อเสียงของเมืองหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสอย่างสงบสุขมานาน ทว่าวันหนึ่งเมื่อเขาได้ยินน้ำเสียงร้องโอเปร่าแสนไพเราะของ “คริสทีน”ดังกังวานบนเวทีโรงละครก็รู้สึกหลงรัก แม้จะรู้ว่าคริสทีนมีแฟนหนุ่มคือ “ราอูล”อยู่แล้ว เขาก็อยากจะครอบครองหญิงสาวให้เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวจึงได้พาเธอมายังห้องลับใต้ดิน คอยสอนร้องโอเปร่าและคอยช่วยเหลือเธอ แต่คริสทีนกลับเลือกราอูลจนเกิดเป็นความรักสามเส้า
ความน่าสนใจของภาพยนตร์ “The Phantom Of The Opera”

ภาพยนตร์ “The Phantom Of The Opera” มีความน่าสนใจในเนื้อหาที่ชวนลึกลับทว่าแฝงด้วยความโรแมนติกของชายหญิงไม่ว่าคริสทีนจะเป็นฉากที่อีริคหรือแฟนธ่อมพาคริสทีนมาที่ถ้ำห้องลับใต้โรงละคร คอยอยู่ใกล้ชิดห่วงใยไม่ยอมห่างเหิน และฉากที่คริสทีนจูบกับราอูลท่ามกลางหิมะซึ่งทำให้ผู้ชมต่างไม่รู้จะอยู่ทีมพระเอกคนไหนดีกันเลยทีเดียว นอกจากนี้โลเกชั่นในเรื่องยังเป็นโรงละครเวที มีการสร้างแบบทุ่มทุนในหลายฉากโดยเฉพาะห้องลับของอีริคที่พอเรือเคลื่อนตัวมาถึงประตูก็จะเปิดเองพร้อมกับเทียนที่หรูหราและยิ่งเป็นการพูดสลับกับร้องเพลงป๊อปผสมโอเปร่าในทุกฉากก็ยิ่งทำให้ขนลุกมาก ทุกฉากในภาพยนตร์เรื่อง “The Phantom Of The Opera” เรียกได้ว่าจัดออกมาแบบไร้ที่ติ ทั้งบทเพลงที่แต่งทุกเพลง การแสดงสีหน้าท่าทางของนักแสดงทุกคน และมุมกล้องทำให้ดูแล้วอดที่ละมุนจนฟินจิกหมอนไม่ได้ ขนาดเป็นบรรยายภาษาไทยนะเนี่ย ต้องคัดนักแสดงมาดีขนาดไหนถึงสามารถทำให้เราอยากปรบมือชื่นชมทุกฉากได้ขนาดนี้ เล่นหนังก็เข้าถึงบทบาท พอร้องเพลงก็น้ำเสียงดี สูงแบบสุดยอด
สุดท้ายนี้ต้องบอกเลยว่าหากพลาดเรื่อง “The Phantom Of The Opera” แล้วคุณจะเสียใจ มันเป็นภาพยนตร์ที่เลอค่าราวกับได้นั่งดูละครเวทีอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์จริง ๆ นะคะ ยิ่งถ้าหาลำโพงดี ๆ มาต่อสายเข้าไปรับรองได้ฟีลดูละครเวทีเลย
เครดิตภาพ : https://www.imdb.com/
#The Phantom Of The Opera #รีวิวหนัง #หนังดีในตำนาน