Tag: #หนังน่าดู

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้มีการที่นำเนื้อเรื่องมาจากการ์ตูนออนไลน์ ชื่อดังชื่อ Little Miss Period ซึ่งช่วยกระตุ้นกระแสในสังคมญี่ปุ่นในวงกว้าง นำประจำเดือนที่หลายๆ คนมองว่าเป็นเรื่องสกปรก ยกขึ้นมาให้เป็นเรื่องปกติ และพูดกันได้อย่างเปิดเผย เรื่องราวของ 3 ตัวละคร ได้แก่…

1. Aoko บรรณาธิการสาวสวย
2. Hikaru นักเรียนผู้กำลังเผชิญหน้ากับการสอบ
3. Riho บล็อกเกอร์สาว ที่กำลังเดทกับชายหนุ่มคนหนึ่ง

โดยพวกเธอต้องพบเจอกับมาสค็อตสีชมพู และเธอมีชื่อว่า Seiri-chan  จนกระทั่งเกิดเป็นเรื่องราวสุดฮา กระตุ้นอารมณ์สนุกสนานอย่างแท้จริง พล็อตที่น่าสนใจจากประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้เรื่องที่เข้าใจยากๆ กลายมาเป็นเรื่องเข้าใจง่ายๆ โดยเฉพาะคุณผู้ชายก็จะเข้าใจได้แบบไม่ยากเลย

เรื่องราวธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาเพราะน้องเมนส์

แน่นอนการเป็นเมนส์ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ต้องประสบพอเจออยู่แล้ว หากแต่เรื่องนี้มีความแตกต่างที่ เพราะมี น้องเมนส์ โผล่ออกมาด้วย! และเข้าไปมีส่วนร่วมของสาวๆ ในเรื่อง

• เริ่มจาก การใช้ชีวิตในออฟฟิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต้องประสบกับชีวิตการทำงาน ที่โดนเจ้านายผู้ชายสวดเป็นระยะเวลานาน และเธอก็ยังต้องแบกรับภาระอันแสนปวดร้าว ที่มาพร้อมกับน้องเมนส์ อีกทั้งในขณะเดียวกัน เธอก็ยังต้องรับมือกับชีวิตส่วนตัวที่น่าปวดหัว เพราะเธอไม่อาจข้ามขั้นไปสู่การครองคู่ กับชายคนที่เธอรักได้ เนื่องจากลูกติดของเขาไม่เปิดใจให้เธอเลย
• หญิงสาว ที่มุ่งมั่นเพื่อที่จะทำตนเองให้ผ่านพ้นการสอบไปให้จงได้
• หญิงสาว คนที่ 3 ที่เป็นบล็อกเกอร์ ในวันหนึ่งที่เธอได้เจอผู้ชายที่เธอสนใจ

สรุป Little Miss Period

เล่าเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนของผู้หญิงออกมาได้อย่างเข้าใจง่าย อีกทั้งยังสื่อถึงเรื่องราวทางปัญหาทางร่างกายที่ต้องประสบพบเจอทุกเดือน จนกระทั่งส่งผล ต่อทั้งการทำงานรวมทั้งความสัมพันธ์ในชีวิตส่วนตัว คุณผู้หญิงที่เบื่อในเวลาที่เมนส์มา ถ้าดูเรื่องนี้แล้วจะรักน้องเมนส์มากขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่มีความเครียด หลายๆ ฉาก ขำจนกระทั่งกลั้นแทบไม่อยู่เลย

เครดิตภาพ online-station . nylonthailand.com

ข่าวความเคลื่อนไหวของวงการหนัง วงการภาพยนต์ แนะนำหนังดี แนะนำหนังน่าดู รีวิวหนังใหม่ ให้คอหนังได้ติดตามอัพเดตตลอด รวมถึงข่าวดารา นักแสดง รวบรวมประเด็นที่ห้ามพลาด พร้อมทุกสัปดาห์

#ก่อนตายต้องได้ดู! , #ข่าวดารา , #ข่าวเด่นประเด็นร้อน , #รีวิวหนังใหม่ , #หนังดังในอดีต ,  #karc.us,

หนึ่งในภาพยนตร์ที่เป็นที่จดจำและรวบรวมเหล่านักแสดงเด็กเป็นตัวนำของเรื่อง หลายคนคงจะนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง It(2017) ที่มีตัวหลักในการดำเนินเรื่องเป็นกลุ่มเด็ก ๆ ที่ต้องเข้าไปเผชิญกับเรื่องราวอันน่าขนลุกที่ตามรังควานชีวิตของพวกเขา

ภาพยนตร์แม้ลาจอไปได้สักพักแล้ว แต่กลุ่มเด็ก ๆ นักแสดงยังคงมีฝีมือการแสดงที่เตะตาเหล่าผู้กำกับอยู่ไม่น้อย หลาย ๆ คนได้รับโอกาสแสดงฝีมือในซีรีส์หรือภาพยนตร์หลากหลายเรื่องด้วยกัน หนึ่งในนั้นมีสองนักแสดงเด็กที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยอย่าง โซเฟีย ลิลลิส และวายแอต โอเลฟฟ์ ทั้งสองเคยร่วมงานกันมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง It ในบทบาทของเพื่อนที่ร่วมเผชิญปัญหากับปีศาจตัวตลกที่น่ากลัวร่วมกัน

ทั้งสองคนแม้มีบทบาททางการแสดงในภาพยนตร์เสมือนเป็นแค่เพื่อนร่วมฉากของกันและกันเท่านั้น แต่เมื่อทาง Netflix เปิดตัวซีรีส์เรื่อง I Am Not Okay With This กลับจับทั้งคู่มาสานสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นเลยทีเดียว ซีรีส์เรื่องนี้นำแสดงโดย โซเฟีย ลิลลิส ซึ่งรับบทเป็น ซิดนีย์ ตัวนำของเรื่องซึ่งกำลังประสบปัญหาด้านภาวะทางอารมณ์อันมีสาเหตุมาจากการฆ่าตัวตายของผู้เป็นพ่อที่เธอรัก

บวกกับมีเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อซิดนีย์กักเก็บความโกรธจนมันระเบิดออกมาและมันนำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรงอย่างที่เธอคาดไม่ถึง ในขณะที่วายแอต โอเลฟฟ์ เพื่อนร่วมงานในภาพยนตร์เรื่อง It กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในฐานะหนุ่มข้างบ้านของซิดนีย์ที่แอบหลงรักเธอ และเป็นคนเดียวที่รู้ความลับของซิดนีย์ที่ไม่อาจบอกให้ใครรู้ได้อีกด้วย

โซเฟีย ลิลลิส และวายแอต โอเลฟฟ์ เรียกได้ว่าเปลี่ยนบทบาทลบภาพวัยเยาว์จากภาพยนตร์เรื่อง It ออกจากสายตาคนดูได้อย่างมากมายเลยทีเดียว จากเด็กสาวสุดมั่น สวยจนหนุ่ม ๆ ต้องเหลียวมองในภาพยนตร์เรื่อง It สู่สาววัยรุ่นจอมเก็บตัวและมีบรรยากาศอึมครึมไม่น่าคบหา ในขณะที่โอเลฟฟ์เองก็เปลี่ยนจากหนุ่มน้อยเคร่งศาสนา มาเป็นหนุ่มติสขั้นสุด แถมยังหล่อคมเข้มขึ้นจนน่าจับตามอง แม้ทั้งสองคนจะได้รับบทบาทที่ค่อนข้างห่างเหินกันในภาพยนตร์เรื่อง It(2017)  แต่สำหรับซีรีส์เรื่อง I Am Not Okay With This คนดูจะได้เห็นความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสองคนในเรื่องที่นำเสนอได้น่าสนใจและซับซ้อนไม่แพ้ปริศนาในเรื่องเลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจาก : instagram sophialillis

ข่าวความเคลื่อนไหวของวงการหนัง วงการภาพยนต์ แนะนำหนังดี แนะนำหนังน่าดู รีวิวหนังใหม่ ให้คอหนังได้ติดตามอัพเดตตลอด รวมถึงข่าวดารา นักแสดง รวบรวมประเด็นที่ห้ามพลาด พร้อมทุกสัปดาห์

#ก่อนตายต้องได้ดู! , #ข่าวดารา , #ข่าวเด่นประเด็นร้อน , #รีวิวหนังใหม่ , #หนังดังในอดีต ,  #karc.us,

แฟนคลับซีรีส์เกาหลีหรือผลงานภาพยนตร์เกาหลีใต้ในยุคแรก ๆ ของบ้านเรา ไม่มีใครไม่รู้จักผลงานภาพยนตร์สุดแสนโรแมนติกละมุนหัวใจอย่างเรื่อง The Classic(2013) ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองวัย ซึ่งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนละช่วงเวลา กลับมีเหตุการณ์ที่ซ้ำรอยเดิมให้ตัวละครได้เรียนรู้และกล้าที่จะตัดสินใจ The Classic ภาพยนตร์สุดโรแมนติกเรื่องนี้ก็ได้นางเอกมากฝีมือที่คนไทยต่างรู้จักกันดีอย่าง ซนเยจิน ที่มีผลงานล่าสุดกลับมาทวงบัลลังก์ได้อย่างสมศักดิ์ศรีอย่างเรื่อง  Crash Landing on You ที่เพิ่งปิดตัวลงไปได้อย่างสวยงาม สร้างประวัติศาสตร์แห่งวงการซีรีส์ให้เป็นที่จดจำสำหรับแฟน ๆ ได้ทั่วโลกกันเลยทีเดียว

            ด้วยเรื่องราวน่าประทับใจ แฝงดราม่าที่มีกลิ่นอายแห่งความรักของหนุ่มสาว The Classic จึงถูกหยิบยกขึ้นมาสร้างด้วยฝีมือคนไทยจากผู้กำกับอย่าง ธัชพงศ์ ศุภศรี และได้นางเอกน้องใหม่ที่ไม่ใหม่ในวงการอย่าง มิ้นท์ รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตรและนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย ในชื่อเรื่อง Classic Again ที่ฉายให้ชมกันไปตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ใครได้ชมผลงานการแสดงของสาวมิ้นต์เรื่องที่ผ่านมากับทางช่อง 3 ต้องบอกเลยว่าสาวน้อยคนนี้มีดวงตาที่สื่ออารมณ์ความรู้สึกได้ดีที่สุด ยิ่งได้มารับบทบาทเป็นนางเอกนำในภาพยนตร์สุดโรแมนติก ในบทของ ดาหลา-โบต้า ดวงตาที่เปล่งประกายของสาวมิ้นต์สามารถเล่าเรื่อง และถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้เป็นอย่างดีทีเดียว

            แม้โลเคชั่นในเรื่องจะมีจุดเริ่มต้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย แต่ดูแล้วกลับไม่ขัดตาแฟน ๆ ภาพยนตร์ The Classic อย่างแน่นอน เพราะบรรยากาศทะเลและความเป็นธรรมชาติของภาคใต้ ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศความย้อนยุคและโรแมนติกในแบบของไทยได้เป็นอย่างดี ทางด้านสาวมิ้นต์ของเราที่ต้องรับบทบาทเป็นนางเอกทั้งสองวัย เรียกได้ว่าเป็นบทบาทการแสดงที่ทำให้สาวสวยคนนี้เติบโตขึ้นอีกขั้น ใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์ The Classic ฉบับดั้งเดิม หากได้ลองมาดู Classic Again ในฉบับของไทย รับรองว่าจะได้ความประทับใจกลับไปไม่น้อย โดยเฉพาะนางเอกของเรา มีฝีมือการแสดงที่น่าจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจาก : instagram mintranchrawee

ข่าวความเคลื่อนไหวของวงการหนัง วงการภาพยนต์ แนะนำหนังดี แนะนำหนังน่าดู รีวิวหนังใหม่ ให้คอหนังได้ติดตามอัพเดตตลอด รวมถึงข่าวดารา นักแสดง รวบรวมประเด็นที่ห้ามพลาด พร้อมทุกสัปดาห์

#ก่อนตายต้องได้ดู! , #ข่าวดารา , #ข่าวเด่นประเด็นร้อน , #รีวิวหนังใหม่ , #หนังดังในอดีต ,  #karc.us,

เรื่องราวของ Sayaka สาวน้อยที่มีอายุเพียงแค่ 8 ขวบ แต่เธอกลับถูกเพื่อนที่โรงเรียนกลั่นแกล้ง โลกสีหม่นๆของเธอกลับสว่างสดใสขึ้น หลังจากได้พบกับ เจ้า Lou สุนัขน่ารักสุดขี้อ้อน ที่เข้ามาสร้างความอบอุ่นและผูกพัน จนกระทั่งมันได้หายตัวไป! เด็กน้อย Sayaka ไม่อาจสลัดความเศร้าออกไปได้ หากแต่เพียงไม่นานเธอก็ได้พบกับเจ้าหมาสีดำ และมันก็พาเธอไปพบกับ คุณลุง Fuse เจ้าของร้าน Ladybug โดยเขาก็ยังทำใจกับการสูญเสียลูกชายไปไม่ได้เช่นกัน เมื่อคนขาดทั้ง 2 คนมาเจอกัน ก็ก่อให้เกิดเป็นมิตรภาพต่างวัยอันสุดตราตรึงขึ้นมา

ดัดแปลงจากเรื่องสั้น ที่ได้รับรางวัลด้านวรรณกรรมของญี่ปุ่น

ทำให้การันตีได้ถึงผลงาน หากแต่ถึงกระนั้นเมื่อนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ก็ยังไม่ได้มีการปรับการดำเนินเรื่อง ให้มีความหวือหวานน่าสนใจพอที่จะตรึงผู้ชมเอาไว้ได้ นอกจากนี้ด้วยกลวิธีการเล่าแบบวรรณกรรม ทำให้จำต้องมีการดัดแปลงเพื่อนำมาเล่าเรื่องในเว่อร์ชั่นภาพยนตร์ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะฉะนั้นในส่วนของเราเล่าเรื่องนั้น ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงการเพิ่มเติมเนื้อหาพร้อมทั้งผูกเรื่องราว ที่ก่อให้เกิดฉาก Drama ขึ้นมามากมาย
โดยตัวหนังมีการ พยายามขายฉากเรียกน้ำตาเยอะมาก ซึ่งก็ได้ผลอยู่เหมือนกัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีบางจุดที่มีการเล่าเรื่องแบบไม่น่าดึงดูด จนถึงขนาดมีช่วงที่แอบน่าเบื่ออยู่บ้าง อาจชวนให้หลับได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีการเปลี่ยนอารมณ์ พลิกจากหนังดรามาที่มีความสมจริง ไปสู่การเป็นภาพยนตร์แฟนตาซี ตามแบบฉบับวรรณกรรม ที่อาจจะแลดูเปลี่ยนเร็วมากจนเกินไปถึงขนาดผู้ชมยังรับไม่ทัน

สรุป : Show Me The Way to The Station

น่าจะเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่อง ที่โดนใจคนรักหนังญี่ปุ่นได้ไม่ยาก เหมาะกับผู้ชมที่ชอบคิดวิเคราะห์ ชอบชมภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ต้องคิดหลายตลบเมื่อชมจบ แต่หนังเรื่องนี้ก็มีจุดที่เข้ามาดึงดูดคนดูอยู่บ้าง อย่างน้อยการแสดงของสาวน้อย Sayaka รวมทั้งความน่ารักขนปุยของ Lou น่าจะตอบโจทย์คนรักเด็กและหมาได้อย่างไม่ยาก

เครดิตภาพ : จดอ – JUSTดูIT / SF Cinema