• Home
  • Tag: หนังสงคราม

Dunkirk ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวสงครามโลกครั้งที่สอง

            เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเหตุการณ์ใหญ่ระดับโลกอย่างสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นเป็นเหตุการณ์ที่ถูกหยิบยกนำมานำเสนอในรูปแบบของภาพยนตร์มากที่สุดอีกหนึ่งเหตุการณ์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะด้วยความยิ่งใหญ่ของสงคราม การต่อสู้ การสูญเสีย ที่เมื่อทำออกมาในรูปแบบภาพยนตร์แล้วทำให้ผู้รับชมรู้สึกเข้าถึงอารมณ์ภายในภาพยนตร์ที่มีหลากหลายได้เป็นอย่างดี และเรามักจะนึกได้ในทันทีหากมีการพูดถึงภาพยนตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ว่ามันจะต้องเป็นภาพยนตร์ที่มีฟอร์มยักษ์อย่างแน่นอน จึงไม่น่าแปลกใจนักหากจะได้รับความสนใจเมื่อมีการเปิดตัวออกมา เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่อง Dunkirk ที่ได้ผู้กำกับฝีมือดีที่มีแฟนคลับมากมายทั่วโลกอย่างคริสโตเฟอร์ โนแลนมานั่งแท่นกำกับด้วยตนเอง ขึ้นชื่อว่าเป็นงานของโนแลนทั้งทีแน่นอนว่านอกจากคุณภาพจะคับคั่งแล้วยังมีความสมจริงเป็นอย่างมากอีกด้วย เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีดีอย่างล้นหลาม

ภาพปกจาก : adaddictth.com/knowledge/Movie-Storytelling-Christopher-Nolan

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง Dunkirk 

https://www.bbc.com/news/world-europe-40803431

            Dunkirk เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุทธการยกพลขึ้นบกที่ชายหาดดันเคิร์ก โดยจะเล่า 3 มุมมองด้วยกันซึ่งประกอบไปด้วยทหารบกบนภาคพื้นดิน ทหารอากาศบนท้องฟ้า และการอพยพทางน้ำ คริสโตเฟอร์ โนแลนนั้นเลือกที่จะถ่ายทำในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์จริง ดังนั้นภาพที่เราจะได้เห็นนั้นจึงจะมีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะด้วยสภาพอากาศ ท้องฟ้า ทะเล โดยยุทธการนี้เป็นอีกหนึ่งยุทธการที่ได้รับการกล่าวถึงอยู่เป็นประจำ เป็นยุทธการที่ประสบความสำเร็จได้อย่างน่าเหลือเชื่อที่สามารถอพยพเหล่าทหารอังกฤษและฝรั่งเศสให้ออกจากพื้นที่สมรภูมิชายหาดในเมืองดันเคิร์กซึ่งมีจำนวนมากกว่า 338,000 นาย ในขณะที่ทหารบกบนภาคพื้นดินนั้นจำต้องถอยล่าจากการถูกกองทัพนาซีต้อนมาจนถึงชายหาด สถานการณ์เต็มไปด้วยความตึงเครียด บนน่านฟ้าเองก็ไม่แพ้กัน เหล่าทหารทั้งฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายนาซีต่างก็ห้ำหั่นกันเพื่อให้กองทัพของฝั่งตนเองนั้นได้เปรียบมากที่สุด ในขณะเดียวกันการอพยพทางน้ำก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดจำนวนเรือมีไม่พอที่จะรองรับทหารทั้งหมดจนต้องมีการเกณฑ์เอาเรือประมงของชาวบ้านออกสั่งมารับทหาร 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในยุทธการ Dunkirk 

https://www.pinterest.com/pin/343681015314630031/

            ยุทธการ Dunkirk นั้น เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากการที่ทหารฝั่งนาซีได้ตีล้อมกองทัพฝั่งสัมพันธมิตรซึ่งประกอบไปด้วยทหารชาวอังกฤษและฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่จนต้องถอยร่นมาถึงชายหาดดันเคิร์ก หากเพียงแต่กองทัพฝ่ายนาซีทำการบุกเข้าต่อสู้แล้วล่ะก็ไม่ว่าอย่างไรทหารฝ่ายสัมพันธมิตรก็จะต้องพบเจอกับความสูญเสียเป็นอย่างมากแน่นอน แต่ช่างน่าแปลกใจที่ฮิตเลอร์กลับตัดสินใจที่จะไม่ทำอย่างนั้น และปล่อยเวลายืดเยื้อจนเหล่าทหารฝั่งสัมพันธมิตรสามารถอพยพออกจากพื้นที่สมรภูมิได้จนหมด ถือเป็นยุทธการถอนกองกำลังที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก

Dunkirk (2017) – Opening Scene – HD

How ‘1917’ Was Filmed To Look Like One Shot | Movies Insider

#Dunkirk #หนังสงคราม #หนังคริสโตเฟอร์ โนแลน

1917 ภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ถ่ายทำแบบ Long Take

             ปกติแล้วเรามักจะพบเห็นภาพยนตร์ที่ถ่ายแบบ Long Take ในภาพยนตร์แนวอื่นๆ ที่ไม่ใช่แนวสงคราม นั่นก็เป็นเพราะว่าภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับสงครามนั้น ในหนึ่งฉากจะมีองค์ประกอบมากมายและทุกอย่างนั้นคือต้นทุน มันคงไม่คุ้มแน่หากเราจะระเบิดภูเขาเผากระท่อมหลายๆ รอบเพื่อให้การถ่ายทำแบบ Long Take ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด การที่ 1917 เลือกที่จะถ่ายทำหลายๆ ฉากแบบ Long Take โดยที่แทบจะไม่ใช้การตัดต่อช่วยนั้นถือเป็นความทะเยอทะยานเป็นอย่างมากของผู้กำกับฝีมือดีจากอังกฤษอย่างแซม เมนเดส ผู้ที่เคยครองรางวัลออสการ์มาแล้วหลากหลายครั้ง ในครั้งนี้นเขาเลือกที่จะหยิบยกเอาเหตุการณ์ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมาบอกเล่าผ่านมุมมองและการเล่าเรื่องของปู่แท้ๆ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้เข้าร่วมรบในสมรภูมิดังกล่าวนี้มาก่อน ทำให้เรื่องราวที่เราจะได้เห็นนั้นมีความค่อนข้างสมจริง และเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 นั้นไม่ค่อยมีคนหยิบยกมาเล่าเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

ขอบคุณภาพปกจาก : www.adventuredrivein.co.uk

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง 1917 

www.amazon.com/1917-George-MacKay

1917 – Official Trailer

            1917 นั้นจะเล่าถึงเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 ในสมรภูมิรบประเทศฝรั่งเศสที่เยอรมันกับอังกฤษนั้นกำลังห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด ทำให้สมรภูมิแห่งนี้เต็มไปด้วยทหารของทั้งสองฝั่งเป็นจำนวนมาก กลา ยเป็นพื้นที่อันตรายที่ใครเข้าไปก็มีโอกาสน้อยที่จะได้รอดชีวิตออกมา แต่สคฟังเพลงอฟิลด์และเบลกกลับได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจในการส่งสารที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากและข้อมูลนี้อาจจะช่วยชีวิตทหารร่วมชาตินับพันคนให้สามารถรอดพ้นจากกับดักของกองทัพเยอรมันได้ แต่พวกเขานั้นจะต้องใช้เส้นทางที่ข้ามเขตแดนของศัตรูเพื่อให้เดินทางไปส่งสารได้รวดเร็วมากที่สุด  สคอฟิลด์นั้นเดิมทีเป็นคนที่เคยได้รับเหรียญกล้าหาญมาก่อนแต่ก็ไม่ได้มองเห็นความสำคัญถึงขั้นที่นำมันไปแลกกับอาหาร เขามองว่าสิ่งที่มีค่าในชีวิตของเขาก็คือการได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแต่มันกลับเป็นเรื่องยากเนื่องจากเขานั้นได้รับภารกิจดังกล่าว ส่วนเพื่อนทหารที่มีชื่อว่าเบลกนั้นเป็นชายหนุ่มที่อ่อนประสบการณ์ในการร่วมสงคราม เขามองว่าสิ่งที่กำลังทำนั้นเป็นเพียงวีรกรรมที่จะสามารถเอาไปคุยโม้โอ้อวดได้เมื่อมีชีวิตรอดกลับไปถึงบ้าน นั่นเป็นเพราะว่าเขาเป็นเพียงแค่ทหารที่อยู่ในแนวหลังของสนามรบเท่านั้นจึงไม่เคยรู้ว่าจุดปะทะแนวหน้าน่ากลัวแค่ไหน และมันยังทำให้เขาประเมินสถานการณ์ผิดอีกด้วย

เหตุใดผู้กำกับจึงเลือกใช้เทคนิค Long Take ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 1917

https://www.vulture.com/2020/01/1917-movie-ending-explained.html

‘1917’ Behind-the-scenes Extended Featurette on One Long Shot

            ตามที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นว่าเทคนิคการถ่ายทำภาพยนตร์แบบ Long Take นั้น คือการถ่ายภาพตั้งแต่ต้นจนจบเป็นก้อนเดียวโดยไม่ใช้เทคนิคของการตัดต่อเข้ามาช่วย ซึ่งภาพยนตร์ที่ถ่ายทำด้วยเทคนิคนี้จะมีจำนวนคัตที่น้อยแล้วนำมาต่อกันจนกลายเป็นเรื่องราว ความยากของงานทำให้การถ่ายทำแบบนี้ไม่ค่อยปรากฏในภาพยนตร์สงครามเท่าไหร่นัก เพราะเป็นภาพยนตร์ที่มีองค์ประกอบของงานภาพค่อนข้างเยอะและมีรายละเอียดหลายจุดในแต่ละฉาก หากใครสักคนทำพลาดก็จะต้องเริ่มถ่ายใหม่ทั้งหมด แต่ด้วยความที่ 1917 เป็นภาพยนตร์ที่อยู่ในสงครามก็จริงแต่ตัวละครเอกนั้นเป็นคนส่งสารดังนั้นมันจึงสามารถถ่ายทางด้วยเทคนิคดังกล่าวนี้ได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งการถ่ายทำด้วยเทคนิคมีก็จะช่วยให้แต่ละฉากนั้นมีความสมจริงมากยิ่งขึ้นและนักแสดงเข้าถึงอารมณ์ในบทบาทได้มากกว่า

#1917 #หนัง Long Take #หนังสงคราม #หนังรางวัล

รีวิวหนัง Netflix : Da 5 Bloods ห้าเลือดอหังการ หนังเสียดสีของทหารผิวดำ

หนังเน็ตฟลิกซ์ หนังสงคราม สงครามเวียดนาม Da 5 Bloods ห้าเลือดอหังการ

เหมือนมาไก้ภูกจังหวะมากๆกับหนังเรื่อง Da 5 Bloods ห้าเลือดอหังการ หนังเน็ตฟลิกซ์ที่ตอนนี้กำลังไต่ระดับความนิยมขึ้นมาเรื่อยๆ เป็นหนังที่คุณจะได้กลิ่นอายของความไม่เท่าเทียมที่แทรกเข้ามา กลิ่นอายของวัฒนธรรมและการใช้ชีวิต เป็นหนังดีๆอีกเรื่องที่แนะนำว่าคุณห้ามพลาดเลยทีเดียว

เรื่องย่อ หนังเน็ตฟลิกซ์ Da 5 Bloods ห้าเลือดอหังการ

เป็นเรื่องราวของเพื่อนทหารที่เคยร่วมรบด้วยกัน อย่าง พอล(เดลรอย ลินโด), เอ็ดดี้(นอร์ม ลูอิส) , โอทิส(คลาร์ก ปีเตอร์), และเมลวิน(อิไซอาห์ วิท์ล็อค จูเนียร์) พวกเขาได้นัดมาเจอกันอีกครั้ง แต่ว่าการนัดกันในครั้งนี้เป็นภารกิจหนึ่งที่พวกเขาจะกลับมาทำมันให้สำเร็จ ก็คือการตามหาทองมูลค่ามหาศาลที่ครั้งหนึ่งในสมัยที่ยังรบด้วยกัน พวกเขาได้เจอกับทองพวกนี้ แต่ก่อนที่พวกเขาจะนำมันกลับไปก็เจอกับอุบัติเหตุเสียก่อน ซึ่งนอกจากนี้พวกเขายังได้สูญเสีบบุคคลสำคัญ นั่นก็คือ ผู้นำหมู่นอร์แมน(แชดวิก บอสแมน) ไปในครั้งนั้นอีกด้วย

หนังเสียดสี ความขัดแย้ง ความเท่าเทียมของทหารผิวดำที่พวกเขาไม่เคยได้รับ

ในสงครามเวียดนามในครั้งนั้นมีทหารผิวดำจำนวนมากถูดส่งไปรบที่ประเทศเวียดนาม แต่กลายเป็นว่าการเสียละของพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้เป็นที่จดจำเท่าที่ควร ในช่วงแรกของหนังเราจะได้รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์พวกนี้ ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องของการเหยียดสีผิวเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวต่างๆที่สะท้อนสังคมอีกด้วย ในช่วงแรกหนังใช้เวลาค่อนข้างเยอะไปกับการปูปมตรงนี้ และปูปมเกี่ยวกับปัญหาของตัวละครทั้งสี่คนที่ชีวิตของพวกเขาหลังสงครามเดินไปในทิศทางไหน ตัวหนังจะตัดสลับกันระหว่างเรื่องราวในปัจจุบัน และเรื่องราวในสมัยสงคราม แต่ว่าจากตัวอย่างแล้วหลายๆคนอาจจะคาดหวังถึงฉากสงครามอันดุเดือดก็เป็นได้ แต่ขอกเบรกไว้ตรงนี้ว่าเรื่องราวส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องราวในยุคปัจจุบันเสียมากกว่า

หนังเน็ตฟลิกซ์ ที่จะค่อยๆพาคุณคืบคลานเข้าไปสู่เรื่องราวความเป็นมนุษย์

การเดินทางเข้าป่าเพื่อตาหาทองคำในครั้งนี้นั้น ก็เปรียบเสมือนเครื่องย้อนเวลาที่พาพวกเขาย้อนความทรงจำกลับไปในช่วงที่พวกเขายังคงเป็นทหารอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าคุณจะได้เห็นแน่นอนว่าการเดินทางเข้าป่าของพวกเขาได้ส่งผลทางจิตใจของพวกเขาอย่างไรบ้าง และยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไร ก็ยิ่งเผยให้เห็นความดำมืดของจิตใจมนุษย์มากเท่านั้น ตัวหนังจะค่อยๆคลายปมออกมาเกี่ยวกับแต่ละตัวละคร ก่อนที่จะขมวดปมส่งท้ายถึงบทสรุปได้อย่างอยู่หมัด หากใครที่ชื่นชอบ หนังดี หนังเสียดสีสังคม หนังสงคราม ขอแนะนำ หนังเรื่อง Da 5 Bloods เรื่องนี้จาก Netflix

#หนังเน็ตฟลิกซ์ #Da 5 Bloods #หนังสงคราม